- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 August 2020 22:57
- Hits: 7122
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 19-8-2020
รอบด้านตลาดหุ้น 19 ส.ค. 2563 13:08:06 45 0 0 0 รอบด้านตลาดหุ้น ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook เมื่อวานตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ (ตามคาด) หุ้นบวกนำตลาดกลับมา เป็นหุ้น ฮอต ประเภท high growth อีกครั้งอย่าง STGT YGG SINGER JMART COM7 และหุ้นใหญ่ CRC AOT BGRIM TU TISCO KBANK SCB
สำหรับหุ้นลงสวนตลาด CPALL BAM CBG VGI วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways 1321-1339 จุด กลยุทธ์คาดตลาดหุ้นไทยจะเริ่มรีบาวด์ และ กลับมาเล่นขึ้นอีกครั้ง คงคาดหุ้นนำตลาดจะขึ้นด้วย หุ้นวัฏจักร ไม่ใช่หุ้น Defensive ปัจจัยหนุน การแรลรี่ของหุ้นวัฏจักร รอบนี้ จะมาจาก กระแสซื้อหุ้นดัก Inflation hedging (เฟด ส่งสัญญาณดอกเบี้ยระยะยาว เริ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับเป้าเงินเฟ้อขึ้น) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีมูลค่าสูงถึง US$2T. มากกว่าที่ตลาดคาด What to watch (+) คืนนี้ US FED minutes (กค.) คาดจะให้มุมมอง New innovation tool และ แผนทางการเงินต่อการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้า แทนการแถลงผ่านประชุม Jackson hole ที่ถูกยกเลิกไปในปีนี้ เพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19 (0/+) MS พบเม็ดเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรสหรัฐ (US bond yield 10 ปี จะกลับมาทะยานขึ้นรอบใหม่) และเชื่อว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะแรลรี่ขึ้นจาก เม็ดเงินลงทุนไหลเข้า..
. เหตุผล (1) เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ US$2 T. เมื่อรวมกับนโยบายการเงินจากเฟด จะเป็น ยาแรงกว่า GFC (วิกฤตแฮมเบอรเกอร์) (2) การขาดดุลฯ ที่เพิ่มขึ้นจะกดดันค่าเงินดอลล์ อ่อนค่า (ค่าเงินในภูมิภาคนี้จะแข็งค่า หนุนกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากการ ซื้อหุ้นแถมเงินปันผล) (3) เฟดจะแถลง เครื่องมือทางการเงินใหม่ อาจส่งสัญญาณ สิ้นสุดภาวะดอกเบี้ยขาลง ดอกเบี้ยระยะยาวกลับมาสูงขึ้น ตามผลตอบแทนพันธบัตร บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อเริ่มกลับภาวะแบบนี้จะส่งผลให้หุ้น วัฏจักร เช่น Consumer cyclical (Discretionary) สินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้น High growth นำตลาดขึ้น และ จะ Outperform หุ้น Defensive / แต่หุ้นวัฏจักรอย่าง ธนาคาร จะยังไม่ขึ้น ต้องรอจนกว่า real yield ขึ้น (+) คาด สภาครองเกรส สหรัฐฯ จะผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สูงถึง 2ล้านล้านดอลลาร์ (มากกว่าตลาดคาดที่ 1-1.5 ล้านล้านดอลล์) (+) FTSE all world index ซึ่งจะประกาศผลวันที่ 21 สค.นี้ คาด CRC CBG ติด (*) หุ้นขึ้น XD รับปันผล 19 สค. [email protected] [email protected] [email protected] 20 สค. [email protected] [email protected] 21 สค. [email protected] TQM@1
