- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 July 2020 21:52
- Hits: 7069
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 16-7-2020
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
วานนี้ SET แกว่งขึ้น ตอบรับพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีน เพิ่มแรงเก็งกำไรต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,354.31 (+13.24 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.4 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 1,310 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,461 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 7,925 สัญญา)
SPRC (ราคาเป้าหมาย 7.0 บาท) คาดแนวโน้มกำไร 2Q63 ฟื้นตัว สอดคล้องกับราคาส่วนต่างเบนซินที่ดีขึ้น หลังการปลด Lockdown โดยสำหรับสต๊อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ล่าสุดของสหรัฐฯ ลดลงกว่า –3.14 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดประเมินที่ -1.1 ล้านบาร์เรล เป็น sentiment บวกเพิ่มเติม
ราคาน้ำมันดีดขึ้นรับสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ ลดมากกว่าคาด : ภาพรวมตัวเลขตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อคืนที่ผ่านมาถือว่าดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ นำโดย 1) สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ (US Crude Oil Inventories) ปรับลดลง -7.49 ล้านบาร์เรล ดีกว่าคาดที่จะลดลงเพียง -8.8 หมื่นบาร์เรล 2) สต๊อกน้ำมันเบนซิน (US Gasoline Inventories) ลดลงกว่า –3.14 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดประเมินที่ -1.1 ล้านบาร์เรล สะท้อนการขับขี่รถยนต์ในสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่สูง 3) สต๊อกน้ำมันกลั่น (US Distillate Inventory) ปรับลดลง -4.5 แสนบาร์เรล สวนคาดที่ +1.38 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันวานนี้ +2.3% ส่วนด้านการประชุม JMMC วานนี้มีมติให้ กลุ่ม OPEC+ ลดกำลังผลิตในเดือน ส.ค. เหลือ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ลด 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด และสอดคล้องกับมติที่ประชุม OPEC+ ในรอบก่อนหน้า ส่วนปัจจัยวันนี้แนะติดตามการประชุม ECB โดยคาดจะยังคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ แต่แนะจับตาอาจมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
Investment Strategy :
วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,340 ต้าน 1,365 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “SPRC, DTAC, JMART”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : รอทยอยทำกำไรในช่วงจังหวะการฟื้นตัวเข้าหาแนวต้าน 1360 จุด
ไม่มีหุ้น : เน้นเป็นการ Trading เล่นรอบ กรอบการแกว่งตัว 1330-1360 จุด
CPN รีวิวแผนลงทุนรับโควิด (ประชาชาติธุรกิจ)
ความเห็น : เป็นไปตามที่บริษัทเคยแจ้งไว้ว่าชะลอลงทุนระยะสั้น แต่ยังมีการลงทุนระยะยาว ส่วนจำนวนลูกค้าเข้าศูนย์การค้าในเดือน มิ.ย. เพิ่มเป็น 60-70% เทียบกับ 20-30% ในช่วงล็อกดาวน์ ขณะที่ Occupancy rate ประมาณ 90% โดย CPN ให้ส่วนลดค่าเช่า 10-50% คาดผลประกอบการ 2Q63 ต่ำสุดของปี ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวใน 3Q63 แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 66 บาท
AP ส่งซิกยอดโอน Q2 ทุบสถิตินิวไฮ ครึ่งปีหลังผุด 26 โครงการ มูลค่า 2.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : โครงการใหม่ของเอพีในปีนี้จะเป็นโครงการบ้านแนวราบทั้งหมด โดยบริษัทฯ เลื่อนการเปิดตัวคอนโดใหม่ไปเป็นปีหน้าจนกว่าสถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้น ยอดโอนรายไตรมาสสูงสุดที่บริษัทฯเคยทำได้คือ 11.5พันล้านเมื่อ 4Q16 อนุมานได้ว่าไตรมาส2 น่าจะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นของปีนี้ในเชิงกำไร
ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3 หมื่นคัน (INN News)
ความเห็น : การจัดงาน มอเตอร์โขว์ จะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ประมาณ 3 หมื่นคัน ซึ่งลดลงจากงานมอเตอร์โชว์ในอดีตที่มียอดขายรถยนต์ประมาณ 4.5 หมื่นคัน หลังจากที่ถูกผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 ปีนี้ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะประมาณ 6.5 แสนคัน ลดลงประมาณ 35% จากปีก่อนที่มียอดขายรถยนต์ 1 ล้านคัน เราคงให้น้ำหนักกลุ่มยานยนต์น้อยกว่าตลาด
Siam City Cement (SCCC)
คาดกำไร 2Q63 จะประคองตัว
Results Preview
ประเด็นการลงทุน
คาดกำไร 2Q63 จะประคองตัว 800 ล้านบาท (-3%QoQ, +26%YoY) โดยโตสูงจากปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายพิเศษสูง แนวโน้มครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก จากเป็นช่วงโลซีซั่น และ จะมีการปิดซ่อมบำรุงเตา 2 เตา ราคาหุ้นทรุดลงจากต้นปีถึง 29% ปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่น่าสนใจคือ P/E 13.5 เท่า P/BV 1.3 เท่า และ อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.8% เราคงแนะนำ ซื้อลงทุน เป้าหมาย 180 บาท
คาดกำไร 2Q63 จะประคองตัว 800 ล้านบาท (-3%QoQ, +26%YoY)
ความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศ 2Q63 คาดจะทรงตัวจากปีก่อน โดยเดือน เม.ย. ปีนี้ไม่ได้หยุดยาวเช่นปีก่อน ในขณะที่โรงปูนซีเมนต์ในต่างประเทศถูกกระทบจากการ ล็อกดาวน์ รวมแล้วคาดยอดขายจะลดลงจากปีก่อน 7% เหลือ 11,105 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับตัวดีขึ้น 33.2% เทียบกับ 32.5% ในไตรมาสก่อน และ 28.5% ในปีก่อน เพราะ การปิดสายการผลิต (Mothball) โรงงาน K1 ซึ่งประสิทธิภาพต่ำ และ เป็นสายที่ผลิตเพื่อส่งออกซึ่งมีกำไรต่ำ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,607 ล้านบาท (+6%QoQ, +2%YoY) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษพนักงานเกษียณก่อนกำหนดจากการปิดเตา K1 ประมาณ 150-200 ล้านบาท รวมแล้วคาด 1Q63 จะมีกำไรประมาณ 800 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน 3%QoQ แต่ดีขึ้นจากปีก่อนถึง 26%YoY เนื่องจากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายพิเศษ คือ กฏหมายแรงงานใหม่ทำให้ต้องตั้งสำรองเพิ่ม 249 ล้านบาท และ มีการปิดซ่อมบำรุงเตาผลิตปูนซีเมนต์ K4 และ K6 ทำให้มีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 200 ล้านบาท
แนวโน้มครึ่งปีหลังจะชะลอตัว
Covid-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในวงกว้าง และรุนแรง โดยในครึ่งปีหลังจะมีการปิดซ่อมบำรุงเตา 2 เตา จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 ล้านบาท บวกกับเป็นช่วงโลซีซั่นจะทำให้กำไรครึ่งปีหลังชะลอตัว เราคาดปี 2563 จะมียอดขาย 42,834 ล้านบาท ลดลง 10%YoY และ มีกำไร 2,979 ล้านบาท ลดลง 6%YoY ทั้งนี้ปี 2562 มีค่าใช้จ่ายพิเศษสูงถึง 500-700 ล้านบาท
หุ้นซื้อขายบน Valuation ที่น่าสนใน
ราคาหุ้น SCCC แม้ว่าจะปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดกลางเดือน มี.ค. 33% แต่ยังปรับลดลงจากต้นปี 29%YTD ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่น่าสนใจคือ P/E 13.5 เท่า, EV/EBITDA 8.7 เท่า, P/BV 1.3 เท่า และ อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.8% เราคงแนะนำ ซื้อลงทุน ประเมินราคาเป้าหมายปี 2563 เท่ากับ 180 บาท บนฐาน Average P/E = 18x
ความเสี่ยง : ต้นทุนพลังงาน / ธุรกิจปูนซีเมนต์ Over Supply / ความต้องการต่ำ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web