- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 June 2020 14:32
- Hits: 821
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-6-2020
รอบด้านตลาดหุ้น ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทยพักตัวลง หลุด 1400 จุด โดยเป็นการขายหุ้นใหญ่ที่เป็นตัว lead ในแต่ละ sector ทั้ง ธนาคาร พลังงาน สื่อสาร ส่วนหุ้น กลาง เล็ก Local play วิ่งแรง-วอลุ่มเข้า เช่น SUPER ส่วนหุ้นขึ้นสวนทางตลาดได้แก่ นิคม WHA AMATA (ตามที่เรา "เคย" แนะนำให้เก็บ หุ้นนิคมก่อนหน้านี้ ด้วยคาดว่าหุ้นจะกลับมาเล่นกับประเด็น รัฐบาลเปิดให้นักธุรกิจเดินทางเข้าไทยได้ หนุน Pent-up demand กลับ) และกลุ่ม Financial service เช่น SAWAD BAM MTC
วันนี้คาดดัชนีฯ ลงมาสร้างฐาน ต่อ : หลังจากที่เราเตือน "ไม่ให้ไล่ราคา (ซื้อ) หุ้น Lead ของแต่ละ Sector ด้วยคาดว่าตลาดหุ้นไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน (เช่นรายงาน รอบด้าน 10 มิย. และ Weekly tactical) และเราได้ประเมิน Downside ไว้ก่อนแล้ว ว่าการปรับฐาน "แบบปกติ" การลงของรอบจะอยู่ที่ ราว 1350 จุด ทั้งนี้กลยุทธ์ได้แนะนำหุ้นเล่นรอในระหว่างตลาดปรับฐาน ได้แก่ 1) Local play หุ้นกลาง-เล็ก 2) สะสมหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันลง ซื้อสะสมโรงกลั่น ล่าสุดน้ำมันดิบเริ่มลงแล้วตามที่ MS คาด
What to watch
(+/-) เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ ดิ่งแรง Brent ลงเหลือ $37.5 แล้ว ตามที่ MS คาด โดยเมือวันที่ 10 MS ออกรายงาน อัพเดท คาดน้ำมันดิบเบรนท์ จะมีความเสี่ยงปรับลดลงจากบริเวณ $40/bbl ลงมาแถว $30 (ใกล้เคียงกับที่ GS คาดน้ำมันดิบจะ ดิ่งลง 17% ภายในเดือนนี้) / คาดเป็นลบโดยตรงต่อราคาหุ้น Upstream อย่าง PTTEP BANPU และ เป็นบวกต่อ โรงกลั่น
(+) วันนี้ศบค.เตรียมเสนอยกเลิก เคอร์ฟิว (ไม่ใช่แค่ทดลอง แต่ยกเลิกเลย) คาดส่งผลบวกต่อหุ้นร้านสะดวกซื้อ +CPALL CRC โดยตรง / เสนออนุญาตให้นั่งเครื่องบินในประเทศแบบไม่ต้องนั่งเว้นแถว-ทำให้ Utilization rate ดีขึ้น +AAV / และสุดท้าย กบอ.เตรียมชงเรื่องให้นักธุรกิจต่างประเทศ เดินทางเข้าไทยได้ +WHA AMATA สามารถเข้ามาเซ็นสัญญาซื้อ/เช่า ที่ดินและโกดัง หนุนยอดขายจาก Pent-up demand
หุ้นแนะนำ
AAV อนุญาตให้นั่งชิดติดกันได้...
