- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 June 2020 11:53
- Hits: 2575
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-6-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 9 มิ.ย.63 ปิด -30.29 จุด อยู่ที่ 1,408.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 115,559 ลบ.ต่างชาติซื้อ 485 ลบ. สถาบันขาย 2,614 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 88 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,120 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น BBL,CPALL,PTT,KBANK,HMPRO และมียอดขายหุ้น MINT,SCC,PTTEP,GULF,JAS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 670 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ MINT,PTTEP,TOP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 5,301 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 92,581 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 4,975 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -1.09% , S&P500 -0.78% และ Nasdaq +0.29% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคาร, สายการบิน และอุตสาหกรรม หลังดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้นมา 6 วันทำการ แต่ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ NFIB รายงานดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อม พ.ค. ฟื้นตัว +4.5 อยู่ที่ระดับ 94.4 สูงกว่าคาดการณ์ นักลงทุนยังรอผลการประชุม FOMC ต่อแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -1.22% ถูกแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน หลังคณะกรรมการกำกับดูแลความเสี่ยงระบบของยุโรป (ESRB) เผยธนาคารต่าง ๆ ไม่ควรได้รับอนุญาตให้จ่ายเงินปันผลในปีนี้
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปวานนี้ถูกแรงขายกำไรจากหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน อุตสาหกรรม ที่เป็นหุ้นกลุ่ม Cyclical ที่ฟื้นตัวแรงตามแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังประเทศต่าง ๆ เริ่มกลับมาเปิดระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยนักลงทุนเริ่มลดความเสี่ยงจากตลาดหุ้น ระหว่างรอผลการประชุม FOMC ในวันนี้ เพื่อติดตามเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐ , เป้าหมายการจ้างงาน รวมถึงแผนการใช้เงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนฝั่งยุโรปรอการประชุม รมว.คลัง กลุ่มยูโรโซน เพื่อพิจาณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพฤหัสนี้ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -2.11% สถาบับขายสุทธิ 2.6 พัน ลบ. ต่างชาติซื้อ 485 ลบ.และมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 5.3 พันสัญญา โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน, ธนาคาร, โรงไฟฟ้า ปรับตัวลดลง หลังดัชนี SET เทรดที่ระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับดัชนีภูมิภาค และสถาบันเลือกล็อกกำไรหลังดัชนี SET ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด +49% ขณะที่มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต้องรอการประชุม ศบค. ในวันศุกร์นี้ ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ต้องรอการปรับ ครม. ชุดใหม่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ
Daily Strategy
- • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 จุด แนวต้าน 1,420 – 1,430 จุด คาดดัชนีทรงตัวรอผลการประชุมเฟด ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นปัจจัยหนุนดัชนี แนะนำซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap. ที่ราคายังต่ำกว่า Fair Price เช่น CPALL, ADVANC
- • GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 80.00 บาท) ในปี 63 คาดว่าทั้งในส่วนรายได้และกำไรจะเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปี ทั้งในส่วนของการเข้าซื้อกิจการ GLOW และการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำลิก 1 ในลาว โครงการ CUP-4 และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม รวมถึงจะเริ่ม COD โครงการผลิตไฟฟ้านวนครส่วนขยาย นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากแผนรีไฟแนนซ์ ระยะถัดไปจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวลดลง รวมถึงค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า
- • IP* (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 8.10 บาท) รายได้จากการขายมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อโดยในช่วงครึ่งปีหลังยอดคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ (Nutraceuticals) ของลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล (ผลิตภัณฑ์สำหรับคน) น่าจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งลูกค้าของ IP ก็เป็นโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศทั้งรัฐบาลและเอกชน ล่าสุดบริษัทมีแผนการออกหุ้นกู้อีกราว 300 ลบ. เพื่อนำมาปรับปรุงโรงงานและเครื่องจักร นอกจากนั้นบริษัทยังเข้าซื้อกิจการ (M&A) 100% ในบริษัท โมเดิร์น ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดและเพิ่ม Line การผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มสุขภาพความงามสำหรับประมาณการกำไรปี 63-64 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 57.5 ลบ. และ 72.4 ลบ. ขยายตัวต่อเนื่อง +32%YoY และ +26%YoY ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.ค.ปิด +0.75 ดอลลาร์ อยู่ที่ 38.94 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ส.ค. ปิด +0.38 ดอลลาร์ อยู่ที่ 41.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ตอบรับคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่าซาอุ ฯ, คูเวต และอาหรับ เอมิเรตส์จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตกลับสู่ระดับโควต้าเดิม เย็นวันนิ้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดจะลดลง 3.2 ล.บาร์เรล
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +16.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,721.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เม็ดเงินไหลเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังดัชนีหุ้นสหรัฐและยุโรปเริ่มถูกแรงขายทำกำไร ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.31 % อยู่ที่ 96.332
Fund Flow (+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +36.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +15.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +19.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 31.276 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +16 อยู่ที่ 714 จุด
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.824 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.206 %
(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 7.0781/USD
(-) S&P ปรับลดมุมมองเครดิตญี่ปุ่นสู่ระดับ เสถียรภาพ เรตติ้งที่ A+ เนื่องจากหนี้ภาครัฐปี 63 คาดสูงขึ้นอยู่ที่ 171 % ของ GDP จากปี 62 ที่ 151 %
Economic Calendar
ในประเทศ
10 มิ.ย. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
11 มิ.ย. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ (ดอลลาร์สหรัฐ)
สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ต่างประเทศ
9 มิ.ย. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (เม.ย.)
10 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
11 มิ.ย. US แถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, AOT, CPALL, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web