WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-8-2020dbs
 “จับตาประชุมเฟด น้ำมันปรับขึ้น แบงก์ปันผลสิ้นปี?”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : MEGA (จากซื้อเป็นถือ)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันจันทร์ปรับลงต่อ ปิด -6.14 จุด ที่ 1320.91 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 48 พันลบ.ตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่ๆ หลังงบ 2Q63สิ้นสุด แต่อาจจะมีการปรับประมาณการลงตามมา อีกทั้งไม่ตอบรับข่าว GDP ไทยไตรมาส 2 ลดลงต่ำกว่าคาดที่ 12.2% ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ค้างคาคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเจรจาการค้า รอผลเฟดประชุม กลางสัปดาห์นี้ ซื้อสุทธิสูง-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน YTD ต่างชาติขาย 235 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ผันผวน ติดตามผลประชุมเฟด ดาวโจนส์ร่วง น้ำมันขึ้น ธปท.กล่าวถึงแบงก์ ปัจจัยบวกคือ ดัชนีเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ส.ค.สูงสุดตั้งแต่จัดทำมา ราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้น เพราะจีนจะนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มจากสหรัฐ ธปท.กล่าวสินเชื่อธนาคารยังโต 5% ใน 2Q63 จะปันผลได้ กองทุนฯมากกว่า12% ติดตาม Stess Test ต.ค.63 และสภาพัฒน์ฯจะประชุม “ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ”ครั้งแรก คาดจะมีมาตรการช่วยเหลือ SME เช้านี้ดาวโจนส์ Futureบวก ด้านปัจจัยลบคือ จับตารายงานประชุมเฟดปลาย ก.ค.ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปรับลง -86 จุด ทองคำปรับขึ้นแรง ดึงเม็ดเงินจากตลาดหุ้น ด้าน GDP ไทย 2Q63 -12.2% ต่ำกว่าคาด แต่ทั้งปีลบมากขึ้นเป็น -7.5% ธปท.เตือนศก.ครึ่งปีหลังยังไม่แน่นอน สำหรับตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ mIx กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1340 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้วจึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี หุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อ-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC, PTL,TASCO, TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACTกลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แนวรับคือ 1310-1300 จุด และ แนวต้าน 1335-1345 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1290 จุดปัจจัยน่าติดตามคือ วันนี้มีหุ้นพลังงานทดแทนตัวใหม่เข้าตลาด MAI คือ ETC (Not Rated) ราคา IPO 2.60 บาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กลุ่ม BWG ครึ่งปีกำไรโต 125% ส่วน KTECH และ RICH วันนี้ซื้อขายวันสุดท้าย ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ในวันพรุ่งนี้หรือ 19 ส.ค.63 พบว่าช่วงที่ให้เปิดซื้อขายครั้งสุดท้ายราคาหุ้นร่วงแรงมาก
# Stock Pick Today : NOBLE คาดปี 63-64 จ่ายปันผลสูงสุดใน SET ประกาศปันผล 1H63 สูงถึง 1.10 บาท ยิลด์ 8.4% ด้านยอดขาย 2Q63 ฟื้นตัว 105% yo-y ส่วนใหญ่มาจากการขายในประเทศ ยอดขายที่จีนค่อยๆฟื้นตัว จากสถานการณ์ที่ดีขึ้น หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 รอบ 2 คลี่คลาย ราคาพื้นฐานใหม่ปรับขึ้นเป็น14.90 บาท หากยึดตาม Covenant ที่ 2.5 เท่า เราคาดว่าปันผลงวดสิ้นปีนี้ จะจ่ายได้อีก 0.76 บาท ยิลด์จะเป็น 5.8% ส่วนปี 64 จ่ายปันผลเต็มปีอีก 1.88 บาท ยิลด์14.4%คาดว่าจะสูงสุดในตลาดฯ
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BEM (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.30)
MEGA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 35.00)
SVI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 3.80)
TPRIME (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.90)
Flash Note : AIMIRT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 15.00)
RBF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 9.50)
TMT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.00)
In The News : กลุ่มธนาคารพาณิชย์
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: จับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 28-29 ก.ค. ในวันพุธนี้
# นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 28-29 ก.ค. ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
+ สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับ 78 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยจัดทำข้อมูล
# สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 6 จุด สู่ระดับ 78 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยจัดทำข้อมูลดังกล่าว โดยการพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ
- สหรัฐ: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่สำเร็จ การเจรจาชะงักตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
# นักลงทุนยังคงชะลอการซื้อขายหุ้น ขณะรอคอยการอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ โดยการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสมาชิกสภาพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวหยุดชะงักมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 86.11 จุด จากแรงขายหุ้นแบงก์,อุตสาหกรรม
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 88 เซนต์ รับข่าวจีนเล็งนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐ
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนวางแผนที่จะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐในเดือนส.ค.-ก.ย. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากสื่อรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตมากถึง 97% ในเดือนก.ค.
# นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันพุธนี้ ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียกล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ผู้ผลิตน้ำมันจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกในขณะนี้
• ทองคำ: ปิดพุ่ง $48.9 เหตุดอลล์อ่อน,บอนด์ยีลด์ร่วงหนุนแรงซื้อ
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กทำสถิติปิดพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต,ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
•/- สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาส 2/63 หดตัว -12.2% จากตลาดคาด -13 ถึง -17%
# สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทย ในไตรมาสที่ 2/2563 ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการกีดกันทางการค้าตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 61 จนถึงปัจจุบันประกอบกับเศรษฐกิจไทย ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่ไตรมาส 1/63 จึงส่งผลให้เศรษกิจไทยใน 2/63 ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ -12.2% จากตลาดคาด -13% ถึง -17% อีกทั้งสภาพัฒน์ได้ปรับประมาณการ GDP ทั้งปี 63 ลงมาเหลือ -7.5% (กรอบ -7.8 ถึง -7.3%) จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน พ.ค.ว่าจะหดตัวในระดับ -6 ถึง -5%
# ผลกระทบ: ปานกลาง ไม่ได้เป็นลบที่มากอย่างน่าตกใจ ที่ผ่านมาตลาดฯกังวลว่าจะย่ำแย่กว่านี้ และรับข่าวไปส่วนหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามสภาพัฒน์ฯมองภาพทั้งปีแย่ลง และยังมีปัจจัยลบที่ไม่แน่นอนอีกหลายประการ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่จบ สงครามการค้า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งไทยเริ่มมีการชุมนุมประท้วงเป็นความเสี่ยงเพิ่มเข้ามาอีก
-ธปท.เตือนเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก จะมีการประเมินอีกครั้ง ก.ย.63
# เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนอยู่มากและต้องการแรงสนับสนุนด้านความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ โดยเฉพาะการจ้างงานและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น จึงต้องติดตามพัฒนาการต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และมาตรการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า รวมถึงมาตรการการเงินการคลังที่อาจออกมาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ธปท.จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือน ก.ย.63
+/- สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น แต่กำไรกลับลดลง จากการตั้งสำรองในอนาคต
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และจาก 4.1% ในไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ 3.1 หมื่นล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับ 5.33 หมื่นล้านบาท โดยหลักจากการกันสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมรองรับคุณภาพสินเชื่อที่อาจมีแนวโน้มด้อยลง ประกอบกับรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคารปรับลดลง
# ผลกระทบ: ประมาณการของนักวิเคราะห์มีความเสี่ยงขาลง (Donwside risk) จากการตั้งสำรอง ECL ที่สูงกว่าคาดดังนั้นประมาณการกำไรสุทธิปี 63F มีโอกาสที่จะปรับลงได้อีก ทาง DBS ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นถ่วงน้ำหนักน้อย (Underweigth) แต่ติดตามการจ่ายปันผล ซึ่งมีข่าวว่าหากกองทุนเหนือเกณฑ์ 12% ธปท.จะอนุญาตให้จ่ายเงินปันผลงวดปลายปี 63 นี้ได้ แนะนำ ซื้อ สำหรับ KBANK, TISCO และ KKP ซึ่งมีเงินกองทุนแข็งแกร่ง และคาดว่าจะจ่ายปันผลได้
-สภาพัฒน์ฯ เผยไทยมีผู้ว่างงานเป็นจำนวนมากใน 2Q63 อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากช่วงปกติ
# สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงภาวะสังคมไทยไตรมาส 2/63ว่า มีผู้ว่างงาน 7.5 แสนคน คิดเป็นอัตราว่างงาน 1.95% เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากช่วงปกติ และเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่ไตรมาส 2/52 สาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลจากสถานที่ทำงานปิดกิจการในช่วงสถานการณืโควิด-19 หรือหมดสัญญาจ้าง
+ สภาพัฒน์ฯ เผย 19 ส.ค.นี้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจประชุมครั้งแรก คาดมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
# เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ส.ค.นี้จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ) ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก คาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยเฉพาะการดูแลผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการรายเล็ก (Micro SME)
-/• KCE : เกิดเหตุไฟไหม้ที่โรงงานเก่าลาดกระบัง และบลจ.บัวหลวงลดพอร์ต
# KCE เผยเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเก่าที่นิคมฯ ลาดกระบัง ควบคุมเพลิงได้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย
# แบบรายงานของ กลต.ว่า บลจ.บัวหลวง ตัดขายหุ้น KCE จำนวน 1.0231% คงเหลือถือ 4.6655%
# ผลกระทบ: คาดผลเสียหายจากไฟไหม้น่าจะกระทบน้อย เพราะเป็นส่วนโรงงานเก่าที่ไม่ได้ผลิต สำหรับการที่ บลจ.ลดพอร์ต อาจเป็นจิตวิทยาทางลบระยะสั้น คำแนะนำเป็น ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 34.75 บาท เนื่องจากการฟื้นตัวดี อัตราการเติบโตกำไรแข็งแกร่ง และอยู่ในช่วงการลดพนักงาน และใช้เครื่องจักรแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!