- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 August 2020 12:55
- Hits: 5438
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-8-2020
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เมื่อวันศุกร์อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันและปิดลบแรง 19.64 จุดตามตลาดต่างประเทศ และกังวลความเสี่ยงเรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน ทั้งสถาบันในประเทศและต่างชาติขาย โดยสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1.2 พันลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากขึ้นจากวันก่อนหน้าเป็น 3.3 ลบ. (และ Short Index Futures 1.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways down ในกรอบ 1,310-1,330 จุด ความเสี่ยงจากความตึงเคีรยดระหว่างสหรัฐ-จีนเพิ่มขึ้นเมื่อการเจรจาวันเสาร์ที่ผ่านถูกเลื่อนไปไม่มีกำหนด และปธน.ทรัมป์ยังมีคำสั่งบังคับให้ ByteDance ขายกิจการหรือ spinoff ธุรกิจในสหรัฐออกมาภายใน 90 วัน ขณะเดียวเช้านี้ญี่ปุ่นรายงาน GDP 2Q20 หดตัวสูงถึง 27.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี นักลงทุนยังจับตา GDP 2Q20 ของไทยเช้านี้ด้วย นอกจากนี้ สถานการณ์การชุมนุมของนักศึกษาเมื่อวานนี้ยังเป็นที่จับตา เรายังประเมินว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ยัง Laggard มีโอกาส Outperform ได้แก่ ธนาคาร ไฟแนนซ์ ขนส่ง ปิโตรเคมี การแพทย์ สื่อสารฯ
กลยุทธ์ : ทยอยสะสมในช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,300 จุด+-
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : CPALL, GULF, PTG, SC, STGT
หุ้นเด่นวันนี้: STGT
- แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 111 บาท
- ประกาศกำไรปกติ 2Q20 +613% Q-Q, +332% Y-Y สูงกว่าตลาดคาด 24% จากปริมาณการขายและราคาขายที่พุ่งขึ้นอย่างมากจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก COVID-19
- แนวโน้ม 2H20 คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะทั้ง H-H และ Y-Y จากปริมาณการขายที่คาดยังคงอยู่ในระดับสูง และปัจจัยขับเคลื่อนหลักคือราคาขายที่เพิ่มขึ้นเดือน 15% เราคาดกำไรปกติปี 2020 โต 6 เท่าตัวจากปี 2019 และโตต่อเนื่อง +49% ในปี 2021
Fund Flow เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$358 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$457 ล้าน และไทย US$106 ล้าน ในขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$195 ล้าน ส่วนประเทศอื่นกระแสเงินทุนเบาบาง แนวโน้มกระแสเงินทุนยังดูมีทิศทางไหลออก เพราะยังต้องติดตามการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีนเกี่ยวกับการประเมินข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกหลังครบ 6 เดือน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) สรุปกำไรปกติ 2Q20 ของบจ. -15% Q-Q, -49% Y-Y ต่ำกว่าตลาดคาดราว 7% กลุ่มที่กำไรหดตัวแรงและถูกกระทบหนักจาก COVID-19 ได้แก่ ท่องเที่ยว ขนส่ง การแพทย์ ค้าปลีก ยานยนต์ ธนาคาร ส่วนกลุ่มที่กำไรได้รับผลกระทบจำกัดและดีกว่าคาดคือ สื่อสารฯ โรงไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาฯแนวราบ และ Home Improvement เราประเมินกำไรของบจ.ผ่านจุดต่ำสุดแล้วก่อนค่อยๆฟื้นตัวใน 2H20 อย่างไรก็ตามการระบาดของ COVID-19 ยังรุนแรงและทำให้การเดินทางยังไม่ปกติ เราจึงยังเน้นการลงทุนพอร์ตหลักในกลุ่ม Domestic Play และเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 เป็นหลัก เราชอบ ADVANC CPF CBG OSP AP SC CHG BCH GULF ส่วน Global Play แนะนำเก็งกำไรตามพัฒนาการของข่าววัคซีน
(0) AMATA กำไรปกติ 2Q20 +56% Q-Q, -59% Y-Y ดีกว่าคาด 31% แต่ถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก การฟื้นตัวระยะสั้นไม่เร็วจาก COVID-19 ที่ทำให้เอกชนชะลอการลงทุน แต่ EEC ยังเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตระยะยาว บริษัทเพิ่มทุน RO 12.86 ต่อ 1 เพื่อลงทุน Amata Smart&Eco City โดยมี EPS Dilution 7% แต่เรายังแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 15 บาท
(0) CENTEL ขาดทุนปกติ 2Q20 465 ลบ. น้อยกว่าคาด 37% โดยปัจจัยช่วยหลักมาจากธุรกิจอาหารที่มีการควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคาดมาก ประคองธุรกิจโรงแรมที่หดตัวแรง แนวโน้ม 2H20 คาดทยอยขาดทุนลดลงจากการคลาย Lockdown แต่การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมยังจำกัดเพราะพึ่งพิงได้เพียงตลาดในประเทศ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจนเต็มมูลค่า แนะนำเพียง "ถือ" ราคาเป้าหมาย 24.40 บาท
(0) TRUE ขาดทุนปกติ 2Q20 ราว 900 ลบ.ใกล้เคียงคาด แต่ข้อดีคือรายได้ถูกกระทบจาก COVID-19 จำกัดและยังเติบโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y แนวโน้ม 2H20 คาดทยอยฟื้นตัวและลุ้นพลิกมีกำไรได้ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท แต่ชอบ ADVANC/INTUCH มากกว่า
(+) SISB รายงานกำไรสุทธิ 2Q20 ที่ 4 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษ เป็นกำไรปกติ 29 ล้านบาท -50% Q-Q, -44% Y-Y ดีกว่าเราคาด 70% ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว กำไรจะทยอยฟื้นใน 3Q20 และกลับสู่ระดับปกติใน 4Q20 (ไตรมาสละ >60 ล้านบาท) คงประมาณการกำไรปี 2020 ที่ 165 ลบ. -25% Y-Y และปี 2021 +58.7% Y-Y คงราคาเหมาะสมปี 2021 ที่ 11.20 บาท แนะนำซื้อ
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 34.30 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 27,931.02 จุด ปรับขึ้นเล็กน้อยหลังยอดค้าปลีกสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 1.9% และในเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 8.4% ทำให้กังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ยังติดตามการอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ รวมถึงมีรายงานข่าวว่าสหรัฐและจีนยกเลิกแผนประชุมทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบสอง หลังจากอังกฤษประกาศมาตรการจำกัดการเดินทางจากฝรั่งเศล
(0) ตลาดเอเชียปรับลง กดดันจากจีนและสหรัฐเลื่อนการเจรจาเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่กำหนดไว้ในวันเสาร์ที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 42.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังหลายองค์กรปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,948.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีในวันศุกร์ ปรับขึ้นเป็น 0.693% เพิ่มขึ้นจาก 0.562% ในวันศุกร์ก่อนหน้า
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1248.28 / -3.81
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 ส.ค. - ไทย: GDP 2Q20
- ญี่ปุ่น: GDP 2Q20
19 ส.ค. - สหรัฐฯ: ยอดขอสร้างบ้านใหม่ (ก.ค.)
- อังกฤษ: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- แคนาดา: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: ประชุมธนาคารกลาง
20 ส.ค. - จีน: Loan Prime Rate 1 ปี
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: FINNANSIA SYRUS SECURITIES
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web