- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 June 2020 15:59
- Hits: 925
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นราย วัน 17-6-2020
“ยอดค้าปลีกทำสถิติ ทรัมป์ใช้งบเพิ่ม แต่เฟดเตือนศก.”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ROJNA (จาก Fully Valued เป็นซื้อ)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ฟื้นตัว รับข่าวเฟดจะซื้อตราสารหนี้เอกชน ปิด +25.14 จุด ที่ 1367.13 จุด มูลค่าซื้อขาย 68.5 พันลบ. ตลาดไทยปรับขึ้นเหมือนภูมิภาคแต่อัตราน้อยกว่า ระหว่างวันมีข่าวสหรัฐจะมีงบพัฒนาสาธารณูปโภค และครม.ผ่านงบท่องเที่ยว รอถ้อยแถลงพาวเวลเฟดรอบครึ่งปี กลุ่มปรับตัวขึ้นดีคือ พลังงาน แบงค์ เดินทาง-ท่องเที่ยว ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-รายย่อย YTD ต่างชาติขายสุทธิเป็น 194 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสรีบาวด์ต่อ ยอดค้าปลีกพุ่ง ทรัมป์ใช้งบเพิ่ม น้ำมันปรับตัวขึ้น ปัจจัยบวกคือ ยอดค้าปลีกสหรัฐ พ.ค.สูงทำสถิติ ทรัมป์จะใช้งบถึง 1 ล้านล้านเหรียญ กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสาธารณูปโภค การใช้ยาตัวใหม่ dexamethasone ได้ผลเรื่องลดอัตราการเสียชีวิต ดาวโจนส์ +527 จุด น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 3.4% ครม.ผ่านงบประมาณปี 64 และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว และดัชนีความกังวลลดลงเป็น 33.7 จุด ด้านปัจจัยลบคือ พาวเวลแถลงเตือนเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แน่นอน เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน Mix และดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับลง กลยุทธ์ระยะสั้น ปัจจัยบวกมีมากขึ้น เล่นสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบเมื่อปรับลง คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1340-1400 ความเสี่ยงคือ P/E ไทยสูงในภูมิภาค และการเกิด Second Wave/รออ่อน SET-50, SET-100 เข้า-ออกประกาศแล้ววานนี้ ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์ เข้าสู่ไฮซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCOกลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT วานนี้ครม. อนุมัติงบกระตุ้นการท่องเที่ยว อาจมีการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสนามบิน-AOT เดินทาง-AAV และกลุ่มโรงแรม- MINT,ERW,CENTEL โดยเฉพาะกลุ่มการบิน รัฐมีการช่วยออกค่าตั๋วถึง 40% แต่ไม่เกิน 1 พันบาท จึงอาจมีแรงเข้ามาเก็งกำไร- AAV,NOK,BA เป็นต้น แต่ระวังการขายเมื่อมีข่าวดีจริง (Sell On Fact) ด้าน Bubble Travel อาจจะติดขัดบ้าง จากการเกิดผู้ติดเชื้อรอบสองมากขึ้น จึงยังไม่ได้เสนอ ครม.ในรอบนี้ เพราะหากยังเปิดรับต่างประเทศ ก็อาจจะทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาติดตามหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวดี แนวรับคือ 1340-1320 จุด และ แนวต้าน 1380-1400 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1360 จุด
# Stock Pick Today :
CPF อุปสงค์เนื้อสัตว์มากขึ้น ธุรกิจเนื้อหมูมีราคาขายสูงโดยเฉพาะเวียดนามผลักดัน ราคาเนื้อไก่ขยับดีขึ้น ส่วนการคลายล็อกดาวน์ประเภทร้านอาหารและโรงแรม ทำให้ความต้องการเนื้อสัตว์มีมากขึ้น ด้านการขยายไปยังตลาดต่างประเทศ และจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มก็จะมีส่วนเสริมทำให้มีการเติบโตที่ดีในระยะยาวได้ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานเป็น 41.00 บาท และใช้ Forward P/E เฉลี่ยปี 63-64 ที่ 16.5 เท่า (-0.5 SD จากค่าเฉลี่ย P/E 5 ปี)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ แต่ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators เหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวกแรง”ใต้“SMA10วัน” (โดยยังถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (มี“Oversold + Divergence”ในกราฟรายนาที“หนุน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1380(หรือ 1390 – 1400) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1360” (แนวรับย่อย “1340 – 1320 / 1300”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : ROJNA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 4.68)
Flash Note : อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
Stock in Focus : CPALL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 79.00)
In The News : DRT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 6.00)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์
# ยอดค้าปลีกของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 8.0% โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
+ สหรัฐ: ทรัมป์เตรียมแผนใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือจะกระตุ้นเศรษฐกิจ
# มีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่เฟดประกาศซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
+ การใช้ยา dexamethasone สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19
# ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายคริส วิตตี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการใช้ยาdexamethasone ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ ในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ถือเป็นผลการทดลองที่มีความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ โดยรายงานระบุว่า การใช้ยา dexamethasone สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 1 ใน 3
- สหรัฐ: นายเจอโรม พาวเวล แถลงการณ์รอบครึ่งปี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่แน่นอน
# ดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากนายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อม และผู้ที่มีรายได้ระดับต่ำ รวมทั้งชาวอเมริกันซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด
