WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เออีซี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 16-6-2020บล.เออีซี2 420x280

: Daily Focus

AECS Daily Focus

Market Outlook

วันนี้คาด SET Index รีบาวด์ หลังวานนี้ปรับลงแรงกว่า 2.9%DoD โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่เฟดออกมาตรการหนุนสภาพคล่องตลาด ขณะที่ในประเทศติดตามการออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจภาคท่องเที่ยวต่อเนื่องจากการปลดเคอร์ฟิว และคลาย   ล็อกดาวน์เฟส 4 อย่างไรก็ดีติดตามรายงานสถานการณ์ COVID-19 ระลอกสองจากทั้งในสหรัฐฯและจีนอย่างใกล้ชิด ประเมินการเคลื่อนไหว 1,3401,365 จุด

Market Factor

  • •   (+) Fed ประกาศขยายการเข้าซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนจากเดิมซื้อเฉพาะ ETFs ในโครงการ Secondary Market Corporate Credit Facility วงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ จะขยายการเข้าซื้อตราสารหนี้ในตลาดแรกหรือซื้อโดยตรงกับผู้ออกตราสารหนี้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
  • •   (-) ตลาดยังคงมีความกังวลในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รอบ 2 (Second wave) หลังสหรัฐฯเริ่มเปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายรัฐฯ อีกทั้งในกรุงปักกิ่งเริ่มพบการระบาดรอบ 2 ในตลาดค้าส่งอาหารตลาดซินฟาตี้ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง
  • •   (+) กระทรวงท่องเที่ยวฯและกระทรวงคลัง ได้ข้อสรุปมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วง 4 เดือนนี้ ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.63 วงเงินกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท เตรียมเสนอที่ประชุมครม.วันนี้ แบ่งเป็น 3 แพ็คเกจ ได้แก่แพ็คเกจ กำลังใจให้ อสม.และ รพ.สต. เที่ยวฟรีผ่านบรฺษัทนำเที่ยว, แพ็คเกจ เราไปเที่ยวกันโดยรัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าโรงแรม 40% ต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 3 พันบาทต่อคืน และแพ็คเกจ เที่ยวปันสุขเพื่อช่วยเหลือสายการบินต้นทุนต่ำ รถเช่า โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ 40% (ฐานเศรษฐกิจ)
  • •   (+) กบง. เห็นชอบขยายมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ลดราคา LPG ภาคครัวเรือน ออกไปถึงเดือน ก.ย. (มิ.ย.-ก.ย.63) และ NGV ไปจนถึงสิ้นเดือนก.ค. พร้อมเห็นชอบหลักเกณฑ์ราคาโรงกลั่นน้ำมันใหม่ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันจะลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ (ประชาชาติธุรกิจ)
  • •   (0) ตลท.ประกาศหลักทรัพย์เข้าคำนวณดัชนี SET50 SET100 ช่วง 2H63 โดยดัชนี SET50 เข้าใหม่ 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ BPP, TTW ขณะที่ SET100 เข้าใหม่ 7 หลักทรัพย์ ได้แก่ AAV, ,ACE, DOHOME, RBF, SIRI, TVO และ WHAUP
  • •   รายงาน สธ.ประจำวันที่ 15 มิ.ย.ไม่พบติดเชื้อรายใหม่ ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 3,135 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย
  • •   อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของไทยล่าสุดรุ่น 5 ปี อยู่ที่ 0.83% (-3.2% DoD) และรุ่น 10 ปี อยู่ที่ 1.27% (-2.1%DoD) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 0.74% (3.2% DoD)
  • •   ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 63 ที่ 101.9 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือ 66.3 บ. หรือลดลง 34.9%YTD
  • •   Update Flow เมื่อวานที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิ 4,013.75 ลบ.ส่งผล MTD .พลิกเป็นขายสุทธิที่ 204.01 ลบ. ขณะที่ นลท.สถาบันขายสุทธิ 1,240.99 ลบ.ส่งผล MTD.ขายสุทธิอยู่ที่ 2,682.26 ลบ.

