KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ บวกต่อ แต่น่าจะผันผวนสูงขึ้นอีก... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ รีบาวด์รับข่าวทดสอบวัคซีน COVID-19 ได้ผลดี ผนวกกับการแรลลี่ของตลาดหุ้นโลกตามงบไตรมาส 2/2563 ของธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ที่โดดเด่น (ตามคาด)... ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยบวกจากต่างประเทศยังคงมีอยู่ กล่าวคือ i) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นผลผลิตภาคอุตสาหกรรม มิ.ย. และดัชนีภาคการผลิตของนิวยอร์กเฟด เดือน ก.ค. ต่างออกมาสูงกว่าที่ consensus คาด ขณะที่ Goldman Sachs รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2563 สูงกว่าที่ consensus คาดถึง 66% หนุนจิตวิทยาตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ii) ความกังวลต่อการติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยน่าจะลดลง หลังจากผลตรวจผู้ที่มีความเชื่อมโยง/ความเสี่ยง จากเคสทหารอียิปต์ที่ จ.ระยอง ออกมาไม่มีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด ขณะที่ผลตรวจลูกบ้านคอนโดสุขุมวิท 26 ในเคสชาวซูดาน ยังไม่มีผลสรุปออกมา... ทั้งนี้ทางขึ้นของดัชนีฯ น่าจะมีจำกัด และฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าความผันผวนของตลาดหุ้นจะสูงขึ้นในวันนี้ เพราะล่าสุดมีรายงานว่า ครึ่งหนึ่งของอาสาสมัครที่ทดลองวัคซีน COVID-19 ของ บ.โมเดอนา อิงก์นั้นมีผลข้างเคียงที่มีนัยสำคัญ นอกจากนี้ภาวะการซื้อขายในวันนี้ จะขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2563 ของจีนที่จะออกมาเช้าวันนี้ ซึ่ง consensus คาดไว้ที่ +2.5% YoY

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน     (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร DTAC*, JMART, EA*

          DTAC* (เป้าพื้นฐาน 47 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 41- 42 บาท (Stop loss 37.25 บาท) 2) รายงานผลการดำเนินงาน 2Q63 ดีกว่าคาด (ดีกว่าเราคาด +49%, ดีกว่า Consensus คาด 41%) เป็นผลจากการคุมต้นทุนได้ดี แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 และมีกำไรพิเศษราว 315 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ 3) จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.87 บาท/หุ้น Dividend yield 2.2% ขึ้น XD วันที่ 24 ก.ค.

          JMART (เป้า Consensus 15 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.7 บาท / แนวต้าน 13.0 บาท (Trailing stop 11.0 บาท) 2) Consensus ปรับประมาณการฯและราคาเป้าหมายขึ้นตามคาดจากแนวโน้มผลการดำเนินงาน บ.ลูก SINGER และ JMT* ที่จะดีกว่าคาด + 5G หนุนยอดขายสมาร์ทโฟนให้ฟื้นใน 2H63 3) ราคาหุ้น Laggard ทั้ง บ.ลูก (SINGER, JMT*) โดยจากราคาปิดล่าสุด Market cap JMART discount การถือหุ้น SINGER และ JMT* ตามสัดส่วนการถือหุ้นถึง -26% โดยไม่รวมมูลค่าของธุรกิจขายค้าปลีกของ JMART (Market cap JMART = 1.08 หมื่นล้านบาท / มูลค่า SINGER + JMT ตามสัดส่วนการถือหุ้น = 1.48 หมื่นล้านบาท)

          EA* (เป้า Consensus 52.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 47.5 บาท / แนวต้าน 49.5 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 52 บาท (Stop loss 45 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 3) เตรียมปลดล๊อกธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ จากการเข้าลงทุนในหุ้น NEX (ประกอบรถบัส EV) หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติการเพิ่มทุนโดย บ.ย่อยของ EA* จะเข้าถือหุ้นใน NEX 40% ... NEX แนวรับ 4.6 บาท / แนวต้าน 5.0 - 5.25 บาท (Stop loss 4.2 บาท)

