- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 July 2020 20:08
- Hits: 5610
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 31-7-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 30 ก.ค.63 ปิด -22.61 จุด อยู่ที่ 1,315.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,115 ลบ.ต่างชาติขาย 1,961 ลบ. สถาบันขาย 1,458 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,011 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 315 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น BBl,KBANK,CPF,DELTA,SCB และมียอดขายหุ้น CPALL,HANA,DTAC,CPN,RATCH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 804 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KCE,HANA,AOT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,013 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 83,112 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,060 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.61% , S&P500 -0.38% และ Nasdaq +0.43 ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังรายงาน GDP สหรัฐ Q2/63 -32.9% QoQ หดตัวแรงสุดในรอบ 70 ปี จากมาตรการล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อควบคุมการระบาดไวรัส ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 12,000 ราย อยู่ที่ 1.434 ล.ราย แต่ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Apple , Facebook ที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาดการณ์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -2.16% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคาร, พลังงาน, ผู้ผลิตรถยนต์ หลังเยอรมันรายงาน GDP Q2/63 หดตัว -10.1% ลดลงมากสุดในประวัติศาสตร์และต่ำกว่าคาดจะหดตัวราว -9%
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังรายงาน GDP Q2/63 หดตัว -32.9% QoQ จากมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภค, ส่งออก, สินค้าคงคลัง และการลงทุนสินทรัพย์ถาวรหดตัวลงแรง ขณะที่สถานการณ์ระบาดไวรัส Covid-19 ในสหรัฐยังมีผู้ติดใหม่เพิ่มขึ้น วานนี้เพิ่มอีก 6.8 หมื่น ราย และมียอดผู้ติดเชื้อรวม 4.63 ล.ราย ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐสหรัฐฟื้นตัวช้ากว่าคาด เช่นเดียวกับทางฝั่งยุโรป เยอรมันเผย GDP Q2/63 หดตัว -10.1 % ลดลงมากกว่าคาดที่ -9 % ส่วนเช้านี้ Down Jones Futures +0.37 % รับข่าวรายงานผลประกอบการ Q2/63 ของกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ เช่น Apple , Amazon, Facebook อยู่ในแนวโน้มบวกและถูกกระทบน้อยสุดจากวิกฤติไวรัสระบาด ขณะที่จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต ก.ค. อยู่ 51.1 ดีกว่าคาดที่ 50.8 และอยู่ในโซนขยายตัว ภาพรวมการลงทุนอยู่ภาวะทรงตัวรอประเมินเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในครึ่งปีหลังหรือไม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.69 % ต่างชาติ สถาบัน พอร์ตโบรกเกอร์เป็นผู้ขายสุทธิ โดย สศค.ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้หดตัว -8.5 % จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวที่ลดลงแรง ขณะที่ PTTEP รายงานกำไร Q2/63 ที่ 4.3 พัน ลบ. -51% YoY และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 5.9 พัน ลบ. ส่วน AOT ปรับลดลงหลังผู้บริหารเผยแนวโน้มผลประกอบการปี 64 อาจขาดทุน ภาพรวมดัชนี SET อยู่ในแนวโน้ม Sideway Down รับผลประกอบการ บจ. Q2/63 คาดหดตัว 30 % YoY
Daily Strategy
- • ดัชนี SET คาดมีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่แนวรับ 1,300 – 1,305 จุด โดยมีแนวต้าน 1,320 - 1,330 จุด แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว ในหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดี เช่น CPF, TFG, DOHOME, OSP, ICHI
- • ADVANC, INTUCH* ทยอยซื้อสะสม / 220 บาท และ INTUCH TP Bloomberg Consensus 67.80 บาท*) หลังตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเราแนะนำให้กลับมาลงทุนในหุ้นกลับ Domestics Play ที่มีปันผลสูง (คาด Div-Yield ประมาณ 3.8 และ 4.5% ตามลำดับ และ Outlook ในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยรายได้บริการกำลังฟื้นตัวขึ้นตาม Active User ที่กลับมาใช้งานอุปกรณ์เครื่องที่ 2-3 เหมือนในภาวะปกติ นอกจากนั้นในช่วงไตรมาส 3 ยังมี Event ที่จะช่วย Uplift ARPU ของกลุ่มได้นั้นคือการเปิดตัว Handset ที่เป็น Flagship ของค่ายมือถือไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung, Huawei, Oppo และอื่นๆ ซึ่งการขายก็มักจะพ่วงมากับโปรโมชั่นที่มีระดับราคาเพิ่มขึ้น สำหรับ ADVANC ยังเป็นเป็นผู้นำทั้งในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดของรายได้บริการและจำนวนผู้ใช้งาน ฐานะทางการเงินก็ยังแข็งแกร่งเราจึงแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มนี้
- • SYNEX* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมายสูงสุดใน Bloomberg Consensus 12.60 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 ขยายตัว QoQ, YoY โดยผลกระทบ COVID-19 ค่อนข้างจำกัด แรงหนุนจากยอดขายสินค้ากลุ่ม Work from Home เช่น Notebook และ Tablet ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วง Lockdown โดยยอดขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ที่เป็นของบริษัทเติบโตดี ส่งผลให้ Gross Margin และ SG&A ในส่วนค่าใช้จ่ายทางการตลาดลดลง แนวโน้มครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้ายังไปได้ดีตามความต้องการอุปกรณ์รองรับ 5G IOT และ E-sport ที่เพิ่มขึ้นสูง ขณะที่ปัจจุบันได้ทยอยเพิ่มสัดส่วนสินค้าจาก Apple มากขึ้นช่วยชดเชยความเสี่ยงจากการ Huawei
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ก.ย.ปิด -$1.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ $39.92 /บาร์เรล Brent Futures ก.ย. ปิด -$0.81 ดอลลาร์ อยู่ที่ $42.94 /บาร์เรล ถูกกระทบจากความกังวลอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันลดลง หลัง GDP สหรัฐ Q2/63 หดตัว 32.9% QoQ ลดลงมากสุดในรอบ 70 ปี ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 17.4 ล.ราย
Gold Update (-) Gold Futures ส.ค.ปิด -11.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,942.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายกำไรหลังปรับขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการ และรับข่าวคาดการณ์เฟดยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Dollar Index -0.49% อยู่ที่ 93.0219
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -70.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -62.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 31.30 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +31 จุด อยู่ที่ 1,348 จุด
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.541 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.119 %
(+) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.9988/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 68,161 ราย รวมอยู่ที่ 4,634,577 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,464 ราย รวมอยู่ที่ 155,284 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
15 ก.ค. เปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"
23 ก.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
24 ก.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
31 ก.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
28 ก.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ก.ค.)
29 ก.ค. US ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
30 ก.ค. US แถลงการณ์คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
31 ก.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ก.ค.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web