- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 July 2020 18:39
- Hits: 7813
บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน 14-7-2020
กลยุทธ์การลงทุน
ความกังวลเรื่อง Covid-19 กลับเข้ามาในบ้านเราอีกครั้ง หลังเกิดความเสี่ยงขึ้นในพื้นที่ จ.ระยอง และใจกลาง กทม. เชื่อกดดันให้ SET Index ซึ่งมี Valuation สูงอยู่แล้วปรับตัวลดลง พอร์ตจำลองวานี้ Stop profit หุ้น INSET รับกำไรเกือบ 14% แนะนำให้จัดสรรเงินเข้าลงทุนใน STA ด้วยน้ำหนักเท่ากัน หุ้น Top Pick วันนี้เลือก STA และ STGT
ยกการ์ดสูงขึ้นกัน Covid-19 ... กดดัน SET Index ลงต่ำ
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลกที่สร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จนเห็นการกลับมาประกาศ Lockdown ในหลายพื้นที่ สร้างความกังวล และทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นแม้จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ เช่นเดียวกันกับสถานการณ์ภายในประเทศไทย ที่กระแสความกังวลเรื่องการระบาดของ Covid-19 กลับมาอีกครั้งหลังเกิดความเสี่ยงขึ้นในพื้นที่จังหวัดระยอง และใจกลาง กทม. เชื่อว่าจะเห็นมาตรการที่ยกการ์ดป้องกัน Covid-19 สูงขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นที่ต้องทำ Lockdown สถานการณ์แวดล้อมดังกล่าวคาดจะสร้างแรงกดดันต่อ SET Index แต่ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นบางบริษัทเช่น STA, STGT อีกสถานการณ์หนึ่งที่ต้องติดตามได้แก่ Trade War ซึ่งเห็นพัฒนาการในทางที่ร้อนแรงขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ประเมินจากท่าทีของ สหรัฐฯ และ จีน ที่ตึงเครียดมากขึ้น โดยภาพรวมคาดว่า SET Index วันนี้น่าจะปรับฐานลงต่อ สำหรับพอร์ตการลงทุนจำลอง วานนี้ได้ Stop Profit หุ้น INSET รับกำไรเกือบ 14% แนะนำให้นำเม็ดเงินที่ได้เข้าลงทุนใน STA ด้วยน้ำหนักเท่ากัน (10%) ส่วน Top Pick วันนี้ เลือก STA และ STGT เนื่องจากได้ประโยชน์ทางตรงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ทั่วโลก
Trade War สหรัฐฯ-จีน แนวโน้มร้อนแรงขึ้นตามลำดับ
ปัจจัยเสี่ยงนึงที่ตลาดหุ้นทั่วโลก คือ ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจ สหรัฐ - จีนกลับมาอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ช่วง 2Q63 คือ ฝั่งสหรัฐ ไม่พอใจหลังจากจีนได้ผ่านร่างกฎหมาย Hongkong ACT ทำให้สหรัฐออกมาตรการกดดันจีน อาทิ Ban ธุรกิจของจีน Social media อาทิ "Tiktok" และโทรคมนาคม Huawei และ ZTE รวมถึง Sanction เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ขณะที่ฝั่งจีนก็มีการตอบโต้ สหรัฐ คืน คือ Sanction สว. ของสหรัฐ 4 ท่าน
ASPS ประเมินความตึงเครียดสหรัฐ-จีน จะยังมีน้ำหนักต่อตลาดตลอดช่วง 4 เดือน ก.ค.-ต.ค. ก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พ.ย. ทั้งนี้หากพิจารณาPoll สำรวจ Bloomberg จะพบว่าคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีทรัมป์ (Republican) น้อยกว่า Joe Biden(Democrat) ซึ่งมีคำแนนนำ 10% ติดต่อกัน 1 เดือน เชื่อว่าระหว่างช่วงหาเสียงในครั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ น่าจะยิบหยกประเด็น American first และมาตรการกดดันจีนเพิ่มขึ้นอีกเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
อย่างไรก็ตามจาก Poll สำรวจเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า นาย Joe Biden(Democrat)มีโอกาสชนะการเลือกตั้งรอบนี้สูงมาก โดย ASPS ประเมินจากนโยบายหาเสียง Joe Biden เกือบคล้ายกับ Obama (ดังตาราง) มีจุดที่เหมือนและจุดที่แตกต่างกับ ประธานาธิบดีทรัมป์ (Republican)คือ
นโยบายที่ต่าง คือ 1. ปรับเพิ่มภาษีเงินบุคคลธรรมดาและนิดติบุคคลขึ้น เพื่อเอาไปใช้กับนโยบาย Health care 2.ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 100%เป็น 15เหรียญฯ/ช.ม.
