- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 August 2020 14:52
- Hits: 6011
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-8-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 24 ส.ค.63 ปิด +17.85 จุด อยู่ที่ 1,317.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,078 ลบ.ต่างชาติขาย 126 ลบ. สถาบันซื้อ 1,517 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 732 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 468 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น MINT,BBL,KCE,VGI,GPSC และมียอดขายหุ้น PTT,STGT,KBANK,CPALL,KTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 468 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,AOT,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 7,252 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 106,959 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 5,271 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +1.35% , S&P500 +1.00% และ Nasdaq +0.60% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสายการบิน, กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น Boeing ,3 M รับข่าว FDA สหรัฐอนุญาตให้ใช้พลาสม่าจากผู้ที่หายป่วยในการรักษาผู้ป่วย Covid-19 ซึ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง 35% นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล วันพฤหัสนี้ในการประชุมแจ๊คสัน โฮล ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +1.58% รับข่าวบวกการใช้พลาสม่าในการรักษาผู้ป่วย Covid-19 ขณะที่หุ้น Astrazeneca ปิด +2.1% หลังรัฐบาลสหรัฐพิจารณาเร่งการอนุมัติใช้วัคซีนรักษา Covid-19 ของบริษัท ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์, ธนาคาร, เคมีภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
Market View
• ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA , S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ หลัง FDA สหรัฐอนุญาตให้ใช้พลาสม่าจากผู้ที่หายป่วยในการรักษาผู้ป่วย Covid-19 เป็นการเพิ่มทางเลือกในการรักษาระหว่างรอผลการทดสอบวัคซีน ส่วนข่าววัคซีนนั้นมีข่าวบวกการพัฒนาวัคซีน Sinovac ของจีนใกล้ประสบผลสำเร็จ ขณะที่ Astrazeneca เผยรัฐบาลสหรัฐกำลังเร่งอนุมัติการใช้วัคซีนของบริษัท และ Moderna ใกล้บรรลุข้อตกลงผลิตวัคซีน 80 ล.โดส ขายให้กับทางยุโรป จากประเด็นข่าวบวกการพัฒนาวัคซีนส่งผลให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว & สายการบิน, อุตสาหกรรม และธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยต่างประเทศวันพฤหัสนี้ รอฟังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ในการประชุมแจ๊คสัน โฮล เกี่ยวกับนโยบายการเงินในระยะยาว สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +1.37% สถาบันซื้อ 1.5 พัน ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 732 ลบ. รับข่าวบวกการพัฒนาวัคซีนส่งผลให้หุ้นกลุ่มขนส่ง AOT และโรงแรม MINT ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ ก.พาณิชย์รายงานการส่งออกไทย ก.ค. หดตัว -11.40% ดีกว่าคาด -18.7% และหดตัวน้อยกว่า มิ.ย.ที่ -23.20% โดยสินค้าที่ส่งออกได้ดี คือ ทูน่ากระป๋อง, อาหารเลี้ยงสัตว์, ถุงมือยาง, ไก่สดแช่แข็ง และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ วันนี้ติดตามการประชุม ครม. ว่าจะมีการพิจาณามาตรการช่วยเหลือค่าจ้างแรงงานกับผู้ประกอบการหรือไม่ ปัจจัยการเมืองวันที่ 23 – 24 ก.ย. นี้จะเปิดประชุมร่วมสภา ฯ เพื่อพิจาณาการแก้ไขร่าง รธน.
