Market Insight

สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -7.30 จุด กังวลการฟื้นตัวทางศก., ขาดปัจจัยใหม่หนุนSET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1311-25 สอดคล้องกับทิศทางหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลง ท่ามกลางความกังวลหลายด้าน โดยเฉพาะการฟื้นตัวทางศก.จากการระบาด COVID-19 ระลอก 2 และความล่าช้าของแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.45 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 15,984 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้: รีบาวด์ PMI ภาคการผลิตดีขึ้นทั่วโลก, ความหวังพัฒนายาหุ้นโลกเมื่อวาน (3 ส.ค.) ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า โดยดัชนี NASDAQ หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปิดระดับสูงสุดใหม่ นำตลาดโดยหุ้น Microsoft และ Apple จากข้อมูลภาคการผลิตเดือน ก.ค. ดีขึ้นทั่วโลก ตัวเลข PMI ของสหภาพยุโรปขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 51.8 จุด ขณะที่ ISM ภาคผลิตสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.2 จุด สูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และดีกว่าตลาดคาดที่ 53.6 จุด ด้าน PMI ของภาคเอกชนจีนเพิ่มขึ้นเป็น 52.8 จุด ดีกว่าตลาดคาดที่ 51.1 จุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้ายาต้าน COVID-19 ในเฟสสุดท้ายของบริษัท Eli Lilly สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI +1.8% จากความหวังการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะศก. มอง SET มีแนวโน้มรีบาวด์ ขานรับข้อมูลภาคการผลิตทั่วโลกที่ดีขึ้นกว่าคาด อย่างไรก็ดี มองกรอบการรีบาวด์ยังจำกัด จาก 1) การฟื้นตัวทางศก.ต่อจากนี้อาจหยุดชะงัก ผลจากการระบาด COVID-19 รอบ 2 ในหลายปท. และมาตรการกระตุ้นศก.รอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีความล่าช้าหรือไม่เพียงพอ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เลื่อนการปิดประชุมสภาจากเดิมวันที่ 3 ส.ค. ไปจนกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงแผนกระตุ้นศก.รอบใหม่ 2) การเมืองสหรัฐฯ-จีนมีแนวโน้มจะกลับมาตึงเครียดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ และ 3) ประมาณการกำไรตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับลงอีกภายหลังการทยอยประกาศงบ ซึ่งจะทำให้ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นยังคงตึงตัวอยู่ Fwd. PER ปี 21F อยู่ที่ 16.3x ยังสูงกว่าระดับ +1SD ที่ 15.7x แนวรับ 1310, 1300-1305 (สำคัญ) แนวต้าน 1330, 1340

กลยุทธ์การลงทุน: 

Wait&See, รีบาวด์น่าขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่มตราบใดที่ SET ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1350 ภาพ SET ที่เป็นลบยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น เรายังแนะนำ Wait&See ถือเงินสดรอจังหวะลงทุนรอบใหม่, หาก SET รีบาวด์ มองเป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่ม

•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TASCO – มองแนวโน้มราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดต่อไป จาก 1) งบ 2Q20F คาดพลิกมีกำไร 1.5-1.8 พันลบ.จากยอดขายที่ฟื้นตัวทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกไปจีน 2) คาด 18% ของแผนฟื้นฟูศก.และสังคมวงเงินกู้ 4 แสนลบ.จะถูกใช้ไปในการก่อสร้าง คาดจะช่วยหนุนความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3) เป็น Seasonal Play ที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วม, เป้าพื้นฐาน 32 บ. / หุ้นคาดงบจะออกมาดี มีปันผลจ่ายระหว่างกาล – DCC, BCH, CBG, CPF, SMPC, TASCO, TU, TVO / หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทกลับมาอ่อนค่า – DELTA, HANA, CPF, TFG, SMPC / หุ้นรับการกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL การฟื้นฟูศก. 4 แสนลบ.-เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ชอบ SCCC, TASCO, CK, STEC, SEAFCO, PYLON / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BBL, KKP, BAM, AEONTS, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH

•หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) AP, CPF, DCC, PRM, SMPC, TVO