- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 July 2020 19:48
- Hits: 5303
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 31-7-2020
“GDP 2Q สหรัฐต่ำสุดรอบ 70 ปี-ทรัมป์จะเลื่อนเลือกตั้ง ”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ดิ่งแรง กังวลเศรษฐกิจ-ผลประกอบการ ปิด -22.61 จุด ที่ 1315.74 จุด มูลค่าซื้อขาย 67 พันลบ. ปัจจัยลบคือสำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลด GDP ไทยปีนี้ลงเป็น -8.2% ต่ำสุดในประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 41 อีกทั้งกังวลผลประกอบการหลัง PTTEP ประกาศกำไร 2Q63 ต่ำกว่าคาด ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกถูกขายก่อนสหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 2 แย่ ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิ 228 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสปรับลง แต่มีลุ้นรีบาวด์ GDP สหรัฐทรุดตัวแรงตามคาด ทรัมป์จะเลื่อนเลือกตั้ง น้ำมันปรับลงแรง ปัจจัยลบมีมากคือ GDP สหรัฐใน2Q63 -32.9% ต่ำสุดในรอบ 70 ปี นักลงทุนมองลบที่ทรัมป์จะเลื่อนเลือกตั้ง การช่วยเหลือแรงงานจะทันเส้นตายวันนี้หรือไม่ GDP เยอรมัน -10.1% ดาวโจนส์ -226 จุด น้ำมันดิบดิ่งลง 1.35 เหรียญ เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ปรับลง ด้านไทยข่าวลบคือ วันนี้ประกาศภาวะเศรษฐกิจ มิ.ย.ยังชะลอ แต่ดีขึ้นกว่า พ.ค. ส่วนปัจจัยบวกคือ ทองคำเริ่มปรับลงมีข่าวปรับครม. 6 คน 7 ตำแหน่ง แม้ GDP และผลประกอบการแย่ใน 2Q63 แต่ต่ำสุดแล้ว ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศนานแล้ว และเช้านี้ดาวโจนส์และน้ำมันฟิวเจอร์สรีบาวด์
กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ รอรับต่ำ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1330 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง ติดเชื้อรอบสองและการเมืองไทย แต่มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่ บาทอ่อนแนะนำซื้อหุ้นส่งออก CPF,TU หุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวน แต่แนะนำซื้ออ่อนตัว-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT แต่ระยะสั้นระวังงบ 2Q63 ไม่ดี คือ BDMS,BTS,CPALL,CK,VGI,PF แนวรับคือ 1310-1300 จุด และ แนวต้าน 1320-1330 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1315จุด ปัจจัยสำคัญและน่าติดตาม คือ ผลการทำ Stress Test ของธนาคารพาณิชย์เรื่องฐานะเงินลงทุนในช่วงปี 63-64-65 ซึ่งต้องส่งให้ธปท.ในปลายเดือนก.ค.นี้ คงคำแนะนำถ่วงน้ำหนักน้อย ด้านกลุ่มไฟแนนซ์ได้รับผลลบข่าวธ.ออมสินรุกตลาดปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำมาก แต่ DBS เห็นว่าเน้นรีไฟแนนซ์ และใช้อ้างอิงให้ดอกเบี้ยลง ส่วนกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยวปัญหารุมเร้าขึ้น AOT ขอกู้เสริมสภาพคล่อง และ NOK เข้าแผนฟื้นฟูศาลล้มละลายแล้วกระทบแบงก์ที่ปล่อยกู้อีก
# Stock Pick Today :
BCH กำไร 2Q63 แกร่ง ปรับตัวได้ยอดเยี่ยม คาดกำไรสุทธิ 2Q63F ไว้ที่ 272 ล้านบาท เติบโต +12%YoY, +5%QoQ เพราะรายได้เติบโตจากคนไข้กลับมาเดือน พ.ค.และมิ.ย.63 หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ ปรับตัวรับโควิด-19 ได้อย่างดีคือ เป็นผู้นำรพ.เอกชนรับตรวจโรคโควิด-19 มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ และนำโรงพยาบาลทำศูนย์ Quanrantine และจับมือกับโรงแรมด้วย ทั้งนี้การเติบโตกำไรในปี 63F-64F ไปได้ดี ขยายตัว +3% ปีนี้ และ +9% ในปี 64F ดีกว่า GDP ไทย ให้ราคาพื้นฐาน 17 บ. (DCF)การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นลบต่อ แต่อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆ ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบต่อ{“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”ต่อ (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก”(ถ้ามี) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1350 (หรือ 1360) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1338” (แนวรับย่อย “1330 / 1310 – 1300” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BDMS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 25.00)
Flash Note : PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 101.00)
In The News : จีดีพีสหรัฐงวด 2Q63 (ประมาณการครั้งที่ 1) หดตัว -32.9%YoY
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐใน New normal
ออมสินจะลงมาทำสินเชื่อรายย่อยแข่งกับไฟแนนซ์
Turnover List Watch : ไม่พบหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะต้องใช้ Cash Balance สัปดาห์หน้า
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: ตัวเลข GDP 2Q63 ทรุดหนักหดตัวลง 32.9% รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปีหรือนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา GDP สหรัฐหดตัวลง5% ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
- สหรัฐ: ทรัมป์ได้เสนอให้สหรัฐเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.
# ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้เสนอให้สหรัฐเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3พ.ย. โดยอ้างว่าการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีการฉ้อโกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
# แม้ว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการชะลอการเลือกตั้งประธานาธิบดีเนื่องจากกฎหมายที่ผ่านสภาคองเกรสในศตวรรษที่ 19ได้กำหนดให้การเลือกตั้งมีขึ้นในวันอังคารแรกของเดือนพ.ย. แต่ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ส่งผลให้นักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านลบ
- สหรัฐ: จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะทันสิ้นเดือนนี้หรือไม่
# นักลงทุนจับตาพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวที่กำลังเจรจากันเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งจะหมดอายุสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ทั้งสองพรรคยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือคนว่างงาน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวไว้ที่ระดับ600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
- เยอรมัน: GDP ไตรมาส 2/2563 หดตัวลงมากกว่าคาดถึง 10.1%
# สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะติดลบ 9%
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 225.92 จุด วิตก GDP สหรัฐหดตัว,"ทรัมป์"เสนอเลื่อนเลือกตั้ง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐออกไปจากกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. อย่างไรก็ดีดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ซึ่งรวมถึงแอปเปิลและอัลฟาเบท จะเปิดเผยผลประกอบการ
- น้ำมัน: WTI ปิดร่วง 1.35 ดอลล์ วิตก GDP สหรัฐหดตัว,โควิดฉุดดีมานด์
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบกว่า 70 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- • ทองคำ: แรงขายทำกำไรฉุดทองปิดลบ 9.9 ดอลลาร์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนซึมซับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและให้คำมั่นว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศสัปดาห์นี้
# นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ ภาวะเศรษฐกิจไทย: สศค.คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ -8.5% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 41
# นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะติดลบถึง 8.5% ต่ำกว่าที่เคยประมาณการเดิมเมื่อต้นปีที่ 2.8% และต่ำกว่าปีก่อนที่ขยายตัว 2.4% และยังเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ นับจากช่วงเกิด วิกฤติเศรษฐกิจในปี 2541 ซึ่งขณะนั้น เศรษฐกิจชะลอตัวถึง 7.6% ด้วย โดยทั้งหมดเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัว 2.6% การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว 12.6% มูลค่าการส่งออกชะลอตัว11% การนำเข้าชะลอตัว 14.2%
# อย่างไรก็ตามคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวในระดับ 4-5% ในปี 64 เนื่องจากขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/63 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะติดลบเกินกว่า 10% โดยคาดว่าในไตรมาส 3/63 มีโอกาสเป็นบวก
- • การเมืองไทย: ปรับครม. ปิดกล่องครม.-หักอก'พปชร.' 'สุพัฒนพงษ์'ปาดคุมพลังงาน