หุ้นมีข่าว

          (+) ลุ้นหั่นนำส่ง 'เอฟไอดีเอฟ' ปลุกเก็งกำไร 'หุ้นแบงก์' คึก (กรุงเทพธุรกิจ) หุ้นกลุ่ม "แบงก์" ปรับตัวขึ้นขานรับ ธปท.มีแนวโน้มขยายเวลาลดเงินนำส่งเข้า FIDF เหลือ 0.23% จาก 0.46% ที่กำหนดไว้ถึงแค่สิ้นปี 64 โบรกคาด หนุนกำไรสุทธิ 7 แบงก์ใหญ่ ปี 65 เพิ่มขึ้นรวม 1.85 หมื่นล้านบาท

          (-GULF*, PTT* / +กลุ่มนิคมฯ AMATA*, WHA*) ปิดดีลเจรจาแหลมฉบังเฟส3 ชงบอร์ด "อีอีซี" ชี้ขาดก.ค.นี้ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) กทท.ยุติ เจรจา กลุ่ม GPC บอร์ดไฟเขียว ผลตอบแทนสัมปทาน แหลมฉบังเฟส 3 เพิ่มอีกกว่า 100% ขยับเกือบถึงราคากลาง 3.2 หมื่นล้าน ชงบอร์ดอีอีซี ชี้ขาด ก.ค.นี้ กก.คัดเลือกฯมั่นใจเจรจาให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด คาดลงนามเร็วๆ นี้ ขณะที่เร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งมอบใน 2 ปีหลังเซ็นสัญญา

          (+) RATCH* ผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจไฟฟ้าเวียดนาม (ไทยโพสต์) ราช กรุ๊ป จับมือกลุ่ม Geleximco ขยายฐานธุรกิจในเวียดนาม ลงทุน 78.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้น 49% กองทุนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ลุยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าฟอสซิล-พลังงานทดแทน

          (+) SKY รุกยึด 6 สนามบิน รวบงานภาคพื้น AOT* (ข่าวหุ้น) SKY สยายปีกรุกยึด 6 สนามบิน หวังต่อยอดธุรกิจอุตสาหกรรมการบิน-กินรวบงานบริการภาคพื้นของ AOT* โดยทุ่มงบลงทุนกว่า 212 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 46.80% ใน SAL ซึ่งเป็นโฮลดิ้งส์คอมปานีถือหุ้น AOTGA ในสัดส่วน 51%

          (+) ชูวินมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า BCP* ปิ้งไอเดียจัดให้เช่า (ทันหุ้น) BCP* แตกไลน์ปั้นสตาร์ทอัพ "Winnonie" ธุรกิจให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า วันละ 150 บาท เน้นกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง ตั้งเป้าแชร์ 10% ของวินทั้งหมดแสนคัน ปรับแผนเลื่อนยื่นไฟลิ่ง BBGI เข้าตลาดเป็นช่วง Q4/2563 เหตุผลกระทบโควิด-19

          (+) EA* จ่อยื่นกลต.เข้าซื้อหุ้น NEX หวังต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่-รถยนต์อีวี (ข่าวหุ้น) EA* เตรียมยื่นก.ล.ต.ขออนุมัติเข้าซื้อหุ้น NEX ในสัดส่วน 40% หวังต่อยอดธุรกิจขยายตลาดแบตเตอรี่และรถยนต์อีวี จ่อรับรู้รายได้ปีหน้า ส่วนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเฟสแรก 1 กิกะวัตต์ คาดเสร็จตามแผนสิ้นปีนี้

