หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : IRPC (จาก Fully Valued เป็นถือ) / PTT (จากถือเป็นซื้อ) ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันศุกร์แรงช่วงบ่าย หลังมีข่าวประชุมโอเปกพลัส ปิด +24.69 จุด ที่ 1435.70 จุด มูลค่าซื้อขายสูงมาก 120 พันลบ. ตลาดปรับขึ้นดีกว่าภูมิภาค มีเม็ดเงินไหลเข้า ช่วงเช้าดัชนีฯแผ่วไม่มีปัจจัยใหม่แต่ช่วงบ่ายมีข่าวโอเปกพลัสจะประชุมวันเสาร์หลัง 4 มิ.ย.ไม่มีการประชุม จึงมีการ เก็งกำไรตระกูล PTT ว่าจะลดกำลังการผลิตเพิ่มตั้งแต่ ก.ค. ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-รายย่อย ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายลดลงเป็น 188 พันลบ.

 # ปัจจัยและกลยุทธ์: 

SET ยังมีแรงส่งจากตัวเลขจ้างงานดีแบบ Surprise และผลประชุม OPEC+ ลดเพิ่มต่อ 1 เดือน ปัจจัยบวกมีมากคือ ตัวเลขจ้างงาน นอกภาคการเกษตรเพิ่มถึง 2.5 ล้านตำแหน่งจากที่คาดจะลด 8.3 ล้านตำแหน่ง ประชุมโอเปกพลัสลดต่อ 9.7 ล้าน BBL ต่อวันถึง ก.ค.63 ดาวโจนส์ +829 จุด น้ำมัน WTI คืนวันศุกร์ +2% ติดตามประชุมเฟด 9-10 มิ.ย. ทองคำร่วงถึง 44 US$ต่อออนซ์เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง เช้านี้เพื่อนบ้านส่วนใหญ่บวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์และ น้ำมันล่วงหน้าก็เพิ่มขึ้น ด้านปัจจัยลบเรื่องเดิมๆคือ สงครามการค้า ติดตามผู้ติดเชื้อ Second Wave เพิ่มสูง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนี ซื้อ-ขายในกรอบ 1420-1480 จุด คาดว่ากลุ่มวัฎจักร จะมาคือ พลังงานต้นน้ำ PTT,PTTEP โรงกลั่น TOP และปิโตรเคมี PTTGC เช้านี้ปรับราคา พื้นฐานขึ้นหลายหลักทรัพย์คือ PTT,PTTGC และ IRPC ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นดีระยะนี้เก็งกำไร SET-50, SET-100 เข้า-ออก ประกาศกลาง มิ.ย. 63 

          ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ DefensiveADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT หุ้นได้ประโยชน์จะคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 4- RS,GRAMMY,PLANB,IMPACT,SISB ติดตามผลการคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 จะมี SECOND WAVE หรือไหม่ ทราบผลราว 15 มิ.ย.63 ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 1 มิ.ย.63 (ฟักตัว 14 วัน) และอาจเก็งกำไรกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยว สายการบิน และสนามบิน AOT หลัง ททท.จะของบรัฐผ่านครม.สัปดาห์นี้ติดตามการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หรือเคอร์ฟิวส์ปลายเดือน มิ.ย.63 นี้ด้าน MAJOR มี ข่าวลบถูกปิด 3 วัน เพราะปฎิบัติระยะห่างได้ไม่ดีพอ แนวรับคือ 1360-1340 จุด และแนวต้าน 1450-1480 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1400 จุด # Stock Pick Today : CPALL คาดกลับมาฟื้นตัว 2H63 แม้อัตราเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงไตรมาส 2/63 จะลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตร มาส 1/63 ที่ติดลบไปแล้ว 4% หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ภาครัฐบาลประกาศปิดเมือง (Lock down) เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

           แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่ายอดขายจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ภาครัฐบาลได้เริ่มคลี่คลายมาตรการต่างๆแล้ว ขณะที่ MAKRO ไปได้ดีแนะนำซื้อราคาพื้นฐาน 79 บาท การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวก อาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ แต่ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวก แบบพร้อมเปลี่ยนเป็นลบตามมา {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (แต่มีสภาวะ Overbought ในดีกรีที่สูงและมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง” กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน 1450 (หรือ 1480 – 1500) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำ กว่า 1400” (แนวรับย่อย “1360 / 1340 – 1320”) จุด}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com