WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-6-2020ASP

กลยุทธ์การลงทุน

ระดับ PER กว่า 21 เท่า Market Earning Yield Gap ลงมาต่ำกว่า 4% มีโอกาสที่ทำให้ SET Index ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่อง ถูกขายทำกำไรได้ตลอดเวลา วันนี้ไม่มีการปรับพอร์ต แต่ให้เข้มงวดกับการตั้ง Stop Profit สำหรับหุ้นในพอร์ต เพี่อ Lock กำไรไว้ในระดับที่น่าพอใจ สำหรับหุ้น Top Pick เลือก AMATA, CPALL และ STEC

Liquidity Driven รอบนี้มีข้อจำกัดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

การปรับตัวขึ้นของ SET Index รอบนี้มีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากเม็ดเงินที่เป็นสภาพคล่องในระบบการเงิน (Liquidity Driven) ซึ่งวิ่งหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นภายใต้ภาวะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่หากประเมินจากสถานการณ์แวดล้อมที่เป็นอยู่ ฝ่ายวิจัยเห็นว่าแรงขับเคลื่อนดังกล่าวก็มีข้อจำกัดอยู่มากภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากระดับอัตราผลตอบแทนที่คาดหมาย(Expected Return) สำหรับตลาดหุ้นไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ โดยที่ค่า PER สำหรับปี 2563 ปรับขึ้นไปสูงกว่า 21 เท่า ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับ Forward PER ส่งผลทำให้ Market Earning Yield Gap ปรับลดลงมาต่ำกว่า 4% เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีซึ่งอยู่ที่ราว 4.25% นอกจากนี้หากเทียบเคียงค่า PER ของตลาดหุ้นไทยเทียบกับตลาดหุ้นโลก หรือ ภูมิภาค ก็ถือว่าอยู่ในระดับ Top 3 องค์ประกอบดังกล่าวทำให้ความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปรับลดลง และมีความเป็นไปได้ที่ SET Index จะถูกขายทำกำไรออกมาได้ตลอดเวลา กลยุทธ์วันนี้ไม่มีการปรับพอร์ต ปล่อยให้กำไรเดินหน้าเพิ่มขึ้นต่อไป แต่ให้ตั้ง Stop Profit สูงขึ้น เพื่อ Lock กำไรที่น่าพอใจส่วนหุ้น Top Pick เลือก AMATA, CPALL และ STEC

ตลาดแพง แต่ถูกขับเคลื่อนจากสภาพคล่องเป็นหลัก เน้นหุ้นดีดี ผสมหุ้นเก็งกำไร ชอบ CPALL, AMATA, STEC

ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวถูกขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องในระบบการเงิน (Liquidity Driven) เป็นหลัก โดยต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 4 วันติดต่อกัน มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ตลาดยังขาดปัจจัยพื้นฐานที่หนักแน่นเพียงพอ สนับสนุน อยู่

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการวิเคราะห์หาความต่อเนื่องของ Fund Flow ที่จะคอยหนุนตลาด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

  1. Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติ แบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วน

1.1.   ค่าเงินบาทแข็งค่าเช่นเดียวกับประเทศอื่นในภูมิภาค แสดงให้เห็นว่าความน่าสนใจในการลงทุนจากถูกกระจายตัวไปในหลายๆ ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคไม่ใช่เฉพาะตลาดหุ้นไทยเพียงแห่งเดียว ขณะที่ค่าเงินบาทไทย ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นมาแรงถึง 4.66% สูงกว่าประเทศอื่นๆ (น้อยกว่าอินโดนีเซียเพียงแห่งเดียวเท่านั้น) โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าการแข็งค่าอาจเหลือน้อยลง ทำให้ Fx Gain ที่ได้ลดน้อยลงตามไปด้วย

1.2.   Valuation (PER63F) ตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่แพงสุดในภูมิภาค ตลาดหุ้นไทยฟื้นจากจุดต่ำสุดช่วงกลางเดือน มี.ค. แบบไม่พักหายใจกว่า 442 จุด หรือ 45.6% จนมีค่า PER63F ที่ฝ่ายวิจัยประเมินสูงถึง 22 เท่า สูงสุดในภูมิภาค

  1. Fund Flow จากนักลงทุนในประเทศ การวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วน

2.1.   Valuation (PER63F) ล่าสุดที่ระดับ 22 เท่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา ขณะที่ PER63F เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 16.87 เท่า เท่านั้น

2.2.   Market Earning Yield Gap ตลาดหุ้นไทยล่าสุด แคบลงมาเร็วเหลือเพียง 3.98% (จาก 5.5% ในเดือน มี.ค.) และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 4.25% เนื่องจาก

ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาแรง บวกกับ Bond Yield ที่เริ่มทยอยขยับขึ้น ทำให้ความน่าสนใจในการ Search for yield เริ่มลดน้อยลงกว่าในอดีตมาก

สรุปตลาดหุ้นไทยแพงมากทั้ง 2 มิติ คือ เมื่อเทียบกับในอดีตและในภูมิภาค ขณะที่แรงขับเคลื่อนจากสภาพคล่องส่วนเกิน ทั้งจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน มีโอกาสลดน้อยถอยลง จาก Market Earning Yield ที่ไม่ค่อยจูงใจ ดังนั้นกลยุทธ์เน้นหุ้นดีดี (Dividend & Defensive) คือ หุ้นปันผล ชอบ TTW, BBL, LH หุ้นผันผวนต่ำ ADVANC, BDMS, CPALL, BCPG ผสมหุ้นที่มีกระแสเก็งกำไร ชอบ AMATA, STEC

