- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 June 2020 13:59
- Hits: 4073
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-6-2020
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
วานนี้ SET ปรับฐาน ตอบรับความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจไทย หลัง กนง. ปรับคาด GDP ไทยปีนี้หดตัว -8.1% โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,333.43 (-23.00 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 4.9 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 3,589 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,154 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 9,004 สัญญา)
TASCO (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.0 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q63 โดดเด่น จากราคาขายยางมะตอยที่เร่งตัวขึ้น ตามความต้องการที่สูง และกำลังการผลิตโลกที่หายไป โดยเราคาดทิศทางนี้จะยังต่อเนื่องไปยัง 3Q63
การระบาดระลอก2 และตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอ อาจกดดันระยะสั้น : ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงขานรับความกังวลต่อการแพร่ระบาด COVID-19 ในระลอกที่สอง ซึ่งเห็นสัญญาณการเร่งตัวขึ้นในหลายรัฐใน US เช่น California, Florida, Texas เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ผสานการรายงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกจาก IMF วานนี้ที่คาดอัตราการเติบโตของ GDP โลกปีนี้ที่ -4.9% แย่กว่าประมาณการรอบเดือนมีนาคม ที่ระดับ -3% ส่วนการขยายตัวของ GDP ไทยปีนี้ IMF คาดหดตัวแรง -7.7% แต่จะกลับมาฟื้นตัวในปีหน้าที่ +5% ซึ่งคาดการณ์ดังกล่าวถือว่าใกล้เคียงกับมุมมองของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้ที่ประเมิน GDP ไทยปีนี้จะหดตัว -8.1% จากคาดเดิมที่ -5.3% ส่วนด้านดอกเบี้ยนโยบาย กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศยังมีการรายงานตัวเลขการส่งออกของไทย เดือน พ.ค. ซึ่งหดตัวกว่า -22.5% YoY เป็นจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี มีสาเหตุหลักมาจากอุปสงค์และอุปทานหดตัวจากการระบาดของโควิด-19, มาตรการ Lockdown รวมทั้งผลกระทบด้านรายได้ของประเทศคู่ค้า ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้อาจกดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น ส่วนปัจจัยหนุนที่ต้องรอคอยยังคงเป็นพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีน ซึ่งอาจเห็นข่าวเพิ่มเติมในช่วงถัดไป
Investment Strategy : วันนี้คาด SET ย่อสร้างฐาน ในกรอบแนวรับ 1,320 ต้าน 1,350 จุด เน้นสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไร 2Q63 มีโอกาสดีกว่าคาด โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “TASCO, MAKRO, DCC”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : ทยอยลดพอร์ตการลงทุน รอดัชนีกลับมายืนเหนือระดับ 1385 จุด ค่อยสะสมเพิ่มใหม่อีกครั้ง
ไม่มีหุ้น : รอเข้าซื้อเมื่อดัชนีกลับมายืนเหนือระดับ 1340 จุดอีกครั้ง
SABINA ขยายไลน์ปั๊มออเดอร์ หน้ากากผ้าหนุนฐานรายได้โต (ทันหุ้น)
ความเห็น : เราเห็นว่าบริษัทปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีทั้งด้านการผลิตและการขาย โดยเน้นขายสินค้าออนไลน์ ปรับไลน์ผลิตมาผลิตหน้ากากผ้า และลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด แม้ผลประกอบการจะชะลอลงใน 2Q63 แต่จะค่อยๆ ฟื้นตัวใน 3Q63 แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 24.30 บาท
KCE เฮ! ยุโรปให้เงินซื้อ EV รถยนต์จ่อฟื้นมาร์จิ้นเพิ่ม
ความเห็น : ยอดขายรถยนต์ในจีน (12% ของยอดขาย) เดือน พ.ค. เท่ากับ 2.2 ล้านคน +14%YoY เป็นการฟื้นตัว MoM ติดกันเป็นเดือนที่สามจากจุดต่ำสุดใน ก.พ. กลับมาสู่ระดับก่อนเกิด COVID-19 แม้ว่า 5M20 แม้ว่า 5M20 ยอดขายลดลง -22%YoY แต่ก็ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่เรามองเป็นสัญญาณที่ดีของโมเมนตัมอุปสงค์ที่ฟื้นตัวได้เร็ว อาจทำให้ผู้ผลิตรถยนต์กลับมาเร่งผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลัง เป็นบวกต่อ KCE ที่อยู่ใน Supply Chain (PCB Auto) กำไรของ KCE ใน 2Q63 ที่แม้มีการปิดโรงงานไปราว 1 เดือน จึงมีโอกาสเป็นการ Bottom-out หลังรายงานงบที่จะฟื้นตัวได้แรงเทียบ QoQ ในช่วง 3Q-4Q63 ตามตลาด US (20%) และ EU (50%) จะเริ่มฟื้นตัว MoM เช่นเดียวกับตลาดจีน หากอิง Bloomberg consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 63/64 ที่ 0.866/1.22 พันลบ. -7%/+41%YoY ด้วย P/E’21 +1SD = 22X จะได้ราคาเหมาะสมเบื้องต้นที่ 22 บาท เชิงกลยุทธ์อาศัยจังหวะหุ้นย่อตัวที่ 20 บ.
เชื่อมรถไฟคู่ขนานมอเตอร์เวย์ (ข่าวสด)
ความเห็น : แผนพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ในระยะช่วงไตรมาสสามนี้ เราคาดหวังจะเห็นงานประมูลคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1.2 แสนล้านบาท และ สายสีม่วงใต้ 1 แสนล้านบาท เราคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด เราแนะนำ TRADING BUY ช่วงอ่อนตัวใน CK (เป้าหมาย 24 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 20 บาท)
******************************************
Click Donate Support Web