หุ้นแนะนำ SPRC PTTGC TOP แนะนำ ซื้อสะสมหุ้น วัฏจักร ดัก Flows ซื้อตามธีม "Inflation hedging" วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน รายงานวันนี้ SAWAD ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เราประเมินว่า มาตรการลดดอกเบี้ยของแบงค์ชาติ ที่ลดดอกเบี้ย personal loan จาก 28% เป็น 25% และสินเชื่อจำนำเล่นลงจาก 28% เป็น 24% ซึ่งบริษัทวางแผนที่จะโอนสินเชื่อจำนำเล่มไปที่ Srisawad Finance ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของแบงคืชาติ และคาดจะสามารถยืนดอกเบี้ยได้ที่ 24% และ NIM ใกล้กับ 2Q20 ที่ 16.6% ซึ่งสูงกว่ามมมุติฐานของเราที่ 16% และผู้บริหารคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 20% ในปีนี้ ผู้บริหารให้มุมมองว่าความต้องการสินเชื่อยังคงสูง และปกติบริษัทให้ LTV 30-40% ซึ่งช่วยจำกัดความเสี่ยงให้บริษัท Fundamental: เรามองว่าบริษัทจะสามารถรายงานผลกำไรที่เติบโตได้ต่อเนื่อง แม้จะมีมาตรการแบงค์ชาติก็ตาม แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 65 บาท PTT ปตท. ภาพธุรกิจก๊าซสดใสใน 2H20 เรามองว่าธุรกิจก๊าซในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ HoH จากทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรที่ขยายตัว โดยปริมาณการขายคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากโรงแยกที่มีการปิดปรับปรุงน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และธุรกิจ Supply & Marketing ที่กลับมาฟื้นตัวหลังจากการคลายล๊อคดาวน์ ในด้านของอัตรากำไรคาดจะได้แรงหนุนจากต้นทุนแก๊สที่ปรับตัวลดลงราว 15-20% HoH จากราคา high-sulphur fuel oil ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งราคา LNG ก็มีการปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนั้นในด้านราคาขายคาดจะปรับตัวขึ้นตามทิศทางขายของราคา Chemical หนุนโดยการคลายล๊อคดาวน์ สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะยาวบริษัทมีแผนงานในหลายเรื่อง เช่น การขยาย LNG Value chain, สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม, ธุรกิจพลังงานทางเลือก และธุรกิจใหม่ ในมุมมองสถานะทางการเงิน ณ สิ้น 2Q20 บริษัทมี net D/E เพียง 0.3 เท่า Fundamental: บริษัทเงินสดในมือ 3.6 แสนล้านบาท ซึ่งจะสามารถหนุนการขยายตัวในระยะยาวและการจ่ายเงินปันผลในระดับที่เหมาะสมได้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 50 บาท GLOBAL สยามโกลบอลเฮ้าส์ มาร์จิ้นที่ดี พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น เราคาดกำไรรายไตรมาสจะอยู่ในขาขึ้น โดยที่คาดกำไรจะโตราว 20-25%YoY ใน 3Q20 และจัไปทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q20 และทำ new high ใน 1Q20 ต่อเนื่อง หนุนโดยฤดูกาลขายที่กำลังจะเข้ามา และคาด มาริ์จิ้นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการบริหาร inventory ที่ดี การเพิ่มสัดส่วนสินค้า house brand ให้ได้ถึง 25% ภายในปี 2023 เป็นต้น เราปรับกำไรขึ้น 7% และ 12% ในปี 2020-21 เป็น 2.3 และ 2.7 พันล้านบาท ตามลำดับ Fundamental: เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 23 บาท เราคาดราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นไปเทรดบน PE ที่เป็นช่วง bullish ที่ราว 37-38 เท่าได้ จากปัจจุบันที่ PE 32.5 เท่า สาระสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ VGI วีจีไอ ประเด็นหลัก: Utilization rate ฟื้นตัวจาก 30% ใน 1Q20 เป็น 50% ใน 2Q20 ซึ่งอยู่ในระดับใกล้จุดคุ้มทุน และคาดว่าจะรักษาระดับการเติบโตได้ต่อเนื่องจนแตะ 60% ในช่วงปลายปี ธุรกิจ Digital services คาดปีนี้จะเติบโตได้ 8-10% จากการเติบโตของสื่อออนไลน์ ในด้านของต้นทุน 1Q20 มีค่าใช้จ่ายที่เป็น one-off เข้ามาราว 40 ล้านบาท เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายใน 2Q20 น่าจะลดลงเมื่อเทียบกับ 1Q20 อีกทั้งกำลังเจรจาในการขอลด Concession fee กับสนามบินมาเลเซีย สำหรับปัจจัยหนุนระยะกลาง KERRY น่าจะเข้าตลาดได้ปีหน้าซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนุนการเติบโตของ VGI