- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2020 11:06
- Hits: 788
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน 9-6-2020
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า :
SET วานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิปิด +2.96 จุด ที่ 1438.66 จุด มูลค่าซื้อขายสูง 105 พันลบ. ตลาดไทยอ่อนกว่าภูมิภาค ช่วง เช้าปรับตัวดีรับข่าวตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรวันศุกร์ดีแบบ Surprise และผลประชุม OPEC+ วันเสาร์ลดกำลังการผลิตเพิ่มต่อ 1 เดือน แต่ช่วงบ่ายกลับมีแรงขาย ทำกำไร หลัง SET แรลลี่มาอย่างต่อเนื่อง QTD +28% ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 189 พันลบ. # ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ผันผวนมากขึ้น สหรัฐคลายล็อกดาวน์เพิ่ม น้ำมันกลับลง ไทย-ครม.ออกมาตรการกระตุ้น ปัจจัยบวกคือ สหรัฐเปิด 50 รัฐ คลายล็อก ดาวน์ฟื้นเศรษฐกิจ ประชุมเฟด วันนี้-10 มิ.ย.คาดทำ QE เพิ่ม ดาวโจนส์ +461 จุด น้ำมันเช้านี้รีบาวด์ด้านปัจจัยในประเทศ
คาดว่าวันนี้ครม.ออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ ทั้งการบริโภค-ท่องเที่ยว สัปดาห์หน้าติดตามคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ด้านปัจจัยลบคือราคาน้ำมันดิบวานนี้กลับปรับลง กังวลซาอุฯกลับมาเพิ่มการผลิตน้ำมัน แทนที่จะลด เพราะมิ.ย.ลดมากเกินโควต้าแล้วและ OPEC+ลดเดือนเดียวจากเดิมคาดว่าเป็น 3 เดือน ทองคำปรับขึ้น วานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิวันแรก เช้านี้ตลาดหุ้น เพื่อนบ้านบางตลาดเริ่มปรับลง และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลดลง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1420-1480 อาจเก็งกำไรกลุ่ม พาณิชย์เดินทาง-ท่องเที่ยว สายการบิน และสนามบิน AOT หลัง ททท.จะของบรัฐผ่านครม.วันนี้ระยะนี้เก็งกำไร SET-50, SET-100 เข้า-ออก ประกาศกลาง มิ.ย.63 แต่ระมัดระวังหุ้นพลังงาน ที่ผันผวนมากขึ้น หลังซาอุฯอาจจะกลับมาเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. แทนที่จะลดการผลิต ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง- ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้น กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT หุ้นได้ประโยชน์จะคลายล็อคดาวน์ ระยะที่ 4- RS,GRAMMY,PLANB,IMPACT,SISB ติดตามผลการคลาย ล็อกดาวน์ระยะที่ 3 จะมี SECOND WAVE หรือไหม่ ทราบผลราว 15 มิ.ย.63 ซึ่งเริ่มมา ตั้งแต่ 1 มิ.ย.63 (ฟักตัว 14 วัน) และ ติดตามการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หรือเคอร์ฟิวส์ปลายเดือน มิ.ย.63 นี้แนวรับคือ 1360-1340 จุด และแนวต้าน 1450-1480 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1400 จุด # Stock Pick Today : RJH ปีนี้โตเล็กน้อย แต่ปีหน้าโตดีคาดปีนี้กำไรเติบโตเพียง 2% y-o-y ได้รับผลลบจากโควิด-19 คนไข้น้อยช่วงล็อคดาวน์แต่พลิกสถานการณ์ ด้วยการรับตรวจโควิด -19 ส่วนกำไรปี 64F คาดว่าโต +15% ซึ่งมาจากจำนวนคนไข้เพิ่มขึ้น และการเปิดศูนย์เฉพาะใน 4Q63F ด้านฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ และ Valuation จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันมี P/E ปี 63F เท่ากับ 20 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 28 เท่า กำหนดราคาพื้นฐาน 28 บาท (DCF) การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวก อาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ แต่ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวก แบบพร้อมเปลี่ยนเป็นลบตามมา {“ปิดบวกเล็กน้อย”เหนือ“SMA10วัน” (แต่“ปิดต่ำ” + สภาวะ Overbought ในดีกรีที่สูง + มี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง” กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลงแต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน 1450 (หรือ 1480 – 1500) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1400” (แนวรับย่อย “1360 / 1340 – 1320”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web