- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2020 16:47
- Hits: 2118
บล.ไทยพาณิชย์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 11-9-2020
การปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ปรับลงยังเป็นปัจจัยกดดัน SET ปรับลงต่อ
กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET ปรับตัวลงได้ต่อ หลังเกิดการรีบาวด์ก่อนหน้านี้ แต่กรอบบนถูกจำกัดบริเวณ 1300 จุด โดยปัจจัยกดดันหลัก ยังมาจากการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ปรับลง (ยังแนะนำลดน้ำหนักหรือหลีกเลี่ยง กลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และ ปิโตรเคมี) นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองในประเทศ และธปท.ที่ยังคงเกณฑ์ LTV เป็นปัจจัยลบต่อ SET เช่นเดียวกัน ด้านแนวรับอยู่ที่ 1282 และ 1276 จุด ตามลำดับ กลยุทธ์ พอร์ตลงทุนที่แนะนำซื้อสะสมก่อนหน้านี้ในสัดส่วน 50% หาจังหวะขายบริเวณ 1320 จุด เพื่อลดพอร์ต ส่วนการเก็งกำไรยังต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวน
ล็อคเป้าลงทุน:
- ให้รอขายหุ้นที่เราแนะนำซื้อมาก่อนหน้า 50% เมื่อ SET ฟื้นตัวขึ้นไปถึง 1320 จุด เนื่องจากเรามีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นกับความเสี่ยงเกิดแพร่ระบาด COVID-19 ในประเทศรอบ 2 รวมทั้งการเกิด Sell in September ส่วนหุ้นที่ให้ลดน้ำหนัก/หลีกเลี่ยงการลงทุน ยังคงเป็นกลุ่มเดิม คือ Consumer IT ธนาคาร สายการบิน สินเชื่อผู้บริโภค พลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ
- ยังชอบ BCH ที่เป็นหุ้น Defensive Play ในภาวะตลาดผันผวน ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 จะฟื้นตัวจากผู้ป่วยในประเทศกลับมาใช้บริการ รวมทั้งผู้ป่วยประกันสังคมฯ ทั้งยังมีรายได้เพิ่มเติมจากบริการตรวจวิเคราะห์ COVID-19นอกจากนี้ยังพบพัฒนาการเชิงบวกจากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ ทั้งยังมีความน่าสนใจในเชิง Valuation ที่ยังถูก
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดสหรัฐร่วงจากหุ้น Tech ส่วนยุโรปลดลงหลัง ECB คง ด.บ.
หุ้น Tech สหรัฐกดดันตลาด รวมทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ล่าสุดที่มากกว่าคาด ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับลง หลังการประชุม ECB ยังคงด.บ.และวงเงินมาตรการ PEPP ตามเดิม และปรับคาดการณ์ GDP ยูโรโซนปีนี้หดตัว -8% ดีกว่าเดิมที่ -8.7% แต่การฟื้นตัวของศ.ก.ดูช้ากว่าเดิมและเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมาย
# ธปท.ระบุมาตรการ LTV ยังจำเป็น ไม่เป็นอุปสรรคการซื้อบ้าน
โดยยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใน 2Q63 ยังขยายตัว 4.4%QoQ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความต้องการเทียมและปริมาณที่อยู่อาศัยส่วนเกินก่อนเหตุการณ์ระบาดของ COVID-19 ประเด็นนี้น่าจะกดดัน sentiment ต่อกลุ่มอสังหาฯ
# การแก้รธน.ต้องใช้เวลายาวนาน มีผลต่อ sentiment การลงทุน
โดยรองนายกฯ วิษณุ ระบุ หากตกลงกันได้ว่าจะแก้ไข จะใช้เวลา 1-2 เดือนพิจารณา และต่อด้วยการทำประชามติ คาดใช้เวลา 6-8 เดือน และกระบวนการแก้ไขใช้เวลาอีก 4-8 เดือน โดยรวมใช้เวลาทั้งสิ้นอย่างน้อย 10-16 เดือน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนอีกยาวนาน
Wealth Strategy
ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพ TBEV บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 1.5 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ “AA”
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย – กลุ่มอสังหาฯ หลังโควิด-19: ระมัดระวัง
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web