- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 June 2020 15:50
- Hits: 4593
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นราย วัน 12-6-2020
Daily Trading Focus
“ดาวโจนส์-น้ำมันดิ่งหนัก กังวล Second Wave”
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ดิ่งหนัก กังวลเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำ ปิด -22.00 จุด ที่ 1396.77 จุด มูลค่าซื้อขาย 83 พันลบ. ตลาดไทยปรับลงแรงเหมือนภูมิภาค หลังเฟดมอง GDP สหรัฐปีนี้ -6.5% ยังมีปัญหาว่างงาน อีกทั้งในช่วงบ่ายตลาดหุ้นยุโรปปรับลงแรง ผนวกกับดาวโจนส์และน้ำมันฟิวเจอร์ดิ่งลงอีก จึงมีแรงขายออกมา และมีข่าวผู้ติดเชื้อมากที่สหรัฐเป็นรอบสอง ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 188 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสปรับตัวลงแรง กังวลผู้ติดเชื้อรอบสอง น้ำมันดิ่ง วันนี้คาดประกาศคลายระยะ 4 ปัจจัยลบคือ กังวลการแพร่ระบาดรอบ2 หลังคลายล็อกดาวน์ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย เสียชีวิต 3 หมื่นราย บดบังการที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ดาวโจนส์ดิ่งลงถึง 1,861 จุด น้ำมันปรับลงมากกว่า8% เข้าซื้อทองคำ เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านลดลง 2-3% ทีเดียว และดัชนีความกังวลพุ่งไปถึง 40.8 จุด สำหรับปัจจัยบวกคือ ตัวเลขยื่นขอสวัสดิการว่างงาน และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังออกมาดี เช้านี้ดาวโจนส์ล่วงหน้าพลิกบวก ด้านไทย ศบค.เตรียมคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 4 จันทร์หน้า 15 มิ.ย.เป็นกลุ่ม โรงเรียนนานาชาติ กวดวิชา ศูนย์ประชุม และคอนเสิร์ท รวมทั้งวานนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ กลยุทธ์ระยะสั้น หากหลุดจุด Stop Loss ที่ 1375 จะเป็นสัญญาณไม่ดี ให้ขายลดเสี่ยงไปก่อน เล่นสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบเมื่อลงลึก คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1350-1420 กลับมากังวลแรงขาย เพราะ P/E ไทยสูงถึง 20 เท่า ระมัดระวังหุ้นเดินทาง-ท่องเที่ยว สายการบิน และสนามบิน AOT การฟื้นตัวยังช้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตร และแบงก์ที่ปรับขึ้นมามากก็ต้องระวังการลงทุนระยะนี้ จากการเกิด Second Wave /รออ่อนเก็งกำไร SET-50, SET-100 เข้า-ออก ประกาศกลาง มิ.ย.63 ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์ เข้าสู่ไฮ ซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive-ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ-CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ-DIFF,AIMIRT,HREIT หุ้นได้ประโยชน์จะคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 4 ราว 15 มิ.ย.- RS,GRAMMY,PLANB,IMPACT,SISB และ ติดตามการยกเลิกเคอร์ฟิวส์ชั่วคราว 15 วัน อาจมีการเก็งกำไร LPN เพราะ BTS เข้าไปถึอหุ้น 1.36% แต่ถือว่ายังไม่มาก แค่รับปันผล ระวังหุ้น SIRI อยู่ในช่วงการขายหุ้นที่ซื้อคืนมาในตลาดฯ แนะนำ เต็มมูลค่า แนวรับคือ 1350-1325 จุด และ แนวต้าน 1425-1430 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1375 จุด
# Stock Pick Today :
AMATA คาดว่าจะฟื้นตัวดี ตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้ หลังได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 ในช่วง 1H63 และไทยจะมีการคลายล็อคดาวน์ในอนาคต จุดแข็งคือ มีที่ดินในมือมากถึง 12,769 ไร่ ในเขต EEC คือ ชลบุรีและระยอง ซึ่งทางรัฐบาลจะเน้นส่งเสริมการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) และได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาใช้วิธีการขายแบบ Online Platform ช่วยแก้ปัญหาลูกค้าต่างประเทศเข้ามาไทยไม่ได้ และสงครามการค้าสหรัฐ-จีน จะทำให้มีการย้ายฐานการผลิต ซึ่งคาดว่าไทยและเวียดนามจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สนใจจะมาลงทุน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานเป็น 20.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 64 ที่ 15 เท่า
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Trading Strategy : กังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สอง
Company Guide : AP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 6.30)
Turnover List Watch : ยังไม่มีหลักทรัพย์ใดติด Cash Balance ติดตาม DW
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: กังวลการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้น
# นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากข้อมูลของ Worldometer และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานในทิศทางเดียวกันว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุหลัก 2 ล้านรายแล้ว โดยรัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ จำนวน 401,333 ราย และเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกประเทศในโลก นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์กยังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 30,680 ราย
- สหรัฐ: การที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐกลับมาสูง บดบังความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์
# นักวิเคราะห์จากบริษัทคิงส์วิว แอสเซท แมเนจเมนท์ ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า การที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐทะลุหลัก 2 ล้านราย และรายงานคาดการณ์ที่ว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐอาจพุ่งแตะหลัก 2 แสนรายนั้น ได้บังความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวหลังการคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ
+ สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าคาด และขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวเพิ่ม
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.54 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6 ล้านราย
# ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลงติดต่อกัน 3เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์ในตลาด
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 1,861.82 จุด วิตกโควิดระบาดรอบสอง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 7% เมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) และเป็นการทรุดตัวลงในวันเดียวที่หนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐ
- น้ำมัน: WTI ปิดร่วง $3.26 หวั่นโควิดระบาดรอบสองฉุดดีมานด์ทรุด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 8% เมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งอาจฉุดเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทรุดตัวลงด้วยนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงในปีนี้รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์
• ทองคำ: ปิดบวก $19.1 นลท.แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังหุ้นดิ่งหนัก
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19ในสหรัฐ
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-ธปท.เผยเงินบาทแข็งในช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลในภูมิภาค เพราะดอลลาร์อ่อนค่า
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลในภูมิภาคโดยนับตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ค. ถึงปัจจุบัน (11 มิ.ย. 63) เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้น 2.71% รองจากเงินรูเปียของอินโดนีเซีย และเงินวอนของเกาหลีใต้ สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เงินทุกสกุลในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. สำหรับเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลกลับของนักลงทุนที่เป็นทั้งนักลงทุนไทยและกองทุนต่างๆ ที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศในช่วงก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในเดือนมิถุนายน แต่ยังไม่มาก
-KTB: คาดผลการดำเนินในไตรมาส 2/63 มีแนวโน้มลดลงเทียบ q-o-q
# คาดผลการดำเนินในไตรมาส 2/63 มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาส 1/63 เนื่องจากเป็นไตรมาสที่รับผลกระทบจากโควิด-19เข้ามาเต็ม เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรายได้ของธนาคาร โดยเฉพาะรายได้จากดอกเบี้ย หลังจากมีมาตรการการพักชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือช่วงวิกฤตโควิด-19 อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงมาต่ำในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากดอกเบี้ยรับของธนาคารลดลงตามไปด้วย
# คำแนะนำ: ถือ คาด NIM ใน 2Q63F อ่อนลงแต่อาจไม่รุนแรง ถึงแม้จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลง แต่บางส่วนก็ได้ชดเชยจากการลดนำส่งเงินเข้า FIDF จาก 0.46% เป็น 0.23% ของเงินฝากซึ่งมีผลมาตั้งแต่ 1Q63 แต่เรายังกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ โดย KTB เป็นหนึ่งในธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับ THAI แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 12.50 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับ P/BV ปี 63F ที่ 0.5 เท่า (-2SD)
-/+ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ: ปีนี้คาดชะลอ แล้วฟื้นตัวต้นปีหน้าหลังค้นพบวัคซีน
# เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในปีนี้คาดว่าจะชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก่อนจะปรับฟื้นขึ้นในต้นปีหน้า หลังจากเจอวัคซีนโควิด-19 ดังนั้นประเทศไทยจะมีเวลา 6-9 เดือนหลังจากนี้ในการสร้างแรงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามา แม้ว่ากระบวนการลงทุนจะยังไม่ลื่นไหลจนกว่าจะเจอวัคซีน แต่ก็เพื่อช่วยรักษาทิศทางการลงทุนของประเทศ
# คำแนะนำ: ถ่วงน้ำหนักปานกลางหุ้นกลุ่มนิคมฯ เพราะยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานพอควร Top Pick เป็น AMATAราคาพื้นฐาน 20.00 บาท
+ วันนี้ติดตาม ศบค.เปิดร่างคลายล็อกเฟส 4 คาดเริ่ม 15 มิ.ย. และทดสอบยกเลิกเคอร์ฟิวส์ชั่วคราว
# ศบค.เปิดร่างคลายล็อกเฟส 4 รร.นานาชาติ-กวดวิชา,ดื่มเหล้า-เบียร์ในร้านอาหาร,ศูนย์เด็กเล็ก,ศูนย์ประชุมใหญ่,คอนเสิร์ต (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
-ศบค.จ่อปลดล็อกกองถ่ายขนาดใหญ่ไม่เกิน 150 คน แนะใส่หน้ากากอนามัยแทนเฟซชีลด์
-ศบค.เผยร่างปลดล็อกเฟส 4 ยกเว้นผับบาร์-อาบอบนวด-บ้านบอล-ผู้ชมแข่งขันกีฬา-ร้านเกมส์นอกห้าง
-ศบค.แจงยังไม่ปลดล็อกผับบาร์-คาราโอเกะเหตุเสี่ยงสูง-มีผลต่อเศรษฐกิจไม่มาก
-ศบค.คาดปลดล็อกเฟส 4 เริ่มได้เร็วสุด 15 มิ.ย.นี้
ผลกระทบ: เป็นบวกกับหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น บันเทิง คอนเสิร์ต อีเวนท์ จัดแสดงสินค้า เช่น RS,GRAMMY,IMPACT,PLANB โรงเรียน SISB ห้องประชุมก็มีโรงแรมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น ERW,MINT และ CENTELนอกจากนี้ได้มีกระแสข่าวมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวส์ชั่วคราวเป็นเวลา 15 วัน แต่คงพรก.ฉุกเฉินยังคงไว้ ถือว่าเป็นพัฒนาการในทางที่ดี
+/- ศบค.เผยวันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ แต่สหรัฐมีผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000,464 ราย
# (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
# ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) เผยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000,464ราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะที่ 112,924 ราย รัฐนิวยอร์กยังคงได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมียอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่380,156 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 30,542 ราย
+/- หุ้นเข้า-ออก SET50 SET100 ประกาศกลาง มิ.ย.63 มีผลครึ่งหลังปี 63
# จาก Consensus SET50 พบว่า (+) หุ้นเข้า: TTW, BPP (-) หุ้นออก: DELTA, BANPU
# ส่วน SET-100 พบว่า (+) หุ้นเข้า: ACE,WHAUP,DOHOME,TVO,SIRI,RBF,SISB,AAV
(-) หุ้นออก: DELTA,MBK,THG,THAI,STPI,BGC,SGP,PSL
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web