- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 October 2014 16:23
- Hits: 2332
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +215.14, NASDAQ +103.41, S&P +37.27, FTSE +105.26, CAC +90.00 และ DAX +169.20 ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแอปเปิล อิงค์ หลังเปิดเผยว่า รายได้และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 4.21 หมื่นล้านUSD และ 8.5 พันล้านUSD ตามลำดับ หรือ 1.42 USD/หุ้น ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ และ (2) ยอดขายบ้านมือสอง – กย. เพิ่มขึ้น 2.4% อยู่ที่ 5.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5.10 ล้านยูนิต
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกเพิ่มจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันด้วยสินเชื่อที่มีคุณภาพ (covered bond) ของอิตาลี และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน เช่น Actelion และ Swedbank เป็นต้น
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$0.10 อยู่ที่ US$82.81 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากตัวเลข GDP – 3Q/57 ของจีน ที่ขยายตัว 7.3% ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 7.2% และคาดเป็นสัญญาณที่ดีว่าอุปสงค์พลังงานในจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ
โลกนั้น ยังคงแข็งแกร่ง
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$7.0 อยู่ที่ US$1,251.7 ต่อออนซ์ ภายใต้ประเด็นที่ ECB กำลังพิจารณาซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนในตลาดรอง โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดภาวะเงินฝืดในยูโรโซน และคาด ECB อาจจะตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในเดือนพย. ขณะที่คาดว่าเฟด อาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -857 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -14,599 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้ปัจจัยหนุนจากการที่ ECB เริ่มเข้าซื้อซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และมีความคาดหวังว่า ECB อาจพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามคาดอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟด (28 – 29/10/57) ว่าจะมีการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่? หลังวงเงิน QE จะหมดลง
....ทางด้านประเด็นในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิ สลับกัน แต่คาดยังมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการ (ทั้ง + / -) ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพย.
.....ขณะที่วานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี’58 - 65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
....โดยแนะติดตามประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.21% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.49 อยู่ที่ 16.08
หุ้นแนะนำ : TASCO
ประเด็นที่ต้องติดตาม (22-24 ต.ค.’57)
22/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - กย. (2) สต็อกน้ำมัน
23/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - กย. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต - ตค. (4) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - กย.
24/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดขายบ้านใหม่ - กย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788