Investment Strategy

สัปดาห์นี้ เรามีมุมมองต่อ SET ปรับตัวพักฐานในกรอบ 1,350-1,400 จุด โดยแม้จะมีปัจจัยหนุนจาก 1) แรงหนุนด้านสภาพคล่องในตลาดจากมาตรการทางการเงินของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก 2) การปลดล็อกดาวน์เฟสที่ 4 เปิดให้กลุ่มธุรกิจเสี่ยงกลับมาดำเนินการได้ การยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว และการออกมาตการฟื้นธุรกิจภาคท่องเที่ยว และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศต่อเนื่อง ให้เกิดปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบบมากขึ้น แต่คาดถูกกลบด้วย 3 ปัจจัยลบ ดังนี้ 1) ความกังวลสถานการณ์การระบาด COVID-19 ระลอกที่ 2 ทั้งในสหรัฐฯ และจีนหลังมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เร่งตัวขึ้น                     2) สถานการณ์ประท้วงในสหรัฐฯ กรณีการเสียชีวิตของฟลอยด์ ยังยืดเยื้อและขยายตัวเป็นวงกว้าง 3) การปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของ SET จากข้อมูล Bloomberg Consensus อยู่ที่ 66.17 บ.ลดลง 35.11%YTD ส่งผลต่อ Valuation ตลาดที่ตึงตัว ณ ระดับดัชนี ปจบ.ที่เทรดอยู่ระดับ P/E 19.1X (สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 16.9X) นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนียอดขายปลีกเดือนพ.ค.รวมถึงการประชุมของธนาคารกลาง BOE และ ECB ถึงมาตรการการกระตุ้น และดูแลสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ฉะนั้นแนะนำเลือกเก็งกำไรช่วงสั้น เล่นเทรดดิ่งตามกรอบเน้นซื้อเมื่ออ่อนตัวใกล้โซนแนวรับ และทยอยลดพอร์ตเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน พร้อมแนะนำหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดีในหุ้น 2 กลุ่ม ดังนี้

หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ TEAMG: (แม้กำไรสุทธิ 1Q63 ทำได้ 24.6 ลบ.ชะลอตัว 3.4% YoY แต่ด้วยความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งมากประสบการณ์ของธุรกิจออกแบบ ควบคุมงานโครงการกว่า 42 ปี บ.มีศักยภาพสูงหนุนเดินหน้าคว้าโปรเจคใหม่ต่อเนื่อง ปี 63 คาด Backlog ทำ New High หนุนรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ มอง TEAMG น่าสนใจหลัง ปจบ.เทรดที่ PE ระดับ 12.8X (ขณะที่อุตสาหกรรมเทรดที่ระดับ 41.6X) ล่าสุดประกาศรับงานใหม่ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.เพิ่มทั้งหมด 5 โครงการ เป็นงานจากภาครัฐทั้งหมดโดยแบ่งเป็นงานที่ปรึกษา 2 โครงการ และงานจัดหาติดตั้งเครื่องมือ 3 โครงการโดยมีระยะเวลาดำเนินงานโครงการ 180 วัน 68 เดือน รวมมูลค่างานที่ได้รับทั้งสิ้น 1.04 พัน ลบ.ขณะที่ความเสี่ยงภาระหนี้สินต่ำมาก โดยมีสัดส่วน Interest bearing debt/equity เพียง 0.02X นอกจากนี้ให้ Dividend Yield กว่า 5.05%), SEAFCO (รายงาน 1Q63 กำไร 94.41 ลบ +11%QoQ และ -21.4YoY ) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 63 ทำ New High ปจบ.มี Backlog กว่า 2.7 พัน ลบ.บวกกับได้อานิสงส์บวกจากร่าง พรบ.งบประมาณฯ ที่ผ่านสภา และยังมี Upside จากงานประมูลใหม่ จากโครงการลงทุนทั้งจากรัฐและเอกชน), CPALL รายงานกำไร 1Q63 ที่ 5.64 พัน ลบ. (-2%YoY, -8%QoQ) ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ลูกค้าลดลง และมาตรฐาน บช.ใหม่เรื่องสัญญาเช่ามีต้นทุนเพิ่ม 308 ลบ. อย่างไรก็ดีรายได้รวมยังโต 5%YoY จากการเปิดสาขาใหม่ และรายได้ Banking agent ที่เติบโต รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ MAKRO ที่ได้ประโยชน์จากช่วง COVID-19 ทั้งนี้การกลับมาผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐจะช่วยให้ 2H63 กำลังซื้อจะฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งการเข้าซื้อ TESCO LOTUS ในระยะยาวมองเป็นบวกจาก Synergy ที่จะเกิดขึ้น จะทำให้กลุ่ม CP มีทั้งค้าส่ง ค้าปลีก และสะดวกซื้อครบวงจร

กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสมโดยเน้นหุ้นที่กำไรทั้งปี 62 โตดีและ     ปี 63 โตต่อ แนะนำ SABINA: รายงานผลประกอบการ1Q63 กำไร 70.4 ลบ -15.3%QoQ และ-12%YoY จากรายได้ที่ลดลง 16.3%QoQ และ 12.7%YoY เนื่องจากผลกระทบ COVID-19 ทำให้ช่องทางขายหน้าร้านที่เป็นช่องทางขายหลักถูกปิดไปในช่วง 22/3/63 ตามคำสั่งปิดห้างสรรพสินค้าของภาครัฐ อย่างไรก็ดียอดขายในส่วน NSR 99.8 ลบ +9%YoY ทำให้สัดส่วนขึ้นมาเป็น 15% ของยอดขายรวม รวมถึงช่องทางขาย Export +31.3%YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 52.9% จากการผลิตที่น้อยลง และการชะลอนำเข้าสินค้าจากจีน และ SG&A/Sales ลดลง 10%YoY จากการควบคุมต้นทุนภายในที่ทำได้รวดเร็วหลังเกิดสถานการณ์ COVID แนวโน้ม 2Q63มีโอกาสอ่อนตัวต่อ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการขายแบบ NSR เพื่อชดเชยการขายหลักที่ถูกปิดไปในช่วงเมษ-พค และคาดยอดขายจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2H63, SSP ช่วง 1Q63 มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 161.2 ลบ. โต 24.3%YoY ผบห.คาดรายได้และกำไรปี 63 ทำ New high จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนามและมองโกเลีย ขนาดรวม 55 MW ซึ่ง COD ตั้งแต่ มี.ค. 62 และ ก.ค. 62 ตามลำดับ ขณะที่ 2H63 เริ่ม COD โครงการยามากะที่ญี่ปุ่นขนาด 30 MW. หนุนกำลังผลิตรวมปจบ.กว่า 160 MW.พร้อมวางแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ในเวียดนาม และเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อปในอินโดนีเซีย ตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 400 MW.ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ล่าสุด SSP ประกาศจ่ายปันผล 0.11 บ/หุ้น (Yield1.5%)

  • •   Trading Idea
  • •   หุ้นที่คาดฟื้นตัวเด่นจากการคลาย Lock Down : เลือก BTSGIF โดยได้ปัจจัยหนุนโดยตรงจากการผ่อน Lock Down และการกลับมาเปิดภาคการเรียน 1 ก.ค.63 นี้ตามประกาศของกระทรวงศึกษาฯ หนุนยอดผู้โดยสารรวมฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ(ค่าเฉลี่ยรายเดือนปี 62 ที่ระดับ 20.6 ล้านเที่ยวคน) คาด Ridership ช่วงเดือน เม.ย.ที่ 3.5 ล้านเที่ยวคนเป็นจุดต่ำสุดแล้ว บวกกับจ่ายผลสม่ำเสมอ ให้ Div.Yield ย้อนหลัง 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 6.7% นอกจากนี้ราคา ปจบ.มี Discount 18.7% จากราคาประเมิน NAV.ล่าสุดตามรายงานตลท.เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาที่ราคา 9.2273 บ./หน่วย

   15-Jun-20   Change (pts.)   12-Jun-20

SET Index   1,341.99   -40.57   1,382.56

SET50 Index   889.98   -30.54   920.52

SET100 Index   1,963.91   -68.09   2,032.00

High   1,379.78   Gainers   360

Low         1,338.25       Unchanged   175

Value (Bt m)   83,379.76   Losers   1,237

Volume (*000)   22,846,464        

Market Valuation

SET Data   2019F   2020F   Long Term

Fwd PER (x)   20.2   16.0   16.0

EPS Growth (%)   13.9   9.3   -20.3

EV/EBITDA (x)   13.0   11.3   10.3

FWD PBV (x)   1.5   1.4   1.4

Dividend Yield (%)   2.8   3.1   3.4

ROE   6.7   8.1   8.6

Net Buy/Sell by Investor Types

Unit : M Bt   15-Jun-20   WTD   MTD   YTD

Institution   (1,240.99)   (1,240.99)   (2,682.25)   64,903.83

Proprietary   (1,555.08)   (1,555.08)   2,793.04   263.53

Foreign     (4,013.75)   (4,013.75)   (203.99)   (194,133.10)

Individual   6,809.83   6,809.83   93.21   128,965.74

AECS ( Fundamental and Strategic Team )

ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)   [email protected]

ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์   ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

ชัยรัตน์ คงสุนทร

สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์   ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

Data Support / Secretary

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!