WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 26-8-2020k f

Market Wrap-Up

  • •   SET ปิดวันที่ 25 ส.ค.63 ปิด -1.12 จุด อยู่ที่ 1,315.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,355 ลบ.ต่างชาติขาย 638 ลบ. สถาบันซื้อ 1,307 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 50 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 920 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KBANK,TOP,PTT,VGI,PTTEP และมียอดขายหุ้น MINT,CPALL,BDMS,GULF,CBG มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 620 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,KBANK,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 12,393 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 119,352 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,803 ลบ.
  • •   ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.21% , S&P500 +0.36% และ Nasdaq +0.76% วานนี้ Apple ปิด -0.80% ถูกแรงขายทำกำไร ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐชะลอการปรับขึ้น แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสุขภาพปรับเพิ่มขึ้น หลังหุ้นฮันนีเวลล์, เซลฟอร์ซดอทคอม, แอมเจน อิงค์จะถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี DJIA ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจนั้น Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.ลดลงอยู่ที่ 84.8 & ก.ค.ที่ 91.7 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.30% หลังเยอรมันรายงาน GDP Q2/63 หดตัวสูงสุด -9.7% ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ Covid-19 ในยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มยานยนต์, เหมืองแร่ ปรับลดลง

Market View

  • •   ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุน หลังการหารือข้อตกลงการค้าระหว่างผู้แทนการค้าสหรัฐ , รมว.คลังสหรัฐ กับรองนายก ฯ จีนมีสัญญาณบวก โดยทางจีนสัญญาจะสั่งซื้อสินค้าสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1.3 แสน ล.ดอลลาร์ รวมถึงมาตรการป้องกันการละเลิดลิขสิทธ์สหรัฐและยกเลิกข้อกำหนดถ่ายโอนเทคโนโลยี ช่วยลดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ลง ขณะที่สถานการณ์ระบาดไวรัส Covid-19 ในสหรัฐ รัฐฟลอริดาเริ่มลดลง แต่ในยุโรป เช่น สเปน เยอรมันมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น โดยยังต้องรอการเร่งพัฒนาวัคซีนของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งคาดน่าจะประสบความสำเร็จในช่วงปลายปีนี้ ทิศทางตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ทรงตัวระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมแจ๊คสัน โฮล เย็นวันพรุ่งนี้ เพื่อติดตามทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดทรงตัว -0.09% สถาบันซื้อ 1.3 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 638 ลบ. โดยการประชุม ครม. วานนี้ยังไม่นโยบายใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นอนุมัติเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ส่วนลดในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน, การขยายเวลาเก็บ VAT ที่ 7 % ต่ออีก 1 ปี ขณะที่ รมว.อุตสาหกรรมมีแนวคิดลดภาษีบุคคล, นิติบุคคลในกรณีซื้อรถยนต์ใหม่แต่ยังรอความชัดเจน ประเด็นการเมืองวันนี้ วิปรัฐบาลจะหารือแนวทางแก้ไข รธน. โดยตั้ง สสร.แก้ไข รธน.ใช้เวลาไม่เกิน 240 วัน

Daily Strategy

  • •   ดัชนี SET วันนี้คาดทรงตัวกรอบแนวรับ 1,305 - 1,310 จุด แนวต้าน 1,3201,325 จุด ยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนตลาด แนะนำซื้อ CPF, TU ได้แรงหนุนจากยอดส่งออกหมู ไก่ ทูน่ากระป๋องเพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่ม Defensive  
  • •   ILINK* ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.25 บาท*) Earning ในปีนี้อยู่ในทิศทางที่เติบโตสดใส จาก Backlog ที่แข็งแกร่งทั้งงานทางฝั่ง Engineering/Distribution และงานจากกลุ่ม Telecom สำหรับงวดผลการดำเนินงานที่ผ่านมาใน 1H63 กำไรสุทธิเติบโตถึง +115YoY สำหรับรายได้ปี 2563 น่าจะเติบโตได้ประมาณ +5%YoY แต่มองอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามสัดส่วนของการที่มีมาร์จิ้นสูงซึ่งกำลังทยอยรับรู้เป็นรายได้ของปีนี้ ส่วนงานใหม่ที่บริษัทสนใจประกอบไปด้วยงาน Sub Marine เกาะศรีชัง 700 ลบ. , เกาะเต่า 1,750 ลบ. และอื่นๆอีกซึ่งบริษัทมีโอกาสจะได้ สำหรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 Bloomberg Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ระดับ 234 ลบ. และ 303 ลบ. +88%YoY, +29.5%YoY ตามลำดับ
  • •   RS* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.30 บาท) ผู้บริหารปรับเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 4,200-4,300 ล้านบาท จากเดิมคาดเติบโต 30%YoY อยู่ที่ 5,250 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจมีเดียและอีเว้นท์ที่ไม่สามารถจัดงานได้ บริษัทจึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่ Entertainmerce หวังเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้แทน โดยธุรกิจ Commerce - RS Mall คาดว่ารายได้ใน 2H63 จะทำสถิติสูงใหม่ต่อเนื่องรายไตรมาส จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และร่วมกับช่อง 8 และพันธมิตร TV Digital หลายช่อง รวมถึง Build การขายผ่าน Telesale กว่า 500 คน ส่วนธุรกิจมีเดียและอีเว้นท์มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังคลาย Lockdown สามารถกลับมาจัดกิจกรรมได้มากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ในปี 63 จะมาจากธุรกิจ Commerce 65%, TV 20-25% และธุรกิจเพลง 5-7% ที่เหลือเป็นธุรกิจวิทยุ และในอีก 3 ปีข้างหน้าคาดจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Commerce เพิ่มเป็น 85%

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures ต.ค.ปิด +0.73 ดอลลาร์ อยู่ที่ $43.35 /บาร์เรล Brent Futures ต.ค. ปิด +$0.73 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.86 /บาร์เรล หลังพายุ 2 ลูกจะเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันลดลงกว่า 84.3% คิดเป็น 1.6 ล.บาร์เรล/วัน และลดกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติลง 61% คำวันนี้ติดตาม EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐ คาดจะลดลงราว 4.3 ล.บาร์เรล

Gold Update (-) Gold Futures ธ.ค.ปิด -16.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,923.10 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาบวกจากการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ จีน ส่งผลให้นักลงทุนขายทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่า -0.31% อยู่ที่ 93.0136  

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -56.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -20.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -26.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 31.43 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(+) ดัชนี BDI ปิด +27 จุด อยู่ที่ 1,518 จุด

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.687 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.153 %

(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.911/USD

(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 40,098 ราย รวมอยู่ที่ 5,955,728 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,290 ราย รวมอยู่ที่ 182,404 ราย ( Worldometers )

(+) API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.5 ล.บาร์เรล

Economic Calendar

ในประเทศ

24 ส.ค.   กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

26 ส.ค.   (-28 ส.ค.) ตลท. จัดงาน Thailand Focus 2020: virtual conference

31 ส.ค.   ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที่4   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

ต่างประเทศ

25 ส.ค.   US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer  

     Confidence) ( ส.ค.)

26 ส.ค.   US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( ก.ค.)

   US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

27 ส.ค.   US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

US ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) ( ก.ค.)

28 ส.ค.   UK คำกล่าวของเบลีย์ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอังกฤษ

Theme Strategy

(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*

(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*

(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*

(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*

(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*

(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*

*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*

Analysts

Apichai Raomanachai           No. 002939

Nopporn Chaykaew               No. 043964

Piyatat Pasommanatsakul     No. 081741  

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!