# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า :

 SET วานนี้มีแรงขายช่วงบ่าย ปิด -4.13 จุด ที่ 1333.22 จุด มูลค่าซื้อขาย 55 พันลบ. ปรับลงแย่กว่าภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น แม้มีปัจจัย

บวกคือ PMI ภาคบริการดีทั้งสหรัฐ-ยุโรป ราคาน้ำมันปรับขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใกล้บรรลุแต่จ้างงานเอกชนก็ต่ำกว่าคาด และผู้ติดเชื้อเสียชีวิตสูง หุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ

ผันผวนสูง รอติดตามผลประกอบการ 2Q63 ซื้อสุทธิสูง-ต่างชาติขายสุทธิมาก-รายย่อย YTDต่างชาติขายสุทธิ 230 พันลบ. # ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ผันผวน ตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานต่ำคาด ตลาดฯเผย P/E ไทยสูงกว่าภูมิภาค ติดตามจ้างงานนอกภาคการเกษตร ปัจจัยบวกคือ

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐคืบหน้าใกล้บรรลุข้อตกลง หากไม่สำเร็จทรัมป์จะใช้สิทธิ์ประธานาธิบดีตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดตั้งแต่มีโควิด-19 ดาวโจนส์ +185 จุด

โปรดเกล้าตั้งครม.ใหม่ 7 ตำแหน่งแล้ว CPI ไทยก.ค.ติดลบน้อยลง ด้านปัจจัยลบคือ น้ำมันกลับมาลดลง กังวลโควิด-19 ทองคำยังเป็นที่สนใจ นิวไฮต่อ ตลาดฯเผย P/E ไทยสูงถึง

21 เท่า เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับลง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1310-1350 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะ

กลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ติดตามประกาศ GDP 2Q63 จากสภาพัฒน์ฯ 17 ส.ค.นี้จะลงลึกเพียงใด ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง แต่มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้วจึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีหุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อ-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น

Defensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัว

เร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แต่ระยะสั้นระวัง งบ 2Q63 ไม่ดีคือ BDMS,BTS,CPALL,CK,VGI,PF แนวรับคือ 1310-1300 จุด และ แนวต้าน 1340-1350 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1330 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ SUPER แม้กำไรสุทธิ 2Q63 เป็น 148 ลบ. ปรับลงถึง 49% ราคาหุ้นอาจลงรับข่าว แต่ความจริงขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากไปให้กู้ยืม เฉพาะกำไรหลักลดลงเพียง1% เป็น 301 ล้านบาท เมื่อรับรู้ข่าวนี้หุ้นก็ควรจะดีขึ้น ส่วน AOT ยังมีประเด็นลบเรื่องการเยียวยาให้คิงพาวเวอร์มากในเรื่องผลตอบแทนที่จะได้รับในอนาคตจะ

หายไปเป็นจำนวนมาก แต่ดีกว่าคิงพาวเวอร์ยกเลิกสัญญา แนะนำเพียง ถือ รวมทั้งสงครามราคาจาก เงินติดล้อคิดดอกเบี้ยต่ำ กระทบ MTC,SAWAD ด้าน BDMS

มีแรงขายหนัก กังวล 2Q63 ซ้ำรอย BH ที่คนไข้ต่างประเทศลดลงมาก

 # Stock Pick Today : CHG แนวโน้ม 3Q63 ไปได้ดีคาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q63F เท่ากับ 139 ล้านบาท ลดลง -1%YoY และ -26%QoQ เนื่องจากรายได้ลด -6.5%YoY และ - 16.3%QoQ ในช่วง Lockdown แต่อัตรากำไรดีขึ้น y-o-y และโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งขาดทุนน้อยลง คาดว่าใน 3Q63F จะมีรายได้จาก Quarantine เข้ามาช่วยหนุน เพราะมีความ ต้องการสูง จำนวนคนไข้เริ่มกลับมาอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ก.ค.63 คาดกำไรสุทธิปีนี้จะโตได้ +9.5% และขยายตัวต่อ +14.2% ในปี 64F แนะซื้อราคาพื้นฐาน 2.80 บาท (DCF)

การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...กลับเป็นลบเล็กๆ แต่อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆต่อ ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators

เป็นลบ(ยัง)เล็กๆ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก”(มี“แนวรับย่อย1300+/-”

เดิม“หนุน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน 1340 – 1350 (หรือ 1360) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1330” (แนวรับย่อย “1310 – 1300” จุด)}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com