บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-8-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 28 August 2020 15:25; Hits: 4195

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-8-2020

Market Wrap-Up

• SET ปิดวันที่ 27 ส.ค.63 ปิด +4.26 จุด อยู่ที่ 1,326.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,172 ลบ.ต่างชาติขาย 3,070 ลบ. สถาบันซื้อ 2,923 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 160 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 958 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CRC,PTT,EGCO,TISCO,DCC และมียอดขายหุ้น GULF,CPALL,PTTEP,CPN,VGI มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 401 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ GULF,PTT,KBANK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,362 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 126,725 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,004 ลบ.

• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.57% , S&P500 +0.17% และ Nasdaq -0.34% หลังเจอโรม พาวเวล ประกาศเปลี่ยนใช้นโยบายเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย ให้เงินเฟ้อสามารถปรับขึ้นเหนือระดับ 2 % ได้ เพื่อหนุนตลาดแรงและเศรษฐกิจ ส่งผลให้แนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ วานนี้หุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐปรับขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับสูงขึ้น ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 1.006 ล.ราย น้อยกว่าคาดการณ์และ GDP สหรัฐ Q2/63 ครั้งที่ 2 หดตัว -31.7% น้อยกว่ารายงานครั้งแรกที่ -34.7% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.64% หุ้นกลุ่มทรัพยากรและธนาคารปรับลดลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับลดลง หลังเฟดใช้นโยยายเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย

Market View

• ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หลังเจอโรม พาวเวลแถลงใช้นโยบายเงินเป้าหมายเฉลี่ย 2 % แทนการกำหนดเงินเฟ้อเป้าหมายตายตัวที่ 2 % ในการประชุม Fed วันที่ 15 – 16 ก.ย. นี้ จะมีแถลงรายละเอียดของกำหนดช่วง +/- จากเป้าหมาย จากแนวทางดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำอีกนาน โดยเฟดยอมให้เงินเฟ้อสามารถเกินระดับ 2 % เพื่อหนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงและเศรษฐกิจ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรสหรัฐ และไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหุ้น ส่วนข่าววัคซีนนั้น Novavax ของสหรัฐ เผยเตรียมยื่นขออนุมัติวัคซีนใน ธ.ค. นี้ และคาดเสร็จสิ้นการทดลองทางคลีนิกใน Q4 นี้ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในยุโรป เช่น เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศส มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +0.32% สถาบันซื้อ 2.9 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 3 พัน ลบ. ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มคอมซูมเมอร์ไฟแนนท์และโรงไฟฟ้าที่ราคาหุ้นได้ปรับฐานลงมา ส่งผลให้ราคาเริ่มมี Upside เมื่อเทียบกับ Fair Value ขณะที่รัฐบาลเตรียมจะเปิดการท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน ต.ค. นี้ จะเริ่มที่ภูเก็ต , สมุย โดยการบินไทยเตรียมบินโดยเครื่องเช่าเหมาลำ 6 เส้นทางจาก เดนมาร์ก เยอรมัน อังกฤษ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง บินมาภูเก็ต หากประสบความสำเร็จจะเป็นจุดเริ่มของการเปิดภาคบริการท่องเที่ยว

Daily Strategy

• ดัชนี SET วางจุดสังเกตที่ 1,330 จุด หากผ่านได้มีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,340 – 1,350 จุด เก็งกำไรกลุ่มธนาคาร BBL,KBANK, SCB (+อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้น )/ CENTEL, MINT, AOT, AVV จากเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใน ต.ค.

• กลุ่มโรงไฟฟ้า / กลุ่มไฟแนนซ์ โดย 2 กลุ่มที่ได้รับผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ โดยกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์ในแง่ของการรีไฟแนนซ์ต้นทุนทางการเงินลดลง ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการพักฐาน GULF BGRIM GPSC มองว่าครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากการความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมและต้นทุนก๊าซที่ลดลง BCPG CKP เข้าสู่ช่วง High Season ของ Hydro ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินลดลงเป็นบวกต่อ MTC SAWAD BFIT แต่เรายังให้น้ำหนักการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน SINGER และมีตัวเลือกที่น่าสนใจอย่าง THANI หลังจากการเพิ่มทุนจะทำให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งพร้อมขยายสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการขนส่งในอุตสาหกรรม Logistics

• MEGA* ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 39.00 บาท*) กำไรสุทธิในช่วง 1H63 ออกมาดีกว่าตลาดคาดและเติบโตโดเด่น +31.5%YoY สำหรับเป้าหมายของรายได้จากการขายในปีนี้ผู้บริหารประเมินการเติบโตที่ 5-10%YoY โดยยอดขายทั้งในและต่างประเทศยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะตลาดในแถบอินโด-แอฟริกา ที่อุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพเริ่มเร่งตัวขึ้น สำหรับตัวบริษัทปัจจุบันก็กำลังลงทุนปรับปรุงโรงงานในไทยและขยายโรงงานยาในอินโดนิเซียและจะทยอยเพิ่ม Line การผลิตใหม่ๆขึ้น สำหรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 Bloomberg Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ระดับ 1.3 พัน ลบ. และ 1.43 พัน ลบ. +14%YoY, +10%YoY ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update (-) WTI Futures ต.ค.ปิด -0.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ $43.04 /บาร์เรล Brent Futures ต.ค. ปิด -$0.55 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.09 /บาร์เรล หลังจากผลกระทบจากเฮอริเคนลอราไม่มาก และบริษัทบีพีเตรียมความพร้อมที่จะกลับมาดำเนินการผลิตที่แท่นขุดเจาะในอ่าวเม็กซิโกอีกครั้ง

Gold Update (-) Gold Futures ธ.ค.ปิด -19.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,932.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไรหลังแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับต่ำ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่ Dollar Index ทรงตัวอยู่ที่ 93.0093

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -105.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -98.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +15.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -22.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี่อ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 31.28 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(-) ดัชนี BDI ปิด -5 จุด อยู่ที่ 1,504 จุด

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.785 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.162 %

(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 6.8936/USD

(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 45,699 ราย รวมอยู่ที่ 6,046,064 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,125 ราย รวมอยู่ที่ 184,778 ราย ( Worldometers )

Economic Calendar

ในประเทศ

24 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

26 ส.ค. (-28 ส.ค.) ตลท. จัดงาน Thailand Focus 2020: virtual conference

31 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที่4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

ต่างประเทศ

25 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer

Confidence) ( ส.ค.)

26 ส.ค. US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( ก.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