+ สหรัฐ: รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านออกมาดี
# ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ค. หลังจากหดตัว 12.5% ในเดือนเม.ย.
# ทางด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 21 จุด สู่ระดับ58 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 526.82 จุด รับยอดค้าปลีกสดใส,มาตรการกระตุ้นศก.
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 เมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) ขานรับยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ทำสถิติแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งความคืบหน้าในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน
+ น้ำมัน: WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ รายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
• ทองคำ: เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.54%
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน นอกจากนี้ รายงานข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือได้สั่งระเบิดสำนักงานประสานงานระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+/• ครม.อนุมัติหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว งบประมาณทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท
# ครม.อนุมัติหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน 3 โครงการสำคัญตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ซึ่งจะใช้งบประมาณสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.63 โดยจะต้องลงทะเบียนการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มของธนาคารกรุงไทย (KTB) ประกอบด้วย โครงการกำลังใจ, เราไปเที่ยวด้วยกันและเที่ยวปันสุข
+กพท. ประเมิน ก.ย.นี้ สายการบินต่าง ๆจะสามารถเปิดให้บริการต่างประเทศได้
# ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประเมินว่าในเดือน ก.ย.นี้ น่าจะเริ่มเห็นสายการบินต่างๆ กลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ หลังจากหลายประเทศเริ่มทยอยประกาศเปิดน่านฟ้าบ้างแล้ว เนื่องจากเริ่มเข้าช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ในช่วงเดือน ต.ค.63- มี.ค.64
+ ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 64 ไม่เกิน 3.3 ล้านล้านบาท
# ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วงเงินรายจ่ายไม่เกิน 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งจะได้เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
+ ติดตามใกล้ปิดรอบครึ่งปี จะมี Window Dressing และ SSFX ใกล้เส้นตาย หมด มิ.ย.63
# นักลงทุนเฝ้าติดตามเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทย หลังใกล้ปิดงวด มิ.ย.63 จะมี Window Dressing หรือไม่ ถือเป็นการปิดรอบงวดครึ่งปีด้วย อีกทั้ง SSFX ใกล้เส้นตายหมด มิ.ย.63 จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนได้มากน้อยเพียงใด
-SIRI: ขายหุ้นซื้อคืน วันนี้เป็นวันสุดท้าย ระวังแรงขายทำกำไร
# SIR ขายหุ้นที่ซื้อคืน 92,930,600 หุ้น คงเหลือรอขาย 79,401,500 หุ้น คิดเป็น 0.53%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย 102,912,154.70 บาท
+ SAPPE: บอร์ดไฟเขียวอัดงบ 150 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน 7,500,000 หุ้น เริ่ม 1 ก.ค.- 30 ธ.ค. 63
# คณะกรรมการบริษัทมีมติใช้ งบ 150 ลบ. ในโครงการซื้อหุ้นคืน 7,500,000 หุ้น เริ่ม 1 ก.ค.- 30 ธ.ค. 63 วงเงินซื้อหุ้นคืน150.00 ล้านบาท สำหรับวิธีการในการซื้อหุ้นคืน คือซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web