- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 June 2020 17:15
- Hits: 4278
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-6-2020
กลยุทธ์การลงทุน
วานนี้ SET ปรับตัวขึ้น ตอบรับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว รวมถึงจิตวิทยาบวกจากการที่ FED เข้าเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,367.13 (+25.14จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.3 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทย 423 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 2,627 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 9,092 สัญญา)
MCS (ปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ 14.5 บาท) คาดกำไรในปีนี้ที่ 744 ล้านบาท (+22%) และยังมีแนวโน้มในการรับงานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PE เพียง 7.4 เท่า และมีอัตราปันผลสูงถึง 7.4% ต่อปี
ปัจจัยบวกเร่งขึ้น ท่ามกลาง COVID-19 ที่ต้องจับตา : ตลาดหุ้นทั่วโลกระยะสั้นยังคงแกว่งตัวขึ้นขานรับปัจจัยหนุนที่เริ่มเข้ามามากขึ้น เช่น 1) การรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่กลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยวานนี้สหรัฐฯรายงานยอดขายปลีก เดือน พ.ค. ขยายตัว +17.7%MoM ดีกว่าตลาดคาดที่ +8.4% ถือเป็นอัตราการขยายตัวขึ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคหลังมาตรการผ่อนคลาย Lockdown 2) การเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐฯ ในการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, สะพาน, โครงการ 5G และอินเตอร์เนตความเร็วสูง และ 3) สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกในระยะสั้นที่เร่งขึ้นเหนือระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล โดยแนะติดตามการประชุมกลุ่มย่อยของ OPEC 18 มิ.ย.นี้เพื่อติดตามว่าประเทศสมาชิกได้ลดกำลังผลิตตามที่ตกลงไว้ในประชุม OPEC+ หรือไม่ โดยสรุปท่ามกลางปัจจัยบวกที่ทยอยออกมาต่อเนื่องในช่วงนี้คาดจะช่วยหนุนการเก็งกำไรในตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ดีคงต้องระมัดระวังประเด็นการแพร่ระบาดระยะที่สองในสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเร่งตัวมากขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันการลงทุนเพิ่มเติมได้เช่นกัน
Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่ง sideway ในกรอบแนวรับ 1,360 ต้าน 1,385 จุด แนะสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรฟื้นตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “MCS, DOHOME, CRC”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : หลุด 1350 จุด ให้ทยอยลดพอร์ตในการลงทุน รอดัชนีกลับมายืนเหนือระดับ 1385 จุด ค่อยสะสมใหม่อีกครั้ง
ไม่มีหุ้น : รอซื้อตามกรณีดัชนีทะลุ 1385 จุด หรือรอย่อตัวลงมาแตะ 1340/1323 จุด ใช้เป็นจังหวะเก็งกำไร
'ATP30' เตรียมรถพร้อม นักท่องเที่ยวกลับครึ่งหลัง (ทันหุ้น)
ความเห็น : ATP30 มีรถบริการนักท่องเที่ยวน้อยมากประมาณ 10 คัน จากทั้งหมด 200 กว่าคัน ดังนั้น ข่าวนี้ไม่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินงาน สิ่งที่ควรพิจารณาคือ อัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรมมากกว่า แนะนำ ซื้อ 2.20 บาท
ผวาความจริง NPL KTB ชี้โดนทั่วหน้า (ทันหุ้น)
ความเห็น : เราคาดว่า NPL ของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 3 ปี หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เข้ามาช่วย และมีโอกาสที่ NPL จะพุ่งช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หลังหมดมาตรการพักหนี้สำหรับสินเชื่อรายย่อย ส่วนสินเชื่อ SME คาดว่าจะทยอยปรับขึ้นเนื่องจากมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เข้ามาช่วยเป็นระยะเวลา 2 ปี
PRM อัพเป้ารายได้ปีนี้โต 15% อานิสงส์น้ำมันล้นหนุนยอดใช้เรือ FSU พุ่ง (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เป็นตามที่มองไว้ก่อนหน้าว่าบริษัท conservative เกินไป เพราะอุปสงค์ FSU ที่แรงปีนี้ กอปรกับการปรับค่าบริการขึ้นเฉลี่ย 25% เราคงคำแนะนำ ซื้อ 9.30 บาท
SCB ยันรายได้ค่าฟีพุ่งต่อ แจงพักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ยไม่กระทบ (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เราคาดว่ากลุ่มธนาคารจะมีสินเชื่อเติบโตสูงในปีนี้เนื่องจากมีการพักลดชำระหนี้และปล่อย soft loan เพิ่มเติม ส่วนรายได้ค่าฟีจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและประกันจะเติบโตต่ำหรือมีโอกาสติดลบ เนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทำให้ทางธนาคารขายผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ลำบาก อีกทั้งคนมีรายได้ไม่แน่นอนก็จะชะลอการซื้อ
