- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 June 2020 12:05
- Hits: 3522
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-6-2020
“กลับมากังวลแรงขายทำกำไร ติดตามผลประชุมเฟด”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : WHA (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ ดิ่งหนัก จากแรงขาย นำโดยพลังงาน ปิด -30.29 จุด ที่ 1408.37 จุด มูลค่าซื้อขายสูง 116 พันลบ. ตลาดไทยลงแรงกว่าภูมิภาคช่วงเช้าแกว่งแคบๆหลังมีข่าวลบน้ำมัน ซาอุฯอาจเพิ่มกำลังการผลิตเดือน ก.ค.63 สวนกับ OPEC+ และยังไม่นำเรื่องงบท่องเที่ยวเข้าครม. แต่ช่วงบ่ายมีแรงขายหนัก ตลาดหุ้นยุโรปร่วงและดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 188 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสถูกขายทำกำไร แต่รอผลประชุมเฟด น้ำมันกลับมาขยับขึ้นได้ ปัจจัยบวกคือ คาดว่าถ้อยแถลงเฟดจะมีการเพิ่ม QE ตรึงดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ 0% กระตุ้นเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม พ.ค.สูงขึ้น ราคาน้ำมันวานนี้ปรับขึ้น ยังคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นตัว และ OPEC+ลดกำลังการผลิตเพิ่ม ส่วนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทยคาดเริ่ม ก.ค. ที่มีชดเชยหยุดสงกรานต์ เช้านี้ดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก ด้านปัจจัยลบคือ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยมาตั้งแต่ ก.พ. จนถึงไตรมาส 2 แต่ไตรมาส 3 คาดเริ่มฟื้นตัว ตัวเลขรับสมัครงาน เม.ย.ลดลง ดาวโจนส์ลดลง 300 จุด กลับเข้าหาทองคำและเช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านคละเคล้า บวกและลบ กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1380-1420 กลับมากังวลแรงขายเพราะ P/E ไทยสูงถึง 20 เท่า ระมัดระวังหุ้นเดินทาง-ท่องเที่ยว สายการบิน และสนามบิน AOT หลัง ททท.หลังหุ้นปรับขึ้นมาก แต่การฟื้นตัวยังช้าระยะนี้เก็งกำไร SET-50, SET-100 เข้า-ออก ประกาศกลาง มิ.ย.63 แต่ระมัดระวังหุ้นพลังงาน ที่ผันผวนมากขึ้น หลังซาอุฯอาจจะกลับมาเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.
ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์ เข้าสู่ไฮ ซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCOกลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT หุ้นได้ประโยชน์จะคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 4 ราว 15 มิ.ย.-RS,GRAMMY,PLANB,IMPACT,SISB และ ติดตามการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หรือเคอร์ฟิวส์ปลายเดือน มิ.ย.63 นี้ ระวังหุ้น SIRI อยู่ในช่วงการขายหุ้นที่ซื้อคืนมาในตลาดฯ แนะนำ เต็มมูลค่า แนวรับคือ 1360-1340 จุด และ แนวต้าน 1420-1440 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1400 จุด
# Stock Pick Today :
TQM อันดับ 1 ธุรกิจนายหน้าประกันภัยไทย และเป็นบริษัทเดียวที่ List ใน SET เป็นผู้นำในการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจขายประกันและสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประกันสุขภาพ และยังมีแพลทฟอร์มออนไลน์ที่ก้าวล้ำ ทำให้ขยายตลาดได้เร็วมาก งบดุลแข็งแกร่งไม่มีเงินกู้ เติบโตสูง คาดกำไรสุทธิปี 63F-64F เติบโต +20.3%/+27.7%YoY ตามลำดับ ให้ราคาพื้นฐาน 120 บาท (DCF, WACC 8% และ TG 4%)การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นลบเล็กๆ แต่อาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators เป็นลบ(ยัง)เล็กๆ {“ปิดลบแรง” แต่ยังยืนเหนือ“SMA10วัน” (โดยมีสภาวะ Overbought ในดีกรีที่สูง + มี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1420 (หรือ 1440 –1450) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1400” (แนวรับย่อย “1360 / 1340 – 1320”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : TQM (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 120.00)
WHA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 3.23)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
New Listing : CIG-W8
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-/+ สหรัฐ: NBER ระบุเศรษฐกิจรัฐสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ก.พ. แต่จะกลับมาขยายตัวตั้งแต่ 3Q63
# นักลงทุนจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติช่วงการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
# อย่างไรก็ดี NBER คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบนี้นอกจากจะมีความรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ยังทำสถิติช่วงเวลาสั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
+/• สหรัฐ: ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลง 10 มิ.ย.63
# นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันนี้หรือ 10 มิ.ย.63 เป็นวันสุดท้าย เพื่อมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 10 มิ.ย. โดยคาดว่าเขาจะเน้นย้ำว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
+/- สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้น แต่ตัวเลขเปิดรับสมัครงานต่ำสุดตั้งแต่ ธ.ค.57
# สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้น 4.5 จุด สู่ระดับ94.4 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
# ทางด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 965,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.0 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 300.14 จุด ขายทำกำไร ตลาดจับตาประชุมเฟด
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย
+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 75 เซนต์ รับคาดการณ์อุปสงค์ฟื้นตัว,จับตาสต็อกน้ำมันดิบ
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตลาดน้ำมันมีความสมดุล นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน แม้ว่าซาอุดีอาระเบีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศยุติการสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลง
# นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัส แม้ว่าซาอุดีอาระเบีย, คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศยกเลิกการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม 1.18 ล้านบาร์เรล/วัน นอกเหนือจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันของโอเปกพลัส และซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับโควตาการผลิตน้ำมันของประเทศ
- • ทองคำ: ปิดบวก $16.8 เหตุตลาดหุ้นร่วงหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- • วานนี้ยังไม่เสนองบท่องเที่ยวเข้า ครม.แต่จะเสนอ ศบค.ก่อน
# นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันนี้กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะยังไม่ได้เสนอมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ เนื่องจากจะเสนอมาตรการ "เที่ยวปันสุข" ให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ก่อน (อินโฟเควสท์)
# ผลกระทบ: อาจจะทำให้ขาด Catalyst สำหรับ SET ระยะนี้ จากที่คาดว่าวานนี้ ครม.น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภค และท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อได้นำเสนอโครงการให้ ศบค.แล้ว วันอังคารหน้าคือ 16 มิ.ย. ครม.น่าจะมีการพิจารณางบกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ระยะนี้จะมีการเก็งกำไรหุ้นเกี่ยวกับการเดินทาง ท่องเที่ยว เช่น AOT,AAV, MINT, ERW และ CENTEL เพราะมองภาพการฟื้นตัวหลังจากคลายล็อกดาวน์ แต่ในความเป็นจริงยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในกรณีโรงแรมที่ยุโรปกับมาเปิดให้บริการ เช่น สเปน ทำให้มีการเก็งกำไร MINT (NHHotel ได้ประโยชน์) และ U แต่จากที่ได้ฟังผู้บริหาร U กว่าที่โรงแรมจะเข้าสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลาอีก 2 ปี ดังนั้นการเข้าเก็งกำไรจึงควรระมัดระวัง
-/+ ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2 ราย เป็นผู้เดินทางกลับจากตปท.
# สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย จาก StateQuarantine ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ขณะที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ หรือเป็นศูนย์รายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 15 แต่ในทางหลักการระบาดวิทยาปกติจะใช้ 2 เท่าของระยะเวลาฟักตัวที่ยาวที่สุดของโรค จึงปลอดภัย โดยโควิด-19ระยะเวลาฟักตัวอยู่ที่ 14 วัน ดังนั้น 2 เท่า คือ 28 วัน เพราะฉะนั้นอาจจะต้องรอให้พ้น 28 วันไปก่อนจึงจะเรียกว่าระยะที่มีความเสี่ยงต่ำ
+ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่า มาตการกระตุ้นท่องเที่ยวควรเริ่ม ก.ค.เป็นต้นไป
# สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่าจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มมาตรการคือ ช่วงเดือน ก.ค.เป็นต้นไป เนื่องรัฐบาลจะให้มีวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้ มาตรการที่จะออกมานั้น เช่น การแจกบัตรกำนัล การเสนอให้แจกเงินคนละ 3,000 บาทเพื่อท่องเที่ยวภายในประเทศ มาตรการที่ออกมาจะต้องให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เช่นโรงแรม และร้านอาหาร เข้าร่วมจัดโปรโมชั่น ลดราคาต่างๆ เพื่อสนับสนุนมาตรการภาครัฐ และจูงใจให้ประชาชนตัดสินใจท่องเที่ยวด้วย
-SIRI: ขายหุ้นที่ซื้อคืน 55,262,600 หุ้น คงเหลือรอขาย 524,756,900 หุ้น
# วันที่ขาย 09 มิ.ย. 2563 จำนวนหุ้นที่ขาย (หุ้น) : 55,262,600 ราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 0.92 ราคาต่ำสุด (บาท/หุ้น) : 0.89มูลค่ารวม (บาท) 50,059,535.00 จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย (หุ้น) : 524,756,900 คิดเป็น 3.53% ของหุ้นจดทะเบียน มูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย(บาท) : 680,136,562.44 วันที่ครบกำหนดระยะเวลาที่ต้องจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน : 17 มิ.ย. 2563 (SET
# คำแนะนำ: อาจต้องระมัดระวังแรงขายที่จะทยอยออกมา และใกล้ครบกำหนดวันเส้นตายแล้ว คงคำแนะนำ FullyValued ราคาพื้นฐาน 0.53 บาท
+/- หุ้นเข้า-ออก SET50 SET100 ประกาศกลาง มิ.ย.63 มีผลครึ่งหลังปี 63
# จาก Consensus SET50 พบว่า (+) หุ้นเข้า: TTW, BPP (-) หุ้นออก: DELTA, BANPU
# ส่วน SET-100 พบว่า (+) หุ้นเข้า: ACE,WHAUP,DOHOME,TVO,SIRI,RBF,SISB,AAV
(-) หุ้นออก: DELTA,MBK,THG,THAI,STPI,BGC,SGP,PSL
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web