นโยบายที่เหมือนกัน คือ มองประเทศจีนเป็นภัยคุกคามสหรัฐ แต่มีความต่างตรงที่จะกลับเข้าร่วมข้อตกลงการค้า TPP ฯลฯ
โดยสรุปนโยบายหาเสียงของนาย Joe Biden เป็นมิตรต่อการค้าโลกมากกว่า แต่จะไม่ดีตลาดตลาดหุ้นสหรัฐ
Covid-19 ทั่วโลกยังระบาดรุนแรง เพิ่มความเสี่ยงเชิงเศรษฐกิจ
นอกเหนือจะมีเรื่อง Trade war ดังกล่าว และปัจจัยสำคัญที่ยังมีน้ำหนักคือความกังวล Covid-19 หลังจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกที่ยังเพิ่มขึ้น และหนุนยอดสะสมทะลุ 13 ล้านราย หนุนรัฐบาลทั่วโลกเดินหน้า พิจารณาการผ่อนคลายธุรกิจและ กลับมา Lockdown รอบ 2 ปัจจุบัน มี 12 ประเทศทั่วโลกที่กลับมา Lockdow ล่าสุด สหรัฐ รัฐ Florida สั่งปิดร้านอาหารผับ บาร์ ฯลฯ
โดยรวมถือเป็ปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดหุ้น และราคาสินค้าโภคภัณท์ อาทิ น้ำมัน ล่าสุดปรับฐานลงแรง 1% โดยวันนี้เป็นวันแรก 14-15 ก.ค. ของการประชุม OPEC+ ให้น้ำหนักผลการประชุมต่อ คำแนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มน้ำมัน ราคาหุ้น PTTEP(FV@B>100) PTT (FV@B>42 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเหลือ upside จาก FV ค่อนข้างจำกัด กลุ่มโรงกลั่น ราคาหุ้น TOP (FV@B>43) BCP (FV@B>21.2) PTTGC (FV@45) IRPC (FV@B>2.9), ปิโตรเคมี IVL (FV@B>32) TOP, PTTGC ในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นมา และใกล้เต็มมูลค่าพื้นฐานเกือบหมดแล้ว ASPS มีแนวโน้มปรับลด คำแนะนำของกลุ่ม จากเท่าตลาดเหลือ "น้อยกว่าตลาด" เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนบวกขับเคลื่อนราคาใรระยะสั้น โดยเฉพาะงวด 3Q63 ซึ่งเป็นฤดูฝน Low season ของธุรกิจปิโตรเคมี และช่วง 2H63 ยังมีปัจจัยกดดันจากSupply ใหม่ในทุกสายการผลิต กดดัน Spread โดยภาพรวม
ความกังวล Covid-19 ในประเทศกลับมา คาด SET Index ปรับลง
เน้นหุ้นที่มีเกราะป้องกันโควิดระบาดระยะ 2 ชอบ STGT, STA
- หุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯแนะนำ "ซื้อ"
- หุ้นที่มี Upside เกิน 10%
- หุ้นที่ Outperform ตลาดได้ดีตอนที่เกิด COVID-19 ในระยะแรก คือ วันที่ 24 ม.ค. - 23 มี.ค. 63 (ระยะเวลา 3 เดือน โดยวันที่ 23 มี.ค. 63 SET Index ทำจุดต่ำสุดของปี 2563) หรือ เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็น COVID-19
และสามารถแบ่งแยกหุ้นเด่นในยาม COVID-19 ได้เป็น 2 ส่วน คือ
Top Pick วันนี้เลือก STGT, STA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน, ปัจจัยทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
ที่มา: บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประจำวันที่ 14 ก.ค. 2563
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web