- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 September 2020 23:28
- Hits: 1269
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-9-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 8 ก.ย.63 ปิด -18.15 จุด อยู่ที่ 1,293.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,368 ลบ.ต่างชาติขาย 126 ลบ. สถาบันขาย 2,182 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 52 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 111 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น AOT,PTT,SCB,MINT,BBL และมียอดขายหุ้น CPALL,ADVANC,KBANK,BDMS,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 636 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,KBANK,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 13,431 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 98,926 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,279 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -2.25%, S&P500 -2.78%, Nasdaq -4.11% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี -4.9% ถูกกดดันจากถ้อยแถลงประธานาธิบดีทรัมป์จะตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจึน และจะเรียกเก็บภาษีกับบริษัทที่จ้างงานในต่างประเทศ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่เทสลา -21.06% หลังไม่ได้ถูกนำเข้าไปคำนวณในดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -1.15% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี และยังกังวลอังกฤษอาจออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง ขณะที่รายงาน GDP Q2/63 ของกลุ่มยูโรโซนหดตัว -11.8% และส่งออกเยอรมัน ก.ค. +4.7% น้อยกว่าคาดที่ +5.0% MoM
Market View
• ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะลดห่วงโซ่อุปทานการผลิตกับจีน และเรียกเก็บภาษีจากบริษัทที่จ้างงานนอกสหรัฐ และกีดกันบริษัทที่เข้าไปลงทุนในจีนจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจกับรัฐสหรัฐ ตามแผนสร้างงานในสหรัฐ Made In America ส่งผลให้แรงกดดันข้อแย้งสหรัฐ – จีน อาจสูงขึ้นก่อนช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีใน พ.ย. นี้ ขณะที่ข่าวผลการทดลองวัคซีนของ Astrazeneca มีผู้ทดลองรายหนึ่งพบอาการป่วย ส่งผลให้แผนการทดลองของบริษัทอาจล่าช้ากว่ากำหนด ส่วนราคาน้ำมัน WTI Futures เช้านี้ -0.73 % อยู่ที่ 36.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอุปสงค์ความต้องการใช้ฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากผลกระทบไวรัสระบาดรอบ 2 และทางซาอุ อารามโคได้ปรับลดราคาขายน้ำมันทางฝั่งเอเชียใน ต.ค. นี้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ลดลงราว - 1 % สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.38% สถาบันขาย 2.1 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 126 ลบ. โดยกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมีปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มอาหาร CPF ถูกระทบจากราคาหมูในเวียดนามที่เริ่มปรับลดลง และกังวลผลกระทบหาก CPALL มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน ในส่วน ตลท. อาจพิจาณากลับใช้เกณฑ์ซิลลิ่ง ฟลอร์ และยกเลิกเกณฑ์ชอร์ต เซลล์ ในสิ้น ก.ย. นี้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยอาจผันผวนมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยการเมือง การแก้ไข รธน. , การชุมนุมเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด
Daily Strategy
• ดัชนี SET คาดถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ,ความผันผวนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อพิพาทสหรัฐ – จีน แนะนำ Wait & See และรอทยอยซื้อบริเวณแนวรับดัชนีที่ 1,275 – 1,286 จุด ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร RBF, TTCL, DOD
• EPG* ทยอยซื้อสะสม/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.00 บาท*) ผลการดำเนินงานน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 1 (ปิดงบ มิ.ย.) ไปแล้ว โดยธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มหลักไม่ว่าจะเป็น 1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น 2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก กำลังฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีโดยบริษัทประเมิน U-Rate ของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นและจะทำให้เกิด Economic of Scale ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบก็มีทิศทางลดลงตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นมีทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 Bloomberg Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ระดับ 816 ลบ. และ 1.03 พัน ลบ. -18.6%YoY, +27.2%YoY ตามลำดับ
• SAPPE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 22.00 บาท) แนวโน้มยอดขายกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H63 จากทั้งในและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศได้แรงหนุนจากสถานการณ์ COVID-19 เริ่มผ่อนคลาย สินค้าหลักประเภท Functional Drink ยังเป็นจุดแข็งตามกระแสรักสุขภาพ พร้อมวางกลยุทธ์เจาะกลุ่มตลาด Mass ตั้งเป้าออกสินค้าใหม่และขยายช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดต่างประเทศ Brand เครื่องดื่ม B’lue ได้สิทธิจำหน่ายเพิ่มในประเทศเกาหลีใต้ ลาว และกัมพูชา น่าจะช่วยหนุนการส่งออก ขณะที่ Margin แนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการใช้กำลังการผลิตและได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีสรรพสามิตลงตั้งแต่ ก.ค.63
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ต.ค. ปิด $-3.01 อยู่ที่ $36.76 /บาร์เรล Brent Futures พ.ย. ปิด -$2.23 อยู่ที่ $39.78 /บาร์เรล จากความกังวลอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวจากผลกระทบไวรัสระบาด ขณะที่บริษัทซาอุดี อารามโค ประกาศลดราคาน้ำมันให้กับผู้ซื้อเอเชียใน ต.ค. นี้ หลังอุปสงค์ในจีนยังชะลอตัว และหมดช่วงฤดูการขับขี่รถยนต์ในสหรัฐ
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค. ปิด +8.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,943.20 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงหันกลับเข้าซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐถูกแรงขาย แม้ว่า Dollar Index จะกลับมาแข็งค่า +0.40 % อยู่ที่ 93.445
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -36.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -19.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -13.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.39 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -21 จุด อยู่ที่ 1,328
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.669% , 2 ปีทรงตัวอยู่ที่ 0.141
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.8435/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 28,010 ราย รวมอยู่ที่ 6,513,680 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 480 ราย รวมอยู่ที่ 194,014 ราย / อินเดียติดเชื้อเพิ่มขึ้น 89,852 ราย รวมอยู่ที่ 4,367,436 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
03 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
08 ก.ย. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
09 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ต่างประเทศ
07 ก.ย. US วันแรงงาน
09 ก.ย. US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ก.ค.)
10 ก.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ก.ย.)
EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
11 ก.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, JKN*, BGC*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web