Daily Strategy
• ดัชนี SET วานนี้ฟื้นตัวจากข่าวบวกการใช้พลาสม่าและวัคซีน ส่งผลให้ดัชนีกลับมาอยู่ในกรอบ Sideway อีกครั้ง โดยมีแนวรับ 1,310 จุด แนวต้าน 1,325 – 1,330 จุด แนะนำซื้อ CPF, TU (+ ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น ) / ซื้อเก็งกำไร AOT, AAV, MINT (+พัฒนาวัคซีน)
• WICE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.52 บาท) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับผลบวกแบบ surprise ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลบวกต่อรายได้ของ WICE เติบโตขึ้นมากจากธุรกิจ Air Freight ซึ่งลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดมีความต้องการใช้อุปกรณ์ไอที อุปกรณ์สื่อสาร รองรับการทำงาน WFH ในช่วง Lockdown นอกจากนี้ Supply Cargo สายการบินที่หายออกไปจากตลาดมากในช่วงที่ห้ามเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลบวกต่อค่าระวางขนส่งทางอากาศปรับตัวสูงขึ้นจากระดับปกติกว่า 3 เท่า ขณะที่ความต้องการขนส่งบางส่วนถูกโยกย้ายไปยังทางบก ส่งผลบวกต่อธุรกิจ Cross Border Service ของบริษัทเช่นกัน โดยใน 1H63 ETL สามารถ Turnaround กลับมาเป็นกำไรได้ 32 ล้านบาทเทียบปีก่อนที่ยังขาดทุน ส่วนแนวโน้ม 2H63 คาดว่าทิศทางผลประกอบการจะยังดีต่อเนื่องแม้ค่าระวางจะลดลงบ้างแต่ยังมากกว่าระดับปกติและจะได้ชดเชยจากปริมาณขนส่งที่มากขึ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เติบโตดี ส่วนทางบกมีแผนขยาย Network ลูกค้าให้กว่าขึ้นและเพิ่มการให้บริการแบบ LTL ทำให้อัตรากำไรดีขึ้น โดยเรามองว่ายอดขายในปี 63 จะ Beat Target ของผู้บริหารที่ต้องไว้ 2.7 พันล้านบาท จาก 1H63 ที่ทำไปแล้ว 1.7 พันล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ 5% น่าจะทำให้เห็นตลาดมีการทยอยปรับคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมายขึ้นในอนาคต
• TTW* (ทยอยซื้อสะสม/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.65 บาท*) สำหรับ Core Operator ในช่วง 1H63 ถือว่าได้รับผลกระทบจากสถานะการณ์ Covid ค่อนข้างจำกัด โดยรายได้จากการขายน้ำปะปาใน 2Q63 ยังเติบโตเล็กน้อย +0.9%YoY, +0.8%QoQ สำหรับช่วงที่เหลือของปีรายได้จากการขายน้ำปะปามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ และบริษัทประเมินปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนยังเพียงพอต่อการผลิต, ในไตรมาส 3 TTW น่าจะได้ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP เพิ่มขึ้นเพราะเป็น High Season ด้วย (พลิกจาก 2Q63 ที่ TTW รับส่วนแบ่งขาดทุน จาก CKP) นอกจากนั้น TTW ยังมีการจ่ายปันผลที่ 0.30 บาท/หุ้น XD 2 ก.ย. คิดเป็น Div-Yield ถึง 2.24% ในส่วนของประมาณการกำไรปี 2563-2564 Bloomberg Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ระดับ 3.11 พัน ลบ. และ 3.37 พัน ลบ. -1.17%YoY, +8.36%YoY ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ต.ค.ปิด +0.28 ดอลลาร์ อยู่ที่ $42.62 /บาร์เรล Brent Futures ต.ค. ปิด +$0.78 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.13 /บาร์เรล หลังพายุ 2 ลูกจะเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ต้องอพยพคนงานออกจากแท่นขุด 114 แท่น จากทั้งหมด 643 แท่น และปรับลดกำลังการผลิตลง 57.6 % คิดเป็น 1.1 ล.บาร์เรล/วัน การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกคิดเป็น 17 % ของการผลิตในสหรัฐ
Gold Update (-) Gold Futures ธ.ค.ปิด -7.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,939.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับลดลงหลัง FDA สหรัฐอนุญาตให้ใช้พลาสม่าในการรักษาผู่วย Covid -19 ขณะที่ Dollar Index แข็งค่า +0.06% อยู่ที่ 93.3009
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -68.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -43.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -21.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.51 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +10 จุด อยู่ที่ 1,491 จุด
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.657 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.155 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.918/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 40,576 ราย รวมอยู่ที่ 5,914,722 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 493 ราย รวมอยู่ที่ 181,097 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
24 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
26 ส.ค. (-28 ส.ค.) ตลท. จัดงาน Thailand Focus 2020: virtual conference
31 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที่4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
25 ส.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (CB Consumer
Confidence) ( ส.ค.)
26 ส.ค. US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( ก.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
27 ส.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
US ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) ( ก.ค.)
28 ส.ค. UK คำกล่าวของเบลีย์ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอังกฤษ
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web