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
กลุ่มสินค้าเกษตร (สัตว์น้ำ) ราคาต้นทุนทูน่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลมากขึ้น
ราคาเฉลี่ยของทูน่าปรับตัวลดลง 14% MoM ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง MoM 2 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเรามองว่าเป็นผลกระทบจากการจับปลาที่มากขึ้น และอุปทานส่วนเกิน ในขณะที่อุปสงค์ยังคงแข็งแกร่ง เรามองว่าการที่ราคาทูน่ากลับมาสู่ระดับที่ยอมรับได้แถว $1,300-1,800/ตัน จะทำให้การเจรจาต่อรองกับลูกค้าของ TU ง่ายขึ้นรวมถึงหนุนอัตรากำไรขั้นต้นให้ขยายตัว ในด้านของราคากุ้งในประเทศมีการปรับตัวขึ้นมา 29% ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากมาตรการผ่อนคลายการล๊อคดาวน์ ซึ่งราคาที่ปรับตัวขึ้นมาดังกล่าวจะเป็นผลบวกต่อธุรกิจกุ้งของทั้ง TU และ CPF เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง TU และ CPF
MTC ปรับประมาณการกำไรขึ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อผลประกอบการใน 2H20 หลังจากผู้บริหารยืนยันว่าการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 25% อีกปัจจัยที่ยังหนุนการเติบโตของสินเชื่อมาจากการชะลอการปล่อยสินเชื่อของธนาคารทำให้มีการเคลื่อนย้ายของลูกค้ามา สำหรับ NPLs/สินเชื่อยังคาดอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ณ สิ้นปีนี้ อีกทั้งมาตรการของ ธปท. น่าจะช่วยทำให้ LLP ปรับตัวลดลงมาได้ โดยเราคาด LLP ทั้งปีที่ 450 ล้านบาท ลดลง 19% YoY เรามีการปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อจาก 20% เป็น 24% และปรับกำไรขึ้น 7% มาที่ 5.1 พันล้านบาท เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 54 บาทเป็น 68 บาท และยังคงคำแนะนำ ซื้อ
GGC ประเด็นสำคัญจาก Conference Call
เราได้เข้าร่วม Conference Call เกี่ยวกับประเด็นคำพากษาของศาลแพ่งที่ต้ดสินให้บริษัทจ่ายค่าเสียหายสืบเนื่องจากคดีความที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของวัตถุดิบคงคลัง โดย GGC จะยื่นอุทธรณ์และคาดคดีจะสิ้นสุดประมาณเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. 2021 หากบริษัทต้องชำระค่าเสียหายจริง (มูลค่าเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 350-400 ล้านบาท) จะไม่กระทบต่อสภาพคล่อง เนื่องจาก ณ สิ้น 1Q20 มีเงินสดในมือรวม 2.7 พันล้านบาท ดังนั้นบริษัทจะยังคงสามารถดำเนินธุรกิจและลงทุนในโครงการต่างๆ ได้ตามแผน ถ้าคดีถึงที่สุดแล้ว GGC ถูกศาลตัดสินให้ชำระค่าเสียหาย บริษัทจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืนจากบริษัทคู่ค้า รวมทั้งอดีตพนักงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
Fundamental: ข้อมูลจาก Conference Call น่าจะทำให้ตลาดคลายความกังวลได้บางส่วน อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวอาจเป็น overhang ต่อราคาหุ้น GGC ไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้สำหรับกลุ่มปิโตรเคมี เราชอบ IVL (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 36 บาท) มากกว่า เนื่องจากแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งกว่า รวมทั้งมี upside จากการซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต
Quantitative Strategy ตลาดหมีพร้อมโจมตี
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรง (แตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 1454 จุด) ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเกินกว่าที่เราคาด อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดยังคงมีความเสี่ยงที่จะกลับเป็นขาลงเนื่องจากดัชนีระยะสั้นโดยรวมส่งสัญญาณร้อนแรงจนเกินไป โดยดัชนี Bull-to-Bear ระยะสั้นปรับตัวขึ้นจนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และปัจจุบันอยู่ในโซน Overheat ในขณะที่ดัชนีชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น (Short-term Momentum Strength Index) อยู่ในโซน Overbought แล้วเช่นกัน ซึ่งย้ำถึงความเสี่ยงที่ตลาดจะกลับเป็นขาลง ทั้งนี้ค่าความผันผวนของตลาดปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามล่าสุดค่าความผันผวนดังกล่าวมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกรอบ ในส่วนของดัชนีระยะกลาง ดัชนี Bull-to-Bear ระยะกลางเริ่มปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่ตลาดหุ้นทำจุดต่ำสุดในวันที่ 23 มี.ค. ขณะที่ดัชนี Volume Flow ยังแตะระดับสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 ดังนั้นการปรับขึ้นของตลาดรอบนี้น่าจะจบรอบแล้ว เรามองว่าตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานในเดือน มิ.ย. โดยประเมินดาวน์ไซด์ที่ระดับ 10-15% วัดจากราคาปิดสูงสุดที่ 1438 จุด
