WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-6-2020FSS2
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Defensive and Domestic Play//Accumulate on Dip
          ตลาดหุ้นวานนี้ :  SET Index แกว่งตัวในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน โดยมีแรงขายหนาแน่นในช่วงบ่ายและทำให้ดัชนีหลุดต่ำกว่าระดับ 1,400 จุดและปิดลบ 22 จุด ณ สิ้นวัน ตลาดมีมุมมองเชิงลบต่อมุมมองทางเศรษฐกิจและนโนบายการเงินของ FED สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นเร่งตัวขึ้นเป็ฯ 4.1 พันลบ.ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 753 ลบ. (และ Short Index Futures 3.2 พันสัญญา)
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะปรับฐานลงทดสอบระดับ 1,360 จุด+- จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยและถือเงินสดมากขึ้น สังเกตจาก US Dollar Index ที่แข็งค่าขึ้นแรง ตลาดมีมุมมองเป็นลบต่อผลการประชุม FED 2 ก่อนโดยเฉพาะมุมมองต่อเศรษฐกิจช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ประเด็นสำคัญที่ฉุดตลาดคือความกังวลเรื่องการระบาดระลอกที่ 2  ที่เริ่มมีสัญญาณในหลายๆรัฐของสหรัฐฯ ตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานสอดคล้องกับมุมมองของเราหลังดัชนีปรับตัวขึ้นราว 40% รับความคาดหวังเรื่อง Reopen Economy ไปมาก ทำให้ Valuation ตึงตัวโดยมี 2021PER อยู่ที่ราว 16.6 เท่า เราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานกลับตามแนวรับหลังจากให้ทยอยทำกำไรบริเวณ 1,450 จุด+- ส่วนระยะสั้นเน้นพักเงินในกลุ่ม Defensive เช่น โรงไฟฟ้า สื่อสารฯ อาหาร เป็นต้น 
          กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นหุ้นที่ยัง Laggard//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานกลับตามแนวรับในช่วงปรับฐาน
          หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. :  ADVANC, BDMS, CPF, STEC, TVO
หุ้นเด่นวันนี้: TACC
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 5.80 บาท 
          - คาดกำไร 2Q20 ทรงตัวได้ Q-Q, Y-Y ซึ่งถือว่าดีมาก เพราะการบริหารต้นทุนวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและ product mix จากการออกเครื่องดื่มขนาดใหม่ใน All caf? หักล้างการปรับลงของรายได้ได้หมด
          - แนวโน้มกำไร 2H20 ดีต่อเนื่อง เราปรับกำไรปี 2020 ขึ้น 8% เป็น 165 ลบ. +2% Y-Y ดีกว่าเดิมที่คาดว่า -6% Y-Y และคาดโตต่อเนื่อง +12% Y-Y ในปีหน้า 
          - ประมาณการของเรามี upside จากการเป็น Supplier ให้ร้าน 7-11 ในกัมพูชาและ Tesco ภายหลังเข้ามาอยู่ในเครือซีพี   
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคเล็กน้อย US$34ล้าน โดยเม็ดเงินไหลออกจากเกาหลีใต้และไทย US$141ล้านและ US$24ล้าน ตามลำดับ แต่ยังไหลเข้าไต้หวัน US$139ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะไหลออกจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกที่หดตัวและการระบาดระลอกที่ 2 ของ COVID-19
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (0) ศบค.เตรียมคลายล็อคดาวน์เฟส 4 ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันนี้ เล็งคลายล็อกดาวน์ 12 กิจกรรมหลังจากไทยไม่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มเป็นวันที่ 17 กิจกรรมที่ทำได้มากขึ้นเป็นบวกต่อ RS, WORK, HMPRO, EA, PLANB (ระวังราคาหุ้นผันผวนเพราะส่งงบวันนี้ เราคาดกำไร -55% Q-Q, -35% Y-Y) และหากยกเลิกเคอร์ฟิวจะเป็นบวกต่อ CPALL 
          (-) ต่างชาติกำลังเริ่มระบาดระลอก 2 สหรัฐ Reopen เร็วไป พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐ ทั้งแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส อาริโซน่า ฟลอริดา ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในละตินอเมริกายังน่าห่วง โดยเฉพาะบราซิลและเม็กซิโก 
          (-) Brexit กลับมาใหม่ การเจรจาระหว่างอังกฤษกับ EU ไม่คืบหน้า แต่รัฐบาลอังกฤษไม่ต้องการขยาย Transition period ออกไปจากสิ้นปี 2020 จึงมีความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจาก EU แบบ no-deal ซึ่ง OECD เตือนศก.ของอังกฤษปีนี้อาจหดตัวถึง 11.5% 
          (0) รัฐบาลไทยเตรียมแผน Travel bubble จับคู่กับประเทศที่คุมการระบาดของ COVID-19 ดีเยี่ยมจนเดินทางระหว่างกันได้โดยไม่ต้องกักตัว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในท้องถิ่น แต่อาจเห็นความชัดเจนใน 4Q20 ส่วนปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศช่วง ก.ค.-ต.ค. คลังจะนำเข้าครม.เร็วๆนี้ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวถูกเก็งกำไรมาแล้วหลายรอบ แต่เราเชื่อว่าการฟื้นตัวใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี คาดกลุ่มโรงแรมปีนี้ขาดทุน 1 หมื่นลบ. ปีหน้ากำไรอ่อนๆ 2.7 พันลบ. ปัจจุบันมี EV/EBITDA 28 เท่า แพงกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 12 เท่า ยังไม่แนะนำลงทุน   
          (+) ICHI แนวโน้มกำไร 2Q20 ดีกว่าที่เคยคาด จากการคุมต้นทุนและลดรายจ่ายทางการตลาด ชดเชยรายได้ที่ลดลงได้ คาดกำไรสุทธิ 140 ลบ. -12% Q-Q, +2% Y-Y และจะโตต่อใน 2H20 หลังออกสินค้าใหม่กลุ่ม Functional drink (น้ำผสมวิตามินบีรวม PH Plus 8.5 ขายใน 7-11 ต้น มิ.ย.) ซึ่งเป็น segment เดียวที่โตได้ และกำลังเจรจากับ distributor รายใหม่ในพม่า เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 18% เป็น 525 ลบ. +19% Y-Y และ +10% Y-Y ปีหน้า ปรับเป้าปีนี้ขึ้นเป็น 8.50 บาท (PE 21 เท่า) ยังแนะนำซื้อ
          (-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 1,861.82 จุด ปิดที่ 25,128.17 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ และแนวโน้มของเศรษฐกิจ รวมถึงถูกกดดันจากการปรับลงของราคาน้ำมัน
          (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ตามทิศทางของตลาดดาวโจนส์ที่กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และการระบาดโควิด-19 รอบสองในสหรัฐ
          (-) ตลาดเอเชียปรับลง ตามทิศทางของตลาดดาวโจนส์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสอง
          (-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 3.26 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ 36.34 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ อาจกระทบเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
          (+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 19.1 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 1,739.8   ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดดาวโจนส์ปรับลงแรง
          
          SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1135.05 / +5.55
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 มิ.ย.   - จีน: Industrial Production, Retail sales (พ.ค.)
16 มิ.ย.   - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
          - สหรัฐ: Industrial Production, Retail sales (พ.ค.)
17 มิ.ย.       - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ค.)
18 มิ.ย.       - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
22 มิ.ย.       - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ค.)
          - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!