คำแนะนำพื้นฐาน: ผลประกอบการ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q20 และคาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อสะสม" BA การบินกรุงเทพ ประเด็นหลัก: แนวโน้ม 2H20 น่าจะฟื้นตัวช้าๆ จากการทยอยเปิดเส้นทางบินในประเทศเพิ่มและการปรับลดต้นทุน จำนวนเครื่องบินน่าจะลดลงจาก 40 ลำ เหลือ 36 ลำภายในปี 2020 จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ โครงการอู่ตะเภาจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2022 โดยคาด EIRR จะอยู่ที่ประมาณ 10% ต้นๆ สำหรับ BBS JV ต้องแบ่งรายได้ 5% ของรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐ โดยการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำตลอดอายุสัมปทานรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท คำแนะนำพื้นฐาน: แม้ว่าแนวโน้ม 2H20 อาจยังไม่สดใสนัก แต่ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของโครงการสนามบินอู่ตะเภาอาจส่งผลให้ตลาดปรับเพิ่มประมาณการกำไรในระยะยาว และราคาเป้าหมายขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ" BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ ประเด็นหลัก: สารสำคัญประกอบไปด้วยทั้ง "เชิงลบ" จากการปรับลดคาดการณ์รายได้ปี 2020 และ "เชิงบวก" จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยที่ดีขึ้นในเดือน ส.ค. รวมทั้งการรุกตลาดจีนที่ชัดเจนมาก ในระยะสั้นมีความเสี่ยงการปรับลดประมาณการจากตลาดราว 5-10% และจากเราประมาณ 10-15% สำหรับปี 2020 แต่การปรับลดประมาณการกำไรปี 2021 จะมีค่อนข้างต่ำ เนื่องจากโอกาสที่กำไรปี 2021 จะฟื้นตัวจาก pent-up demand และโอกาสของ medical tourism ในไทยในระยะยาวยังมีความเป็นไปได้สูง คำแนะนำพื้นฐาน: เราแนะนำให้ "ทยอยซื้อ สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว" คงราคาเป้าหมายปี 2021 ที่ 26 บาท เนื่องจาก 1) ผู้ป่วยฟื้นตัวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 2) ได้รับประโยชน์จากตลาด medical tourist และ 3) หนี้น้อย-สถานะทางการแข็งแกร่ง WHA ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ประเด็นหลัก: บริษัทได้ปรับเป้าหมาย Presales ลดลงจาก 1,200 ไร่เป็น 600 ไร่ (อิงสมมติฐานว่าลูกค้าสามารถเดินทางเข้ามาได้ใน ต.ค.) จากผลกระทบของ COVID ซึ่งไม่ได้กระทบต่ออุปสงค์ที่แท้จริง แต่กระทบต่อการเดินทางของลูกค้า อย่างไรก็ตาม COVID ส่งผลดีต่อธุรกิจ Logistic ต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้า e-commerce สำหรับธุรกิจสาธารณูปโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้น HoH หลังจากปริมาณน้ำกลับมาสู่ระดับปกติ โดยรวมบริษัทคาดว่าจะยังคงรักษารายได้ในระดับเดียวกับปี 2019 คำแนะนำพื้นฐาน: แม้ว่าบริษัทจะมีการปรับเป้าหมาย Presales ลงแต่เรามองว่าเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้กันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอุปสงค์ต่อการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยยังคงแข็งแกร่งโดยเฉพาะลูกค้าญี่ปุ่น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้นมีข่าว AAV BA AAV BA + อุ้ม7สายการบิน'ศักดิ์สยาม'ชง'บิ๊กตู่'ช่วย19 ส.