- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2020 15:55
- Hits: 1493
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 11-9-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 10 ก.ย.63 ปิด -2.51 จุด อยู่ที่ 1,290.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,183 ลบ.ต่างชาติซื้อ 2 ลบ. สถาบันขาย 629 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 338 ลบ. ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 17 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น SCC,PTTEP,PTTGC,BDMS,SCB และมียอดขายหุ้น STGT,STA,AOT,MINT,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 542 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTT,AOT,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 4,951 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 112,344 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 410 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -1.45%, S&P500 -1.76%, Nasdaq -1.99% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง -2.28 % นำโดย Netflix -3.9%, Apple -3.26%, Microsoft -2.8% ถูกแรงขายเนื่องจากมูลค่าปรับขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 884,000 ราย สูงกว่าคาดที่ 850,000 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 93,000 ราย อยู่ที่ 13.385 ล.ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.59% หุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มการเดินทางและสันทนาการปรับลดลง หลังนักลงทุนผิดหวัง ECB ประกาศตรึงนโยบายการเงินที่ระดับเดิม และไม่มีมาตรการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การเจรจา EU กับอังกฤษยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มูลค่าตลาดปรับสูงถึง +80 % จากจุดต่ำสุดใน มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนดีลการขายหุ้น TikTok นั้นประธานาธิบดีทรัมป์ยื้นยันเส้นตายวันที่ 15 ก.ย. นี้ ขณะที่การหารือมาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสระบาดระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่สามารถตกกันได้ ในกรอบวงเงินจะเป็น 1.3 ลล.ดอลลาร์ หรือ 2.2 ลล.ดอลลาร์ ส่วนการประชุม ECB วานนี้มีมติคงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 0 % , ดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB ที่ -0.50 % และคงวงเงินซื้อพันธบัตรโครงการเยียวยาไวรัสระบาดที่ 1.35 ลล.ยูโร จนถึง มิ.ย. 64 โดยยังไม่มีพิจารณามาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ส่งผลให้ดัชนีหุ้นยุโรปปรับลดลง สำหรับสถานการณ์ระบาดไวรัสนั้น จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในยุโรปตอนนี้สูงกว่าสหรัฐแล้ว เป็นสัญญาณเสี่ยงต่อการระบาดรอบ 2 ขณะที่ CEO ของ AstraZeneca ยืนยันความพร้อมจะผลิตวัคซีนต้านไวรัสได้สำเร็จในช่วงปลายปีนี้ ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐและยุโรป สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดทรงตัว -0.19% สถาบันขาย 629 ลบ. ต่างชาติซื้อ 2 ลบ. ปริมาณการซื้อขายลดลงอยู่ที่ 4.2 หมื่น ลบ. ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ค้าปลีก ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยแข็งกว่าดัชนีภูมิภาค วานนี้ดัชนีหุ้นอินโดนีเซียปรับลดลงกว่า -5 % หลังกรุงจากาต้าร์เตรียมกลับมาใช้ ม.ล็อกดาวน์อีกครั้ง แนวโน้มดัชนี SET คาดจะเป็นลักษณะทรงตัว ระหว่างรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่และรอประเมินสถานการณ์การเมืองในประเทศ
Daily Strategy
- • ดัชนี SET คาด Sideway ในกรอบแนวรับ 1,275 – 1,280 แนวต้าน 1,300 – 1,305 แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น SUPER, SVOA, AU ( +สัญญาณโมเมนตัมทางเทคนิค )
- • THANI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.90 บาท) คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีหลังคลายล็อกดาวน์ ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ยเดือนก.ค. และส.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,500 ลบ./เดือน (จาก 1,200ลบ./เดือนในQ2/63) ในขณะที่ Covid-19 ทำให้เกิด New Normal มีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ่น ธุรกิจ e-commerce ขยายตัว ส่งผลให้เกิดแรงหนุนต่อสินเชื่อกลุ่ม Logistic (ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 70% พอร์ตรวมของTHANI*) ทางบริษัทคาดว่า Q4/63 ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ1,800 ลบ./เดือน คาดเป้าทั้งปี ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จะอยู่ที่ 18,000-18,200 ลบ. ปัจจุบัน ณ Q2/63 NPLยังอยู่ในระดับไม่สูงที่ 5.1% ตลาดคาดกำไรสุทธิปี63 และ ปี64 ที่ 1,700 ล้านบาท(-13.43%YoY) และ 1,851 ล้านบาท(+8.90%YoY) ตามลำดับ
- • กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ 1) กลุ่มอิงปัจจัยราคาน้ำมัน ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นและการปรับราคา OSP เดือน ต.ค.ของซาอุฯ ส่งสัญญาณราคาน้ำดิบโลกพักฐานระยะสั้น หุ้นได้ประโยชน์มอง TASCO (ต้นทุนลด+การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 63) PRM (ต้นทุนลด+Sentiment ตลาด Contango) 2) กลุ่มยางพารา+น้ำมันปาล์ม ผู้ผลิตรายใหญ่ประสบปัญหา COVID-19 ทำให้ขาดแคลนแรงงานกระทบผลผลิตออกสู่ตลาดโลกลดลงเป็นบวกต่อราคา หุ้นที่ได้ประโยชน์ STA TRUBB NER (ราคาน้ำยาง ยางแผ่น ยางก้อน ปรับเพิ่มขึ้น) STGT SPACK (ความต้องการใช้ถุงมือยางและกล่องบรรจุภัณฑ์) AIE AI GGC (ราคา CPO B100 ในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือน ก.ค.63 ขณะที่มติประชุเคณะรัฐมนตรีล่าสุดให้รีบเร่งระบายสต๊อกในประเทศด้วยการส่งออกและเอาไปผลิตไฟฟ้า 3) กลุ่มถั้วเหลือง ราคากากถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรับความต้องการใช้ทำอาหารสัตว์ เป็นบวกต่อ TVO
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ต.ค. ปิด $-0.75 อยู่ที่ $37.30 /บาร์เรล Brent Futures พ.ย. ปิด -$0.73 อยู่ที่ $40.06 /บาร์เรล EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 5 แสน บาร์เรล โดย EIA ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีนี้ลง 2.1 แสน บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.32 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +9.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,964.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลัง ECB ประกาศคงนโยบายดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ขณะที่ Dollar Index ทรงตัว +0.09 % อยู่ที่ 93.3412
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +0.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -44.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +8.6 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 31.317 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -27 จุด อยู่ที่ 1,269
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.682% , 2 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.143
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.8335/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 38,436 ราย รวมอยู่ที่ 6,587,788 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,053 ราย รวมอยู่ที่ 196,291 ราย / อินเดียติดเชื้อเพิ่มขึ้น 96,760 ราย รวมอยู่ที่ 4,559,725 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
03 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
08 ก.ย. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
09 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ต่างประเทศ
07 ก.ย. US วันแรงงาน
09 ก.ย. US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ก.ค.)
10 ก.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ก.ย.)
EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
11 ก.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, JKN*, BGC*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web