- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 October 2014 17:26
- Hits: 1873
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ 1,521-1,519
Technical : แนวรับ : 1,521-1,519** / 1,508 แนวต้าน 1,537 / 1,555**
หุ้นแนะนำพิเศษ : CPN แนวรับ 43 – 44 แนวต้าน 47 - 48
หุ้นเด่นรายวัน : L&E SPALI
วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,526.67 จุด ลดลง 2.04 จุด(-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 36,386.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายซื้อสุทธิ 481.29 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,508-1,555 แรงขายต่อเนื่องตามปัจจัยตลาดหุ้นต่างประเทศและยังคงมีน้ำหนักในการชี้นำทิศทางตลาดหุ้นไทย ตลาดมีแรงซื้อระยะสั้นเข้ามาด้านเทคนิค การกลับตัวขึ้นมีโอกาสปิดเหนือ 1,536 (สัญญาณซื้อ) ในขณะที่ SET50 สร้างจุดต่ำใหม่และปิดตัวด้วยแท่งเทียนโดจิ ระยะสั้นการปิดตัวเน้นยืนเหนือ 1,009 เป็นจุดพิจารณาหลัก แนวต้าน 1,020 / 1,027 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,960-19,180 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,030-19,250
กลยุทธ์ ระดับดัชนีมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นตามการพุ่งขึ้นของดัชนีตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ในขณะที่ผลประกอบการกลุ่มธนาคารและระดับราคามีการปรับตัวตอบรับ(ลงมา)ในระยะสั้น คาดจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ หรือกลับตัวขึ้น BBL TMB KTB KBANK TISCO กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC GEL TASCO กลุ่มอาหาร TUF MINT กลุ่มอสังหาฯ แนะนำซื้อเพื่อเล่นรอบระยะสั้น S CGD ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
KBANK (ราคาปิด 231 ซื้อ เป้าหมาย 268 ) ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีพอร์ตสินเชื่อกระจายตัวดีและมีประสิทธิภาพในการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้ผลประกอบการยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 3Q57 มีกำไรสุทธิ 1.25 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 17%YoY และ 7%QoQ ดีกว่าคาด 8% กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 57 เท่ากับ 3.6 หมื่นล้านบาทเติบโต 14%YoY คิดเป็น 78% ของประมาณการทั้งปีที่ 4.6 หมื่นล้านบาท สำหรับประมาณการกำไรปี 58 คาดกำไรสุทธิราว 5.2 หมื่นล้านบาทเติบโต 12%
หุ้นเด่นรายวัน
L&E (ราคาปิด 7 ซื้อเก็งกำไร) ประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การนำเข้า และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างต่างๆให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศจะย้ายจากตลาด MAI มาซื้อขายวันแรกในตลาด SET หมวดของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
SPALI (ราคาปิด 24.38 ซื้อ เป้าหมาย 32.20) กำไร 3Q57 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากที่คาดการณ์ว่าจะทำได้ราว 1.3 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 282%YoY และ 153%QoQ เนื่องจากการโอนโครงการแนวราบที่เข้ามาเยอะและเริ่มโอนคอนโดมิเนียมในช่วงต้นไตรมาส ทั้งนี้กำไร Q4 มีแนวโน้มดีกว่า Q3 จากการโอนคอนโดมิเนียมต่อเนื่องและคาดว่าจะมีกำไรรายไตรมาสสูงสุดสำหรับปี
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 19.26 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจน์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของภาคเอกชนโดยเมื่อวานนี้ หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ 1.42 ดอลลาร์ และผลประกอบการโดยรวมอยู่ที่ 4.212 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.988 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้นักลงทุนยังติดตามดูรายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้อาทิ โคคา-โคลา, แมคโดนัลด์ คอร์ป,โบอิ้ง โค และแคทเทอร์พิลลาร์ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 19.26 จุด หรือ +0.12% ปิดที่ 16,399.67 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 57.63 จุด หรือ +1.35% ปิดที่ 4,316.07 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 17.25 จุด หรือ +0.91%ปิดที่ 1,904.01 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 4 เซนต์ หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกมาปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลดลงมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า OPEC อาจจะปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก และอาจจะจัดการประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 27 พ.ย.57 ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 4 เซนต์ปิดที่ 82.71 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 85.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