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังผู้ประกอบการสายการบิน 7 แห่ง ประกอบด้วย สายการบินไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยเวียตเจ็ท, และไทยไลอ้อนแอร์ ได้ขอเข้าพบ ว่า สืบเนื่องจาก สายการบินได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยได้มา สอบถามความก้าวหน้ามาตรการเยียวยาต่างๆ (ที่มา แนวหน้า) CHO 0 CHO ปรับทัพลุย EV-BUS นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน)(CHO) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ว่า บริษัทเตรียมความพร้อมสายงานการผลิต ประกอบรถโดยสารไฟฟ้า EV-BUS เพื่อเข้าประมูลงานภาครัฐ เอกชนในประเทศ ซึ่งบริษัทได้เตรียมงานด้านรถบรรทุกไฟฟ้ามากว่า 3 ปีแล้ว ปัจจุบันมีผลงานการประกอบทั้งรถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และงานซ่อมบำรุงรถโดยสารไฟฟ้า 100% ในโรงงานที่จ.ขอนแก่น และเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานต่างประเทศขายรถลำเลียงอาหารให้กับสายการบินต่างประเทศ จำนวน 155 คัน มูลค่าประมาณ 1,300 ล้านบาท (ที่มา สยามรัฐ) BEM + BEM ยังแกร่ง มองทิศทางการฟื้นตัวของจำนวนผู้ใช้บริการทางด่วนและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชูเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มขนส่งในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ขณะที่เต็งหนึ่งคว้าสายสีส้ม (ที่มา ทันหุ้น) Bank + จับตากลุ่มแบงก์ กลับมาจ่ายปันผลระหว่างกาลก่อนสิ้นปีนี้ แบงก์ใหญ่ เล็งไทยพาณิชย์-กรุงไทย ส่วนแบงก์เล็ก เกียรตินาคินและทิสโก้ คาดอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง 4-5% หลังผ่าน "สเตรสเทสต์" เดือน ต.ค.นี้ พบเงินกองทุนเหนือเกณฑ์ธปท.ทุกราย ขณะที่กำไรสะสมล่าสุด ณ สิ้นมิ.ย.ล้นทุกแบงก์ (ที่มา ทันหุ้น) Trend Forecasting | 19 สิงหาคม 2563 SET Index ปิด 1,330.11 (+0.7%) มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท หัวข้อ: ตรวจการบ้าน...3 กลุ่มเด่น! ทรงยังขึ้นได้อีกหรือใม่ กลยุทธ์เทคนิค: กลยุทธ์ทางเทคนิค เรากลับมามองหุ้นกลุ่ม Value stock อาทิเช่น กลุ่มแบงค์ ขนส่งและท่องเที่ยว ซึ่งเพิ่งเกิดสัญญาณฟื้นตัวไม่นาน ดังนั้นเราจะตรวจการบ้านทั้ง 3 กลุ่มนี้ ทรงยังดี มีโอกาสไปต่อหรือไม่....ติดตามด้านล่างพร้อมเฉลยหน้าถัดไปครับ+++ มุมมองทางเทคนิค: กลุ่มแบงค์ ภายหลังกระโดดพุ่งแรง break away gap ดัชนีย่อลงแต่ยังคงปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA กลุ่มขนส่ง ย่อแตะเส้นแนวโน้มปุ๊บเด้งปั๊บ ยืนยันโครงสร้างกลับตัว...สุดท้ายกลุ่มท่องเที่ยวจับตาโครงสร้าง higher low ขณะที่ MACD เตรียมทะลุเส้น 0 สรุป:ทั้ง 3 กลุ่มลุ้นไปต่อ หุ้นในพอร์ตเน้น กลุ่มเด่นเป็นหลักครับ+++ วิธีการเลือกหุ้น: แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคหาสัญญาณกลับตัวระยะสั้น อาทิเช่น เส้นค่าเฉลี่ย, RSI, MACD , Bollinger band , Stochastic พ่วงด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงหรือจุด Trailing stop โมเดลพอร์ตทางเทคนิค: สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +8% สูงกว่าตลาดที่ -15% *Addition(หุ้นเข้า): AOT, BBL, BEM *Deletion(หุ้นออก): ADVANC, PTTGC, LPN (หมุนเปลี่ยนกลุ่ม) หุ้นคงเหลือ: BBL ,BEM, TU, MINT, CENTEL, CRC ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค [email protected] +662-618-1334 Track with Technical: "คัดหุ้นทรงกลับตัว เปลี่ยนเป็นขึ้น...." AOT (ท่าอากาศยานไทย) มุมมอง สัญญาณกลับตัว แนะนำ ซื้อ โซนซื้อ 55 ต้านแรก 57 ทะลุได้ขึ้นแรงต้านถัดไป 60 Stop loss < 54 BBL (ธนาคารกรุงเทพ) มุมมอง Bull EMA แนะนำ ซื้อเพิ่ม โซนซื้อ 107 ต้านแรก 110 ทะลุได้ Follow buy ซื้อเพิ่ม ต้านถัดไป 115 Stop loss < 105 BEM (ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ) มุมมอง ทรงแข็งแกร่ง แนะนำ ซื้อเพิ่ม โซนซื้อ 9.1-9.2 เป้าหมาย 9.6-9.8 Stop loss < 9
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web