- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 June 2020 14:49
- Hits: 1322
บล.เออีซี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-6-2020
: Daily Focus
AECS Daily Focus
Market Outlook
วันนี้คาด SET Index แกว่งพักตัว หลังถูกกดดันด้วยประเด็นความกังวลสถานการณ์การเกิด 2nd Wave ของ COVID-19 หลังรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจภาคท่องเที่ยวต่อเนื่องจากการปลดเคอร์ฟิว และคลายล็อกดาวน์เฟส 4 ประเมินการเคลื่อยไหว 1,360 – 1,390 จุด
Market Factor
• (-) ติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อCOVID-19 ที่กลับมาเร่งตัวขึ้นหลังการเปิดเมืองในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะในจีน ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศกลับมาเพิ่มสูงขึ้นครั้งแรกในรอบสองเดือน โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 50 ราย ทำให้ทางการจีนต้องสั่งควบคุมโดยปิดตลาดค้าส่งผักผลไม้ขนาดใหญ่ชื่อซินฟาตี้ เพื่อทำการตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องป้องกันการลุกลามวงกว้าง
• (-) WHO แถลงว่าการระบาด Second wave ในสหรัฐฯ เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น อย่างไรก็ดีฝ่ายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่มีการปิดเมืองอีก แม้จะมีการระบาดระลอกสองเกิดขึ้น
• (watch) ประเด็นที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ผลการประชุม BOE BOJ และ ECB
• (watch) หลายประเทศในฝั่งยุโรปเริ่มกำหนดการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติแล้ว เช่นฝรั่งเศส (1 ก.ค.20) ต้องติดตามหากเกิดการระบาด Second wave จะเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจอีกครั้ง
• (+) รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ศบค. อนุมัติหลักการจับคู่ประเทศ (Travel bubble) เปิดทางนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยก่อนเสนอ ศบค.พิจารณาในรายละเอียดถึงมาตรการอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ (PPTV Online)
• (+) ตลท.เตรียมพิจารณายืดระยะเวลาการบังคับใช้เกณฑ์ราคาเสนอขายชอร์ต (Short Sell) ซึ่งกำหนดให้ขายชอร์ตได้ในราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย พร้อมคงเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ที่ 15% ต่อออกไปอีก 3 เดือน หลังครบกำหนด 30 มิ.ย.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ)
• (watch) รมว.กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอ 3 มาตรการ กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยวางกรอบเวลาดำเนินการ 4 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.63 วงเงิน 20,000 ลบ.เข้าที่ประชุมครม.ประจำสัปดาห์เพื่อพิจารณา เพื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3 กลุ่มประกอบด้วย บริษัททัวร์ กลุ่มโรงแรม/ที่พัก และกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ (ข่าวสด)
• รายงาน สธ.ประจำวันที่ 14 มิ.ย.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 3,135 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของไทยล่าสุดรุ่น 5 ปี อยู่ที่ 0.85% (2.4% DoD) และรุ่น 10 ปี อยู่ที่ 1.25% (Unchg. DoD) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 0.71% (4.9% DoD)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 63 ที่ 101.9 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือ 66.1 บ. หรือลดลง 35.1%YTD
• Update Flow เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิ 2,000.19 ลบ.ส่งผล MTD.ซื้อสุทธิรวมที่ 3,809.74 ลบ. ขณะที่ นลท.สถาบันซื้อสุทธิ 443.23 ลบ.ส่งผล MTD.ขายสุทธิอยู่ที่ 1,441.278 ลบ.