หุ้นมีข่าว
BTS
+ BTS เผยผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปกติราว 7-8 แสนเที่ยวคนต่อวัน พร้อมคาดรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้างวดปี 2563/64 ที่ 3.38 หมื่นล้านบาท วางงบลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู สีเหลือง สีเขียวส่วนต่อขยาย กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท รอเซ็นอู่ตะเภา-มอเตอร์เวย์ ภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
นิคมฯ
+ นิคมฯ: รัฐเดินหน้าปลดล็อกให้นักธุรกิจต่างชาติเข้าลงทุนไทย กบอ.ชง ศบค.เคาะหลักเกณฑ์การเดินทาง คาดชัดเจนสิ้นเดือนนี้ ด้าน ผู้บริหาร AMATA-WHA ประสานเสียงต่างชาติสนใจลงทุนไทยเพียบรอแค่เดินทางเข้ามา รับกักตัว 14 วัน ยังช่วยไม่มาก ขออำนวยความสะดวกอีก นักวิเคราะห์ชี้เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มนิคม มั่นใจปีหน้าฟื้น 100% ชู AMATA-WHA เด่น (ที่มา ทันหุ้น)
SUPER
+ SUPER ราคาหุ้นพุ่ง 14.94% ทะยานปิดตลาด 1 บาท วอลุ่มแน่น 4,255 ล้านบาท "จอมทรัพย์" ชี้ราคาหุ้นเป็นไปตามภาวะตลาด-นักลงทุนมั่นใจผลงาน แย้มงบไตรมาส 2/63 เติบโต การันตีรายได้ปีนี้แตะ 6,800-7,000 ล้านบาท ย้ำ COD โซลาร์ฟาร์มเวียดนามเพิ่มอีก 550 MW ช่วง ธ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
LPN
+ เปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น LPN ล่าสุด (5 มิ.ย.) พบ 4 ผู้ถือหุ้นรายใหม่ นำโดย BTS เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 1.36% "เสี่ยโป๋ว" ถือหุ้น 2.37% พร้อมรับเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1 บาททันที จับตา BTS ดึงข้อมูลลูกบ้าน LPN มาต่อยอดขยายฐานลูกค้าแรบบิทการ์ด (ที่มา ข่าวหุ้น)
Trend Forecasting | 12 มิถุนายน 2563
SET Index ปิด 1,396.77 (-1.55%) มูลค่าการซื้อขาย 8.2 หมื่นล้านบาท
หัวข้อ:วางแผนการเทรด....โซนรับที่แข็งแกร่ง!
กลยุทธ์เทคนิค:
ดัชนีเขย่าให้กลัวอีกครั้ง....มาคราวนี้ลงทดสอบแนวรับหลังผิงเชือก ทำท่าจะหลุดมีโอกาสสูง หากทะลุจะลงมาถึงโซนแนวรับถ้ดไปที่ 1,340 จุด กลุ่มไหนต้องระวัง...ใครจะเป็นคนดึงตลาดลง!เฉลยด้านล่างพร้อมภาพประกอบในหน้าถัดไปครับ+++
มุมมองทางเทคนิค:
กลุ่มแรก...ปิโตรเคมีอาจต้องระวังเนื่องจากดัชนีกลับขึ้นมาที่เดิม ช่วงเดือน 3 วิกฤต Covid-19 นอกจากนี้ RSI ทำ 2 หัว Double top ทรงไม่สวยเลย กลุ่มสอง....พลังงานอาจต้องระวังด้วยเช่นกัน! ชนต้านปุ๊บแล้วลงทันที แถมวอลุ่ม peak อีกต่างหาก....สรุป 2 กลุ่มที่ว่านี้อาจดึงตลาดลงต่ำครับ มีอยู่อาจต้องลดพอร์ต ลดควาเมสี่ยงไปบ้าง+++
วิธีการเลือกหุ้น:
แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคหาสัญญาณกลับตัว พ่วงด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงหรือจุด Trailing stop อาทิเช่น เส้นค่าเฉลี่ย, RSI, MACD , Bollinger band , Stochastic อาจปรับการมองให้กว้างขึ้นโดยใช้รูปแบบรายสัปดาห์-เดือน เผื่อลดความผันผวนระยะสั้น
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +20% สูงกว่าตลาดที่ -10%
*Addition(หุ้นเพิ่ม): WHA, MINT
*Deletion(หุ้นออก): KKP, LH, BGRIM (ทรงไม่สวย! อาจหลุดแนวรับ)
หุ้นคงเหลือ: AOT, SAWAD, CPN , BBL, AWC, AAV, INTUCH
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical: "วางแผนสู้ตลาด...ร่วงแรง"
WHA
มุมมอง ทรงแข็งแกร่ง
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
เหตุผล WHA
โซนซื้อ 3.3 - 3.4
เป้าหมาย 3.8
Stop loss < 3.2
MINT
มุมมอง ลงมาโซนซื้อ
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
เหตุผล MINT
โซนซื้อ 21 - 22
เป้าหมาย 24 / 25
Stop loss < 20
PTTEP & PTTGC
มุมมอง ปิดไม่สวย หลุด low!
แนะนำ ขายลดความเสี่ยง
เหตุผล โมเมนตัมระยะสั้นเปลี่ยนโครงสร้างเป็นลง แนะขายลดพอร์ตลดความเสี่ยงออกไปก่อน
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web