TPIPL ออกหุ้นกู้วงเงิน 4.2 พันล. ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี (ทันหุ้น)
ความเห็น : การออกหุ้นกู้ใหม่วงเงิน 4.2 พันล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้จะครบกำหนดภายในหนึ่งปีรวม 4.2 พันล้านบาท จึงไม่มีผลอะไร ผลประกอบการจะยังถูกฉุดจากธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ที่ซบเซา ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้ายังเป็นธุรกิจที่ช่วยสร้างกำไร เราคงแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 1.60 บาท ระยะสั้นยังขาดปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น
RS คลายล็อกดาวน์ฟื้นกำลังซื้อ รุกคอมเมิร์ซหวังโตทุกช่องทาง (ทันหุ้น)
ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อ RS ที่คาดผลประกอบการ 2Q63 แนวโน้มอ่อนตัวเทียบ QoQ แม้ธุรกิจ MPC จะรักษายอดขายในช่วง Lockdown ได้ แต่จะถูกหักลบด้วยธุรกิจสื่อที่อ่อนตัวแรงตามเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง -20-30%YoY และรายได้ขายลิขสิทธิ์ที่ทำฐานสูงไว้ใน 1Q63 ราคาปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาอยู่ใกล้ Consensus ที่ 12-13 บาทต่อหุ้น เทียบเท่า P/E 24X ใกล้เคียงกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีกแล้ว
M.C.S. Steel (MCS)
ได้งานใหม่ต่อเนื่อง เพิ่มประมาณการ
Company Update
ประเด็นการลงทุน
MCS ได้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง และ มีแนวโน้มจะได้โครงการขนาดใหญ่เป็นงานเหล็กโครงสร้าง 70,000 ตัน จะทราบผลประมาณเดือน ส.ค. เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้น ประเมินกำไรในปีนี้เท่ากับ 744 ล้านบาท เติบโต 22% แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นมาจากต้นปี 20% ราคาปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่ถูก P/E ต่ำ 7.4 เท่า และ ปันผลดี 7.4% คงแนะนำ ซื้อ เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 14.50 บาท
MCS ได้งานโครงการใหม่ต่อเนื่อง
MCS เหลือ Backlog ณ สิ้นปี 2562 ประมาณ 1.2 แสนตัน ซึ่งเป็นเหล็กโครงสร้างส่งไปญี่ปุ่นและมีกำไรดี ตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบัน ได้งานใหม่เพิ่มแล้วทั้งหมด 4 โครงการ จำนวนรวม 23,150 ตัน ซึ่งล้วนเป็นงานเหล็กโครงสร้างส่งออกไปญี่ปุ่น จึงมีกำไรดี นอกจากนี้ปัจจุบันกำลังเจรจาโครงการขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่นเพิ่มซึ่งเป็นงานเหล็กโครงสร้างประมาณ 70,000 ตัน และ มีราคาดีถึง 300,000 เยน/ตัน จากมีความชับซ้อนของงานเหล็กโครงสร้างสูง คาดจะประกาศผลได้อย่างเป็นทางการได้ประมาณเดือน ส.ค. นี้
แนวโน้มกำไรปีนี้จะเติบโตเด่น ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น
4 โครงการใหม่ที่ได้แจ้งตลาด เดือน เม.ย. – มิ.ย. บางส่วนจะรับรู้รายได้ในปี 2563 นี้ ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการ เป็นยอดส่งมอบเหล็กส่วนใหญ่ส่งไปญี่ปุ่นประมาณ 52,000 ตัน จากเดิมคาดไว้ 50,000 ตัน เทียบกับ ปี 2562 มีงานเหล็กส่งมอบไปญี่ปุ่นเพียง 37,434 ตัน และ เป็นงานในประเทศซึงมีกำไรต่ำ 13,654 ตัน เราประเมินยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 3,619 ล้านบาท เติบโต 10% และ คาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 744 ล้านบาท เติบโต 22% สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 2Q62 คาดจะยังเด่นต่อเนื่องประมาณ 180 ล้านบาท โต 53%YoY จากที่ยังรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานเหล็กโครงสร้างไปญี่ปุ่นต่อเนื่อง
เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 14.50 บาท
ราคาหุ้น MCS แม้ว่าจะปรับขึ้นจากต้นปี 20% และ ปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดในปีนี้ 93% ปัจจุบันยังซื้อขายด้วย Valuation ที่ถูก P/E 7.4 เท่า เงินปันผลตอบแทน 7.4% เราคงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 14.5 บาท บนฐาน Average Forward PE เท่ากับ 9.2 เท่า เพิ่มขึ้นจากเดิม 11.5 จากประมาณการที่ปรับเพิ่มขึ้น
ความเสี่ยง : ดร.ไนยวน ชิ มีแผนจะวางมือ เมื่ออายุครบ 70 ปี ในปี 2565 / ภาวะการสร้างตึกสูงในประเทศญี่ปุ่น
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web