- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 August 2020 22:37
- Hits: 5877
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 19-8-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 18 ส.ค.63 ปิด +9.20 จุด อยู่ที่ 1,330.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,855 ลบ.ต่างชาติซื้อ 530 ลบ. สถาบันซื้อ 142 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 390 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 839 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น STGT,GULF,CBG,CRC,TU และมียอดขายหุ้น PTT,AOT,KBANK,SCB,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 379 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,CPALL,SCB โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 13,314 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 106,854 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,422 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.24% , S&P500 +0.23% และ Nasdaq +0.73% โดย S&P500 และ Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ DJ ปรับลดลงหลังหุ้น Boeing ปิด -1.02% ส่วน S&P500 ได้แรงหนุนหลังวอลมาร์ท , โฮม ดีโปท์ รายงานยอดขาย Q2/63 ปรับเพิ่มขึ้น นักลงทุนยังรอความคืบหน้าการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฉบับใหม่และรายงานการประชุมเฟดครั้งที่ผ่านมา ส่วนรายงานการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ก.ค. +22.6 % ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.56% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน นักลงทุนกังวลต่อข้อขัดแย้งสหรัฐ – จีน หลังสหรัฐสั่งแบนบริษัทในเครือ Huawei เพิ่มอีก 38 แห่ง
Market View
• ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ รับรายงานยอดขาย Q2/63 ของวอลมาร์ท , โฮม ดีโปท์ดีกว่าคาดการณ์ และรายงานการสร้างบ้านใหม่ ก.ค. +22.6 % & มิ.ย. +17.5 % สะท้อนภาพตลาดอสังหา ฯ สหรัฐอยู่ในแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุป โดยพรรคเดโมแครตยอมลดวงเงินลดจาก 3 ลล.ดอลลาร์ เหลือ 2 ลล.ดอลลาร์ แลกกับการอนุมัติงบ 3.5 พัน ล.ดอลลาร์เป็นงบบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าเป็นช่องทางทุจริตเลือกตั้ง ประเด็นสำคัญค่ำวันนี้ติดตามรายงานการประชุมเฟด 28 – 29 ก.ค. ว่ามีส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับเพิ่มระดับเงินเฟ้อเป้าหมายจาก 2 % หรือไม่ รวมถึงมาตรการ Yield Curve Control เพื่อตึงดอกเบี้ยให้อยู่ระดับต่ำ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +0.70% ได้แรงซื้อจากทั้งสถาบัน , ต่างชาติ และพอร์โบรกเกอร์ รับความหวังผล Stress Test ของกลุ่มธนาคารใน ต.ค. นี้ หากผ่านเกณฑ์ ธปท.จะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้อีกครั้ง ขณะที่การประชุม ครม. วานนี้อนุมัติวงเงิน 1.14 แสน ลบ. เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SME 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจทั่วไป , ท่องเที่ยว และรายย่อย วันนี้ติดตามการประชุม ศบศ.นัดแรกเพื่อผลักดันมาตรการเงินกู้ดังกล่าว
Daily Strategy
• ดัชนี SET กลับมาทรงตัวในทิศทางบวกเพิ่มมากขึ้น รับมาตราการเงินกู้ 1.14 แสน ลบ.ช่วยเหลือ SME ประเมินดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,320 จุด แนวต้าน 1,340 จุด แนะนำซื้อกลุ่ม Defensive เช่น CPF, TU, CHG / Cyclical เช่น BBL,TISCO,CRC
• CKP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.40 บาท) ผลประกอบการ 2Q63 ขาดทุนสุทธิ 95 ล้านบาท น้อยกว่าที่ตลาดคาด โดยผลประกอบการลดลง YoY เพราะปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการน้ำงึม 2 (NN2) ลดลงเนื่องจากประสบภัยแล้ง ขณะที่ผลการดำเนินงานดีขึ้น QoQ เป็นเพราะรับส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการไซยะบุรี (XPCL) ลดลงจากปริมาณน้ำแม่โขงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ขาดแนวโน้มผลประกอบการ 3Q63 จะพลิกกลับมากำไรได้ตามปัจจัยฤดูกาลที่มีฝนตกมากขึ้น โดยตัวเลข Water Inflow ของเขื่อนทั้ง 2 แห่ง เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสก่อนซึ่งจะส่งผลบวกต่อการผลิตไฟฟ้า
• STGT ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 90.00 บาท) อุปทานของสินค้าประเภทถุงมือยางโดยเฉพาะถุงมือยาง NBR อยู่ในภาวะขาดแคลน (Shorage Supply) ทำให้ราคาขายถุงมือยาง ในช่วง 2H20 ยังอยู่ในแนวโน้มของการปรับตัวขึ้นต่อ และบริษัทประเมินสัดส่วนการปรับขึ้นของราคาขายมากกว่าต้นทุน Raw Material หลักอย่างน้ำยาง NBR Latex ดังนั้นทิศทางของอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H20-1H21 ยังมีโอกาสเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันใน 1H21 จะมีการขยายกำลังการผลิตของโรงงานสุราษธานี (SR2 และ SR3) และจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตถุงมือยาง NBR ขึ้นอีกเพื่อรองรับความต้องการของตลาด USA และ EU โดย ณ สิ้นปี 2021 กำลังการผลิตติดตั้งจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 3.57 หมื่น ล. ชิ้น/ปี +9.5%YoY และกำลังการผลิตติดตั้งจะถึง 7 หมื่น ล. ชิ้น/ปี ในปี 2026 เร็วกกว่าแผนเดิมประมาณ 2 โดย Supply ถุงมือยางของผู้ประการรายใหญ่ของโลกจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2022-2023 เป็นต้นไป ดังนั้นราคาขายของปีนี้กับปีหน้าจึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ สำหรับประมาณการกำไรปี 2020-2021 เราประเมินไว้ที่ระดับ 4.8 พัน ลบ. และ 7.1 พัน ลบ. +664%YoY, +46%YoY ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (0) WTI Futures ก.ย.ปิดไม่เปลี่ยแปลง อยู่ที่ $42.89 /บาร์เรล Brent Futures ต.ค. ปิด +$0.09 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.46 /บาร์เรล รอผลการประชุมคณะกรรมการควบคุมการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส และ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่าน เบื้องต้นคาดลดลง 3.8 ล.บาร์เรล
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +14.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,013.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.63% อยู่ที่ 92.2782 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow (+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +20.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +8.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.15 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -12 จุด อยู่ที่ 1,586 จุด
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.665 % , 2 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.143 %
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าอยู่ที่ 6.9215/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 43,353 ราย รวมอยู่ที่ 5,655,328 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,324 ราย รวมอยู่ที่ 175,040 ราย ( Worldometers )
(+) API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.264 ล.บาร์เรล
Economic Calendar
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
17 ส.ค. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/63
19 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
18 ส.ค. US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง ( ก.ค.)
19 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
20 ส.ค. US รายงานการประชุมของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ( ส.ค.)
EU ธนาคารกลางยุโรปจะตีพิมพ์รายงานการประชุมนโยบายการเงิน
CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
21 ส.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web