- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 July 2020 18:28
- Hits: 4279
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 20-7-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 17 ก.ค.63 ปิด +11.72 จุด อยู่ที่ 1,359.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,354 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,457 ลบ. สถาบันขาย 647 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 524 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 2,225 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTT,STGT,CBG,GULF,BGRIM และมียอดขายหุ้น KTC,STA,RS,PTTEP,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 402 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KTC,CPALL,CPF โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 895 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 118,157 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 489 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.23% , S&P500 +0.28% และ Nasdaq +0.28% หุ้น Netflix ปิด -6.52% จากรายงานกำไร Q2/63 ต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่การติดเชื้อไวรัส Covid-19 ทั่วโลกมีจำนวนรวม 14 ล.ราย นักลงทุนยังรอสภาคองเกรสจะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในวันจันทร์นี้ สำหรับรายงานทางเศรษฐกิจนั้น ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค. ลดลงอยู่ที่ 73.2 & มิ.ย.ที่ 78.1 จากความกังวลไวรัสระบาดรอบใหม่ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ สินค้าโภคภัณฑ์และเทคโนโลยี โดยยังรอผลการประชุมผู้นำ EU 27 ชาติในการพิจารณาจัดสรรเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสน ล.ยูโร
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา Down Jones ปิด +2.30% , Nasdaq +1.1% ได้ปัจจัยหนุนจากข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนของ Moderna , BioNTech และยาต้านไวรัส Remdesivir ของ Gilead ที่ลดอัตราการเสียชีวิต ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐเพิ่มขึ้นในลอส แองเจอลิส , ฟลอริดา ส่งผลให้อาจต้องใช้มาตรการล็อคดาวน์บางส่วน ส่วนสภาคองเกรสจะประชุมในวันนี้เพื่อออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หลังมาตรการช่วยเหลือรอบแรกสิ้นสุด ก.ค. นี้ สัปดาห์นี้ยังรอรายงานกำไร Q2/63 ของ UBS, Tesla, Twitter และวันศุกร์รายงาน Markit PMI ภาคการผลิต เบื้องต้น ก.ค. ของภูมิภาคต่าง ๆ ส่วนการประชุมผู้นำ EU ในการพิจารณาจัดสรรเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.5 แสน ล.ยูโร ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่งผลให้ดัชนีต่างประเทศเช้านี้อยู่ในภาวะทรงตัว สำหรับดัชนี SET สัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัวอยู่ระหว่างรอการปรับ ครม.ชุดใหม่ใน ส.ค. นี้ ขณะที่การควบคุมการระบาดไวรัสจากกรณีทหารอียิปต์และเด็กหญิงชาวซูดานยังไม่มีพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น นักลงทุนยังรอรายงานกำไร Q2/63 ของกลุ่มธนาคาร โดย TISCO รายงานกำไร Q2/63 อยู่ที่ 1,333 ลบ. -25.8% YoY , สินเชื่อ -4.1 % , NIM เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 4.3% , รายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ย -19.9% สำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 873 ลบ. และ NPL เพิ่มขึ้นจาก 2.56% เป็น 3.28% วันนี้ KBANK จะรายงานกำไร Q2/63 Consensus คาดที่ 6.78 พัน ลบ. -32% YoY และ SCB คาดกำไร Q2/63 ที่ 7.78 พัน ลบ. -29% YoY
Daily Strategy
- • ดัชนี SET คาดทรงตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 1,345 – 1,350 จุด แนวต้าน 1,365 – 1,370 จุด ระหว่างรอรายงานกำไรกลุ่มธนาคารคาดยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว แนะนำซื้อกลุ่ม Defensive เช่น ADVANC, INTUCH, TFG, MCS
- • STGT (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 88.00 บาท) กำไรไตรมาส 2 มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ เบื้องต้นเราคาดการไว้ที่ระดับ 942 ลบ. ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ +444%YoY, +123%QoQ โดยอุปสงค์ต่อการใช้ถุงมือยางยังเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง, คำสั่งซื้อถุงมือยางเต็มกำลังการผลิตไปจนถึงไตรมาส 3 ปีหน้า ส่งผลให้ราคาขายปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีรายได้หลักมาจากการส่งออกทำให้ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนสำหรับปีนี้ นอกจากนั้นบริ๋ษัทอาจจะมีการปรับขึ้นราคาขายถุงมือยางขึ้นอีกในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไปดังนั้น Outlook ในช่วงที่เหลือของปีจึงอยู่ในทิศทางที่สดใส สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 เราประเมินไว้ที่ระดับ 4.24 พัน ลบ. และ 5.62 พัน ลบ. เติบโตต่อเนื่อง +568%YoY และ +32%YoY ตามลำดับ
- • TVO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Cons. 30.75 บาท) บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากน้ำมันถั่วเหลืองประมาณ (40%) ได้ประโยชน์จากความต้องการใช้บริโภคในครัวเรือนช่วง Lockdown รวมถึงมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 ที่ทำให้น้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเป็นสินค้าทดแทนน้ำมันปาล์มได้ประโยชน์ ขณะที่รายได้จากกากถั่วเหลือง (60%) ได้แรงหนุนจากราคากากถั่วเหลืองขยับขึ้นจากอุปทานที่ลดลงในอาร์เจนติน่าและอุปสงส์ที่ฟื้นตัวในจีนเพื่อใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ส่วนแนวโน้ม 2Q63 คาดกำไรดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY Margin ดีขึ้นจากต้นทุนที่ลดลงและผลบวกจากบาทแข็งค่า อิงจาก Bloomberg คาดกำไรปี 63 ที่ 1.73 พันล้านบาท เติบโต 23%YoY คิดเป็น Forward PER’63 ที่ 13 เท่า
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ส.ค.ปิด -$0.16 ดอลลาร์ อยู่ที่ $40.59 /บาร์เรล Brent Futures ก.ย. ปิด -$0.23 ดอลลาร์ อยู่ที่ $43.14 /บาร์เรล IEA และ Opec เผยความไม่แน่นอนของการระบาดไวรัส อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน หลัง Opec+ ตัดสินใจปรับลดการลดกำลังการผลิตเหลือ 7.7 ล.บาร์เรล/วัน ตั้งแต่ ส.ค. - ธ.ค. นี้
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +9.70 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังความไม่แน่นอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วโลกยังปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Dollar Index -0.42% อยู่ที่ 95.945
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -189.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -37.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -77.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -75.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.68 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +11 จุด อยู่ที่ 1,710 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.628 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.147 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.9924/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 63,584 ราย รวมอยู่ที่ 3,896,855 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 392 ราย รวมอยู่ที่ 143,269 ราย ( Worldometers )
(-) ญี่ปุ่นรายงานส่งออก มิ.ย. -26.2 % YoY & คาดการณ์ -24.7 %
Economic Calendar
ในประเทศ
15 ก.ค. เปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
20 ก.ค. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC)
22 ก.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
23 ก.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
24 ก.ค. UK ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
UK ดัชนี PMI ภาคการผลิต
US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web