# สะพัด! ทูลเกล้าฯ ครม.ใหม่แล้ว 6 คน 7 ตำแหน่ง "นายกฯ ตู่" หักอก "พลังประชารัฐ" ตั้ง "สุพัฒนพงษ์" ปาดนั่ง รมว.พลังงาน "เสี่ยแฮงค์" ได้แค่ รมต.สำนักนายกฯ "สุชาติ" คุมจับกัง "เอนก" โยกไปกระทรวงอุดมศึกษาฯ "ปรีดี" ควบรองนายกฯ-รมว.คลัง ด้าน "นฤมล" เนื้อเต้นโร่ไขก๊อก "โฆษกรัฐบาล" จ่อนั่ง รมช.แรงงาน (ผู้จัดการ)
-/+ ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย.63 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวแต่ดีขึ้นจากเดือนก่อน
# ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย.63 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวแต่ดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น หลังจากมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนในหมวดการก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น
+ รมว.อุตสาหกรรม คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัว
# รมว.อุตสาหกรรม คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัว หลังภาคอุตสาหกรรมไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/63 ไปแล้ว ภายใต้เงื่อนไขว่าประเทศไทยจะไม่มีการระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2
-กลุ่มธนาคารพาณิชย์: KKP คาดธนาคารยังคงต้องระมัดระวังความเสี่ยงในด้านหนี้เสียที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นจาก# ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เปิดเผยว่า แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารยังคงต้องระมัดระวังความเสี่ยงในด้านหนี้เสียที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 3.4%โดยธนาคารประเมินว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปไม่เกิน 3.9%
# ผลกระทบ: ประมาณการของนักวิเคราะห์มีความเสี่ยงขาลง (Donwside risk) จากการตั้งสำรอง ECL ที่สูงกว่าคาดดังนั้นประมาณการกำไรสุทธิปี 63F มีโอกาสที่จะปรับลงได้อีก ทาง DBS ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นถ่วงน้ำหนักน้อย (Underweigth) ปัจจัยที่ควรติดตาม คือ ผลการทำ Stress Test ของธนาคารพาณิชย์เรื่องฐานะเงินลงทุนในช่วงปี 63-64-65 ซึ่งต้องส่งให้ธปท.ในปลายเดือนก.ค.นี้ ซึ่งส่วนนี้มีผลต่อการจ่ายปันผลของแต่ละธนาคารด้วย
-/• กลุ่มไฟแนนซ์: ออมสินป่วน!ทำวงแตก หุ้นรูดปรื๊ดจำนำรถทรุด KTC-SAWAD-MTC ร่วงระนาว
# หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่มีพอร์ตบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ พิโกฯ-นาโนไฟแนนซ์ ป่วนหนัก หลังแบงก์ออมสิน ประกาศลุยตลาดสินเชื่อทั้งหมดนี้ภายใน 6 เดือน คิดดอกเบี้ยถูกกว่าผู้ประกอบการในระบบ 8-10% ด้านSINGER ยันไม่กระทบ เพราะคิดดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว หรือพอๆ กับออมสิน คือ 16% SAWAD-MTC ยอมรับดอกเบี้ยแพงกว่า แต่สู้ด้วยความคล่องตัว และให้บริการ ด้าน KTC เริ่มลดดอกเบี้ยตามนโยบายแบงก์ชาติ (ข่าวหุ้น)
# ผลกระทบ: เป็นลบที่จำกัด ฝ่ายวิจัยฯเห็นว่าวัตถุประสงค์จริงๆคาดว่าจะใช้เป็นการอ้างอิงให้อัตราดอกเบี้ยปรับลง และใช้รีไฟแนนซ์มากกว่า หากอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ แสดงว่าลูกค้าต้องมีคุณภาพดีมากๆ ซึ่งก็จะไม่ใช่ตลาดของไฟแนนซ์ที่ลูกค้าจะมีความเสี่ยงระดับหนึ่ง จึงคาดว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบอยู่ในเกณฑ์จำกัด สำหรับการทำธุรกิจไฟแนนซ์ คำแนะนำปัจจุบัน ซื้อ MTC และ ถือ SAWAD
-NOK: ศาลรับฟื้นฟู "นกแอร์" พักจ่ายหนี้ 2.6 หมื่นล.ทันที
# ศาลล้มละลายรับฟื้นฟู "นกแอร์" หลังติดหนี้อาน ได้พักการชำระหนี้ทันที นัดไต่สวนคำร้องวันที่ 27 ต.ค. 63 เผยแบกหนี้กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เจ้าหนี้กว่า 300 ราย (ผู้จัดการ)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web