- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 August 2020 19:04
- Hits: 6148
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 13-8-2020
“วัคซีนคืบหน้า DJ-น้ำมันบวกดี แต่เจรจาสหรัฐไม่คืบ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : HANA, KCE,TLGF (จากถือเป็นซื้อ) / NWR (จาก FV เป็นซื้อ) / VGI (จาก FV เป็นถือ)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันอังคารปรับตัวขึ้นดี รับข่าวสหรัฐจะออกม.กระตุ้นเศรษฐกิจสำเร็จ ปิด +14.83 จุด ณ 1336.84 จุด มูลค่าซื้อขายมาก72 พันลบ. ปรับขึ้นสอดคล้องกับหุ้นเพื่อนบ้าน ปัจจจัยบวกอื่นๆคือ ราคาน้ำมันปรับขึ้น และตัวเลขการผลิต (PMI) จีนติดลบน้อยลง ตลาดฯรอดูการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนจะมีขึ้น 15 ส.ค.นี้ มีการเก็งกำไรหุ้นสนามบิน เดินทาง โรงแรม ซื้อสุทธิสูง-สถาบัน ขายสุทธิมาก-รายย่อย YTD ต่างชาติขาย 231 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET มีโอกาสไปต่อได้ วัคซีนคืบหน้า ดาวโจนส์ น้ำมันปรับขึ้นดี แต่เจรจากระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบ ปัจจัยบวกคือ มีการช้อนซื้อหุ้นเทคโนฯได้ประโยชน์ WFH รัสเซียจดทะเบียนวัคซีนได้รายแรกของโลก พร้อมผลิต ด้านโมเดอร์นาก็คืบหน้าเช่นกัน CPI สหรัฐฯปรับตัวขึ้นดี ดาวโจนส์ +290 จุด น้ำมัน WTI ทะยาน1.06 เหรียญ เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านบวก และดัชนีกังวล VIX ต่ำเป็น 22.3 จุด ส่วนปัจจัยลบคือ การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่สำเร็จ ดาวโจนส์ Futureปรับลงแต่ไม่มาก ด้านไทยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพ ก.ค.ลดลง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1310-1350 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ติดตามประกาศ GDP 2Q63 จากสภาพัฒน์ฯ 17 ส.ค.นี้ จะลงลึกเพียงใด ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้วจึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี หุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อ-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO, TU, STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แต่ระยะสั้นระวังงบ 2Q63 ไม่ดี คือ BDMS,BTS,CK,PF แนวรับคือ 1310-1300 จุด และ แนวต้าน 1350-1360 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1330 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ-15 ส.ค.63 สหรัฐ-จีน เจรจาการค้า โทนเป็นลบ ขัดแย้งหลายเรื่อง จีนซื้อสินค้าน้อยกว่าตกลงไว้ -17 ก.ย.63 สภาพัฒน์ประกาศ GDP 2Q63 มีแนวโน้มจะแย่กว่า -12% (ตอนต้มยำกุ้งปี 40) DBS คาด -13% แต่ Consensus เฉลี่ยเป็น -11%
# Stock Pick Today : NWR 2Q63 ดีกว่าคาดมาก เพิ่มเป็นซื้อ กำไรหลัก 2Q63 เป็น 63 ล้านบาท ฟื้นตัวขึ้นจาก y-o-y และ q-o-q ที่เป็น -215 และ -18 ล้านบาทเนื่องจากกำไรในส่วนรับเหมาก่อสร้างและพรีแฟบเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายบริหารสู่ภาวะปกติ ปรับประมาณการดีขึ้น ปีนี้และปีหน้าเป็นกำไร 79 และ 92 ล้านบาท จากเดิมที่เป็นขาดทุนจำนวนมาก จุดแข็งคือมีงานก่อสร้างในมือสูง ราคาพื้นฐานใหม่ปรับขึ้นเป็น 0.65 บาท ด้วย P/BV ปี 63 ที่ 0.5 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 25%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...เป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆ แต่ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsเปลี่ยนกลับเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”อีกครั้ง (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1350 (หรือ 1360 – 1370) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1330” (แนวรับย่อย “1310 – 1300” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Single stock futures : รายสัปดาห์
Company Guide : ANAN (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 1.22)
AOT (ถือ -ราคาพื้นฐาน 56.00)
AP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 7.80)
DREIT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.10)
HANA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 44.75)
KCE (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 34.75)
NWR (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 0.65)
TASCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 31.00)
TLGF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 18.40)
TU (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.10)
VGI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 6.69)
WHA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 3.23)
Flash Note : BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 23.30)
CPALL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 81.50)
GFPT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 14.00)
MTC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 58.00)
PTL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 27.50)
QH (ถือ -ราคาพื้นฐาน 2.40)
SPALI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 17.20)
TKN (ถือ -ราคาพื้นฐาน 10.90)
In The News : MACO & PLANB : MACO ลดค่าตอบแทนขั้นต่ำสัญญาบริหารจัดการสื่อโฆษณาให้ PLANB
WICE (ราคาปิด 3.60 บาท) : กำไรสุทธิ 2Q63 เติบโตก้าวกระโดด YoY
Turnover List Watch : ติดตาม IIG ว่าจะติด Cash Balance หรือไม่
