- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 June 2020 11:14
- Hits: 2766
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-6-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 11 มิ.ย.63 ปิด -22.00 จุด อยู่ที่ 1,396.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,892 ลบ.ต่างชาติขาย 752 ลบ. สถาบันขาย 4,111 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 434 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 348 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น BBL,BDMS,MINT,SAWAD,PTTGC และมียอดขายหุ้น SCB,STA,PTTEP,KBANK,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 922 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ CPF,AOT,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,210 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 103,138 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,950 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -6.90% , S&P500 -5.89% และ Nasdaq -5.27% หุ้นกลุ่มธนาคาร, พลังงาน, สายการบินปรั้บตัวลดลง หลังมีสัญญาณการเริ่มระบาดไวรัสรอบ 2 ในหลายรัฐเช่น เท็กซัส อริโซน่า แคลิฟอร์เนีย ขณะที่การประชุมเฟดที่ผ่านมาคาดเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้หดตัว -6.5 % และคงดอกเบี้ยต่ำถึงปี 2022 เป็นสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้า ส่วนรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 1.54 ล.ราย น้อยกว่าคาดที่ 1.6 ล.ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -4.10% หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ , กลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับลดลง จากความกังวลการระบาดไวรัสรอบ 2
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงจากความกังวลการระบาดของไวรัสรอบที่ 2 โดยรัฐเท็กซัสรายผู้ติดเชื้อใหม่วันพุธเพิ่มขึ้น 2,504 ราย , ฟลอริดาสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 8,553 ราย ฮุสตัน, แคลิฟอร์เนีย, อริโซน่าก็มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐ สตีเฟน มนูชิน เผยจะไม่มีการปิดเศรษฐกิจรอบที่ 2 ส่งผลให้นักลงทุนเลือกกลับเข้าสู่ภาวะ Risk Off อีกครั้ง ส่วนตลาดน้ำมันถูกกระทบจากความกังวลอุปสงค์ความต้องใช้น้ำมันอาจชะลอตัว หากเกิดการระบาดรอบที่ 2 โดยเช้านี้ WTI Futures -3.96% อยู่ที่ 34.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคา Gold Spot ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1725 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.55% สถาบันขาย -4.1 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 752 ลบ. และมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3.2 พัน สัญญา โดยดัชนี SET ปรับลดลงแรงในช่วงบ่าย หลังมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรลดความเสี่ยง หลังดัชนี SET เทรดที่ระดับ Forward P/E สูงถึง 21 เท่า ส่วนการควบคุมการระบาดของไทยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเป็นเวลา 15 วัน ส่งผลให้วันนี้ที่ประชุม ศบค. จะแถลงมาตรการปลดล็อกดาวน์เฟส 4 รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิวส์
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับฐานลงตามดัชนีภูมิภาคที่ลดลง -2.5 % ถึง - 3 % วางแนวรับดัชนีที่ 1,350 – 1,357 จุด แนวต้าน 1,375 จุด สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตมาก แนะนำลดพอร์ตลง 20 % ช่วงดัชนีรีบาวน์
- • TASCO* (ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 23.40 บาท) ผลประกอบการ 2Q63 จะปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ/YoY โดยมีโอกาสกลับมามี Stock Gain ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักทยอยฟื้นตัวหลังรับผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลให้การขายไปประเทศจีนถูกยกเลิกไปบางส่วนใน 1Q63 จะเริ่มทยอยกลับเข้ามาใน 2Q63 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนทางด้านราคาจาก Supply ยางมะตอยประเทศที่มีโอกาสขาดแคลน เนื่องจากโรงกลั่นหลักๆ ทยอยปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ราคายางมะตอย AC ในประเทศดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือน เม.ย.ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของกรมทางหลวง/กรมทางหลวงชนบทจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเป้าปริมาณขายในปี 63 ที่บริษัทตั้งไว้ 1.8-1.9 ล้านตัน ระยะสั้นมีประเด็นสบับสนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเมื่อวานเป็นบวกต่อต้นทุนช่วยหนุน Spread Bitumen
- • NER* (ทะยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.03 บาท) หุ้นกลุ่มยางพารา ได้ปัจจัยบวกจากหลายปัจจัย อาทิเช่น โครงการแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์ของรัฐบาล(ดำเนินการปี63-65 ใช้ยางประมาณ 360,000 ตัน) ความต้องการยางของตลาดจีนที่จะเริ่มกลับมาฟื้นตัว เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิด demand ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้ส่งออกยางบางรายก็ปิดกิจการไปปลายปีที่แล้ว โดยด้าน NER มีการเซ็นสัญญาซื้อระยะยาวจากลูกค้าใหญ่2ราย (เริ่มเดือน มิ.ย.และก.ค.ปีนี้ถึงปี64 ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น7.2 หมื่นตันต่อปี) และมีการเปิดโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังผลิต(เริ่มQ3/63) ตลาดคาดรายได้NERปี63 และ ปี64 ขยายตัวที่ 15.51 พันล้านบาท(+19.25%) และ 20.66 พันล้านบาท(+33.21%) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ก.ค.ปิด -3.26 ดอลลาร์ อยู่ที่ 36.34 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ส.ค. ปิด -3.18 ดอลลาร์ อยู่ที่ 38.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันหลังเฟดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้า ส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 5.7 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 3.2 ล.บาร์เรล
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +19.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,739.80 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนขายหุ้นและหันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง จากความกังวลต่อความเสี่ยงการระบาดไวรัสรอบที่ 2 ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.77 % อยู่ที่ 96.7262
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -42.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -24.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -17.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่า อยู่ที่ 31.196 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +75 อยู่ที่ 839 จุด
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.669 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.203 %
(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 7.084/USD
(-) สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อ 2.02 ล.ราย เสียชีวิต 113,783 ราย
Economic Calendar
ในประเทศ
10 มิ.ย. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
11 มิ.ย. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ (ดอลลาร์สหรัฐ)
สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ต่างประเทศ
9 มิ.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (เม.ย.)
10 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
11 มิ.ย. US แถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, AOT, CPALL, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web