          (0) OPEC+ กำลังผ่อนคลายการลดกำลังผลิตในเดือนสิงหาคม (OilPrice) OPEC+ ตกลงที่จะไม่ขยายการลดกำลังการผลิต9.7MBDในการประชุม JMMC ของเมื่อวานนี้ โดยทางกลุ่มจะลดกำลังการผลิตที่7.7MBDในช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคมตามข้อตกลงเดิมของ OPEC+ ในเดือนเมษายน แต่อการลดกำลังการผลิตจะมากกว่าตัวเลขนี้เพราะสมาชิก OPEC+ ที่ไม่ปฏิบัติตามโควต้าในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายนจะต้องลดกำลังการผลิตของตัวเองเพิ่มอีกในสองเดือนข้างหน้า ดังนั้นตลาดคาดว่าการลดกำลังการผลิตของOPEC+ ในเดือนสิงหาคม - กันยายนจะเป็น 8.5MBD

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

          หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 16 บาท), SEAFCO (Trailing stop 6.2 บาท)

          INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 56 บาท) 

          CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน ?35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท) 

          STA* (เป้า Consensus 28.7 บาท / สูงสุด 39.9 บาท) แนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 33 บาท (Trailing stop 28 บาท) 

          GULF* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 37 บาท / แนวต้าน 39.25 - 41 บาท (Trailing stop 37 บาท) 

          STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.9 - 16.1 บาท (Stop loss 15.0 บาท) 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

          DTAC* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 47 บาท รายงานกำไรสุทธิ 2Q63 = 1.89 พันล้านบาท (+26% QoQ, +20% YoY) ดีกว่าคาด 49%, ดีกว่า Consensus คาด +41% โดยหากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักของ DTAC ใน 2Q63 จะอยู่ที่ 1.57 พันล้านบาท (+14% QoQ, -4% YoY) กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากคุมต้นทุนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯคงประมาณการฯทั้งปี 2563 ไว้ตามเดิมแม้กำไร 2Q63 จะดีกว่าคาด เพราะประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานอาจอ่อนตัวลงใน 2H63 (ต้นทุนค่าใช้จ่ายมีโอกาสเพิ่มขึ้น) แนะนำ "ถือ" ... ประกาศปันผล 0.87 บาท/หุ้น Dividend yield 2.2% ขึ้น XD วันที่ 24 ก.ค.

          กลุ่ม Non-Bank น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิรวมใน 2Q63 ของธุรกิจ non-bank 3 แห่งที่ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ (MTC*, SAWAD*, KTC*) จะลดลง 17% QoQ และทรงตัว YoY โดยการตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น และรายได้ที่ลดลงจากการติดตามหนี้เสียจะกระทบกับผลการดำเนินงานของ KTC* ในขณะที่สินเชื่อที่ทรงตัว และ loan สินเชื่อที่ลดลงจะกระทบกำไรของ MTC* และ SAWAD* สำหรับในระยะต่อไป ผลประกอบการยังมีความเสี่ยงที่จะถูกกดดันจากการแทรกแซงของ ธปท. แนะนำให้ "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" โดยหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯชอบ เรียงลำดับดังนี้ MTC* > KTC* > SAWAD* ... อ่านการพรีวิวงบ 2Q63 รายตัวในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม

          กลุ่มสื่อ น้ำหนักลงทุน "น้อยกว่าตลาดฯ" ยอดใช้จ่ายโฆษณาในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น +11% MoM แต่ยังลดลง -27% YoY โดยยอดค่าใช้จ่ายโฆษณาในโรงภาพยนต์ฟื้นตัวดีสุด MoM / ขณะที่ในภาพรวมค่าใช้จ่ายโฆษณา 2Q63 ผ่านช่องทางออนไลน์ยังเติบโตได้ดีสุดทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ช่องทางอื่นๆชะลอตัวลง ฝ่ายวิจัยฯประเมินเบื้องต้นหุ้นทีวีอย่าง BEC และ MONO จะมีผลการดำเนินงานฟื้นตัว QoQ จากการปรับโครงสร้างภายในองค์กร แต่ก็ยังลดลง YoY ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่ออื่นๆ คาดผลการดำเนินงานจะชอลัวลงใน 2Q63 จึงคงคำแนะนำการลงทุนในกลุ่มนี้ที่ "น้อยกว่าตลาดฯ"   

******************************************