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เพราะบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์มากที่สุดจาก WFH
# นักวิเคราะห์จากบริษัทเกลนมีด อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ ในรัฐเพนซิลวาเนียของสหรัฐ กล่าวว่า นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากความหวังที่ว่า บริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์มากที่สุดในช่วงเวลาที่สหรัฐยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้าน
+ โควิด-19: รัสเซียจดทะเบียนวัคซีนเป็นชาติแรกในโลก จะเริ่มผลิตภายในเวลา 2 สัปดาห์
# มีข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีน โดยนายมิคาอิล มูราชโก รัฐมนตรีสาธารณสุขรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะเริ่มการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ภายในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในระยะแรกจะเน้นการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ ก่อนที่จะผลิตตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ
+ โควิด-19: รัฐบาลสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนกับบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ของสหรัฐ
# รัฐบาลสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ของสหรัฐ เพื่อซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ปริมาณ 100 ล้านโดสมูลค่าราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยโมเดอร์นาเปิดเผยว่า วัคซีน mRNA-1273 เป็นหนึ่งในวัคซีนต้านโควิดเพียงไม่กี่ตัวที่เข้าสู่การทดลองขั้นสุดท้ายแล้ว และการทดลองดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้
- สหรัฐ: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่สำเร็จ การเจรจายังห่างไกล
# นักลงทุนยังคงจับตาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสในการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยล่าสุดนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า จุดยืนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังคง"ห่างกันเป็นไมล์"
+ สหรัฐ: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายปี
# ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายปี โดยการดีดตัวขึ้นของดัชนี CPI ในเดือนก.ค.ได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: แรงซื้อหุ้นเทคโนฯ หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 289.93 จุด
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีน และข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
+ น้ำมัน: WTI ปิดพุ่ง $1.06 หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของความต้องการใช้น้ำมัน
• ทองคำ: ปิดบวก $2.7 รับแรงช้อนซื้อ,ดอลล์อ่อนหนุนตลาด
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาทองร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับสัญญาทองคำ
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ ปัจจัยน่าติดตามตั้งแต่ 15-17 ส.ค.63 แม้ดูเป็นลบ แต่หากดีกว่าคาดจะพลิกบวกได้
# ปัจจัยน่าติดตามคือ -15 ส.ค.63 สหรัฐ-จีน เจรจาการค้า โทนเป็นลบ ขัดแย้งหลายเรื่อง จีนซื้อสินค้าน้อยกว่าตกลงไว้ ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม และพลังงาน -17 ก.ย.63 สภาพัฒน์ประกาศ GDP 2Q63 มีแนวโน้มจะแย่กว่า -12% (ตอนต้มยำกุ้งปี 40) DBS คาด -13% แต่ Consensus เฉลี่ยเป็น -11%
- ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยเดือนก.ค.63 ลดลงอยู่ที่ระดับ 35.3
# ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือนก.ค.63 อยู่ที่ระดับ35.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 36.0 ในเดือนมิ.ย.63 จากความกังวลของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นต่อประเด็นเรื่องภาระหนี้สินค่าใช้จ่าย รวมถึงระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของครัวเรือนต่อประเด็นภาระหนี้สิน แม้ทางการจะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
+/• จีนประกาศเปิดตัวนโยบายเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตชิปในประเทศ
# สภารัฐกิจจีนประกาศเปิดตัวนโยบายเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตชิปในประเทศ โดยมุ่งเน้นที่การบรรเทาภาษีเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดกับสหรัฐที่ยังคงรุนแรงขึ้น และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ "Made in China 2025" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้ได้ 70% ของที่จีนใช้เองทั้งหมดภายในค.ศ.2025
# ผลกระทบ: คาดว่า HANA จะได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์ ที่ประเทศจีน ตั้งอยู่เมืองเจียซิงหากได้รับการลดหย่อนด้านภาษีจริง ขณะที่มีรายได้มาจากจีนในสัดส่วนมากที่สุดในกลุ่มราว 18% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่าผลการดำเนินงาน 2Q63 จะออกมาไม่สดใส ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปมาก จึงแนะนำเพียง ถือ
+ โควิด-19: ไทยไม่มีการติดเชื้อในประเทศเป็นเวลา 78 วันติดต่อกันแล้วนับถึงวันอังคาร
# ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันอังคารที่11 ส.ค.63 ว่าไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ทั้งจากภายในประเทศ และที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและพักอยู่ใน State Quarantine และไม่มีการติดเชื้อในประเทศเป็นเวลา 78 วันติดต่อกัน
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web