Investment Strategy
สัปดาห์นี้ เรามีมุมมองต่อ SET ปรับตัวพักฐานในกรอบ 1,350-1,400 จุด โดยแม้จะมีปัจจัยหนุนจาก 1) แรงหนุนด้านสภาพคล่องในตลาดจากมาตรการทางการเงินของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก 2) การปลดล็อกดาวน์เฟสที่ 4 เปิดให้กลุ่มธุรกิจเสี่ยงกลับมาดำเนินการได้ การยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว และการออกมาตการฟื้นธุรกิจภาคท่องเที่ยว และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศต่อเนื่อง ให้เกิดปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบบมากขึ้น แต่คาดถูกกลบด้วย 3 ปัจจัยลบ ดังนี้ 1) ความกังวลสถานการณ์การระบาด COVID-19 ระลอกที่ 2 ทั้งในสหรัฐฯ และจีนหลังมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เร่งตัวขึ้น 2) สถานการณ์ประท้วงในสหรัฐฯ กรณีการเสียชีวิตของฟลอยด์ ยังยืดเยื้อและขยายตัวเป็นวงกว้าง 3) การปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของ SET จากข้อมูล Bloomberg Consensus อยู่ที่ 66.17 บ.ลดลง 35.11%YTD ส่งผลต่อ Valuation ตลาดที่ตึงตัว ณ ระดับดัชนี ปจบ.ที่เทรดอยู่ระดับ P/E 19.1X (สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 16.9X) นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนียอดขายปลีกเดือนพ.ค.รวมถึงการประชุมของธนาคารกลาง BOE และ ECB ถึงมาตรการการกระตุ้น และดูแลสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ฉะนั้นแนะนำเลือกเก็งกำไรช่วงสั้น เล่นเทรดดิ่งตามกรอบเน้นซื้อเมื่ออ่อนตัวใกล้โซนแนวรับ และทยอยลดพอร์ตเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน พร้อมแนะนำหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดีในหุ้น 2 กลุ่ม ดังนี้
หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ TEAMG: (แม้กำไรสุทธิ 1Q63 ทำได้ 24.6 ลบ.ชะลอตัว 3.4% YoY แต่ด้วยความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งมากประสบการณ์ของธุรกิจออกแบบ ควบคุมงานโครงการกว่า 42 ปี บ.มีศักยภาพสูงหนุนเดินหน้าคว้าโปรเจคใหม่ต่อเนื่อง ปี 63 คาด Backlog ทำ New High หนุนรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ มอง TEAMG น่าสนใจหลัง ปจบ.เทรดที่ PE ระดับ 12.8X (ขณะที่อุตสาหกรรมเทรดที่ระดับ 41.6X) ล่าสุดประกาศรับงานใหม่ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.เพิ่มทั้งหมด 5 โครงการ เป็นงานจากภาครัฐทั้งหมดโดยแบ่งเป็นงานที่ปรึกษา 2 โครงการ และงานจัดหาติดตั้งเครื่องมือ 3 โครงการโดยมีระยะเวลาดำเนินงานโครงการ 180 วัน – 68 เดือน รวมมูลค่างานที่ได้รับทั้งสิ้น 1.04 พัน ลบ.ขณะที่ความเสี่ยงภาระหนี้สินต่ำมาก โดยมีสัดส่วน Interest bearing debt/equity เพียง 0.02X นอกจากนี้ให้ Dividend Yield กว่า 5.05%), SEAFCO (รายงาน 1Q63 กำไร 94.41 ลบ +11%QoQ และ -21.4YoY ) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 63 ทำ New High ปจบ.มี Backlog กว่า 2.7 พัน ลบ.บวกกับได้อานิสงส์บวกจากร่าง พรบ.งบประมาณฯ ที่ผ่านสภา และยังมี Upside จากงานประมูลใหม่ จากโครงการลงทุนทั้งจากรัฐและเอกชน), CPALL รายงานกำไร 1Q63 ที่ 5.64 พัน ลบ. (-2%YoY, -8%QoQ) ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ลูกค้าลดลง และมาตรฐาน บช.ใหม่เรื่องสัญญาเช่ามีต้นทุนเพิ่ม 308 ลบ. อย่างไรก็ดีรายได้รวมยังโต 5%YoY จากการเปิดสาขาใหม่ และรายได้ Banking agent ที่เติบโต รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ MAKRO ที่ได้ประโยชน์จากช่วง COVID-19 ทั้งนี้การกลับมาผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐจะช่วยให้ 2H63 กำลังซื้อจะฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งการเข้าซื้อ TESCO LOTUS ในระยะยาวมองเป็นบวกจาก Synergy ที่จะเกิดขึ้น จะทำให้กลุ่ม CP มีทั้งค้าส่ง ค้าปลีก และสะดวกซื้อครบวงจร
กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสมโดยเน้นหุ้นที่กำไรทั้งปี 62 โตดีและ ปี 63 โตต่อ แนะนำ SABINA: รายงานผลประกอบการ1Q63 กำไร 70.4 ลบ -15.3%QoQ และ-12%YoY จากรายได้ที่ลดลง 16.3%QoQ และ 12.7%YoY เนื่องจากผลกระทบ COVID-19 ทำให้ช่องทางขายหน้าร้านที่เป็นช่องทางขายหลักถูกปิดไปในช่วง 22/3/63 ตามคำสั่งปิดห้างสรรพสินค้าของภาครัฐ อย่างไรก็ดียอดขายในส่วน NSR 99.8 ลบ +9%YoY ทำให้สัดส่วนขึ้นมาเป็น 15% ของยอดขายรวม รวมถึงช่องทางขาย Export +31.3%YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 52.9% จากการผลิตที่น้อยลง และการชะลอนำเข้าสินค้าจากจีน และ SG&A/Sales ลดลง 10%YoY จากการควบคุมต้นทุนภายในที่ทำได้รวดเร็วหลังเกิดสถานการณ์ COVID แนวโน้ม 2Q63มีโอกาสอ่อนตัวต่อ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการขายแบบ NSR เพื่อชดเชยการขายหลักที่ถูกปิดไปในช่วงเมษ-พค และคาดยอดขายจะเริ่มฟื้นตัวในช่วง 2H63, SSP ช่วง 1Q63 มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 161.2 ลบ. โต 24.3%YoY ผบห.คาดรายได้และกำไรปี 63 ทำ New high จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนามและมองโกเลีย ขนาดรวม 55 MW ซึ่ง COD ตั้งแต่ มี.ค. 62 และ ก.ค. 62 ตามลำดับ ขณะที่ 2H63 เริ่ม COD โครงการยามากะที่ญี่ปุ่นขนาด 30 MW. หนุนกำลังผลิตรวมปจบ.กว่า 160 MW.พร้อมวางแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ในเวียดนาม และเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อปในอินโดนีเซีย ตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 400 MW.ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ล่าสุด SSP ประกาศจ่ายปันผล 0.11 บ/หุ้น (Yield1.5%)
• Trading Idea
• หุ้นที่คาดฟื้นตัวเด่นจากการคลาย Lock Down : เลือก BTSGIF โดยได้ปัจจัยหนุนโดยตรงจากการผ่อน Lock Down และการกลับมาเปิดภาคการเรียน 1 ก.ค.63 นี้ตามประกาศของกระทรวงศึกษาฯ หนุนยอดผู้โดยสารรวมฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ(ค่าเฉลี่ยรายเดือนปี 62 ที่ระดับ 20.6 ล้านเที่ยวคน) คาด Ridership ช่วงเดือน เม.ย.ที่ 3.5 ล้านเที่ยวคนเป็นจุดต่ำสุดแล้ว บวกกับจ่ายผลสม่ำเสมอ ให้ Div.Yield ย้อนหลัง 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 6.7% นอกจากนี้ราคา ปจบ.มี Discount 18.7% จากราคาประเมิน NAV.ล่าสุดตามรายงานตลท.เมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาที่ราคา 9.2273 บ./หน่วย
12-Jun-20 Change (pts.) 11-Jun-20
SET Index 1,382.56 -14.21 1,396.77
SET50 Index 920.52 -11.82 932.34
SET100 Index 2,032.00 -23.15 2,055.15
High 1,386.22 Gainers 450
Low 1,353.51 Unchanged 272
Value (Bt m) 85,786.80 Losers 1,017
Volume (*000) 24,193,019
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 20.9 16.5 16.5
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -20.4
EV/EBITDA (x) 13.0 11.3 10.3
FWD PBV (x) 1.5 1.5 1.4
Dividend Yield (%) 2.7 3.0 3.3
ROE 6.9 8.1 8.5
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 12-Jun-20 WTD MTD YTD
Institution 443.23 (10,038.67) (1,441.26) 66,144.83
Proprietary (270.47) 11.96 4,348.12 1,818.61
Foreign (2,000.19) (2,195.48) 3,809.76 (190,119.35)
Individual 1,827.42 12,222.19 (6,716.62) 122,155.91
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชัยรัตน์ คงสุนทร
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
Data Support / Secretary
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web