Toppick วันนี้เลือก CPALL, STEC, AMATA

ECB อัดฉีดเงิน QE เพิ่ม, สัปดาห์หน้าติดตาม ประชุม Fed, ประชุม OPEC

ต่างประเทศเมื่อวานนี้มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.)ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)มีมติเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตร (QE) เพื่อรองรับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 (Pandemic Emergency Purchase Program: PEPP) โดยเพิ่มวงเงินอีก 6 แสนล้านยูโร (มากกว่าที่ตลาดคาดจะเพิ่ม 5 แสนล้านยูโร) ส่งผลให้มาตรการ PEPP มีวงเงินรวม 1.35 ล้านล้านยูโร และ ECB ยังได้ขยายระยะเวลามาตรการ PEPP ออกไปอีก จนถึงเดือน มิ.ย. 2564 จากเดิมที่มาตรการจะสิ้นสุดปลายปี 2563 (ดังรูป)     ทั้งนี้ ECB ปรับลดประมาณการ GDP ยุโรปปี 2563 ลงเหลือ -8.7%yoy จากเดิมที่คาดไว้ 0.8%yoy ส่วนอัตราเงินเฟ้อปีเดียวกันปรับลงเหลือ 0.3%yoy จากเดิมที่คาด 1.1%yoy

ผลต่อตลาดการเงิน คือ ค่าเงินยูโรแข็งค่า 0.9% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศสมาชิกยุโรปปรับลดลง อาทิเช่น Bond Yield 10 ปี สเปนลดลง 0.011%, Bond Yield 10 ปี อิตาลี และฝรั่งเศส ลดลงเฉลี่ยเท่ากัน 0.01%

2.) ฝั่งสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการกรณีว่างงาน (Initial Jobless Claims) สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอีก 1.88 ล้านราย สูงกว่าตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านราย ส่งผลให้นับตั้งแต่ COVID-19 ผู้ขอสวัสดิการว่างงานรวมกัน 42.65 ล้านราย โดยให้น้ำหนักคืนนี้รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน พ.ค. 2563 ตลาดคาดจะลดลง 8 แสนราย หนุนอัตราการว่างงาน ในเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้นเป็น 19.8% จาก 14.7% ในเดือนก่อน

ประเด็นต่างประเทศที่ให้น้ำหนักสัปดาห์หน้าหลักๆ คือ

   8 มิ.ย.ธนาคารโลก(World bank)จะออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก (World GDP) คาดว่ามีโอกาสที่จะปรับลด GDP ลงจากรอบ ม.ค. ที่ยังคงคาดเศรษฐกิจโลกขยายตัว 2.5%yoy (ยังไม่รวมผลกระทบ COVID-19) เป็นมาหดตัว เทียบกับ IMF ล่าสุดคาด World GDP ปี 2563 หดตัว 3%yoy

  9 -10 มิ.ย. ประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมัน OPEC+ ผ่าน Conference หลักๆ ให้น้ำหนักซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียจะตกลงขยายระยะเวลาตัดลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วันต่อไป อีก 1-3 เดือนตามที่คาดหรือไม่ (ปัจจุบันข้อตกลงคือ ตัดลการผลิตน้ำมทัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน พ.ค.-มิ.ย.63 และ 7.7 ล้านบาร์เรล dก.ค.- ธ.ค.63

   10-11 มิ.ย.ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) Consensus คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย   0.25%(ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์) ในรอบนี้ให้น้ำหนักประมาณการ (Economic Projection) และ Statement ของคณะกรรมการ Fed จะเป็นอย่างไร   และให้น้ำหนักรายละเอียดที่ Fed จะปรับเปลี่ยนการเข้าซื้อพันธบัตรในรูปแบบ Yield Curve Control (คาดคล้ายธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ)  

วันนี้ให้น้ำหนักการผ่อนคลายธุรกิจเฟส 4 คาดหนุนดัชนีความเชื่อมั่น CCI ดีต่อ CPALL

หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ COVID-19 ของไทยที่ยังรักษาระดับต่ำต่อเนื่อง (แม้รายงานผู้ติดเชื้อแต่ละวันที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดวานนี้ 17 ราย แต่มาจากต่างประเทศและสถานกักกันของรัฐทั้งหมด) โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายการเปิดธุรกิจต่อเนื่อง

ASPS ให้น้ำหนักในวันนี้ที่ประชุม ศบค.จะพิจารณาการผ่อนปรนระยะที่ 4 คาดก่อนจะเปิด12 ธุรกิจ (ดังรูป) ในช่วงกลางเดือน มิ.ย.

ผลจาการที่รัฐบาลทยอยผ่อนคลายธุรกิจตั้งแต่ระยะที่ 1-3 เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในช่วง 2Q-3Q63 และหนุนให้ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเห็นสัญญาณฟื้นตัว คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CCI) เดือน พ.ค. 63 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน และเพิ่ม 2.1%momอยู่ที่   48.2 จุด ถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นค้าปลีก โดยวันนี้เลือก CPALL (FV@B>78) เป็น Top pick ที่ได้ประโยชน์การบริโภคฟื้นตัวมากสุด จากสาขาครอบคลุม และยังมี Upside เข้าลงทุน

เงินเฟ้อไทย ติดลบเป็นเดือนที่ 3 ถือเป็นสัญญาณลบต่อเศรษฐกิจ

อัตราเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค. 2563 หดตัว -3.44%yoy (หดตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี 10 เดือน) และเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค (Technical Deflation) ซึ่งเป็นนิยามโดยอัตราเงินเฟ้อติดลบต่อนเองอย่างน้อย 3 เดือน แต่ถ้าพิจารณาจำนวนสินค้า พบว่าสินค้าส่วนใหญ่ยังมีราคาเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 2563 โดยสินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้นมี 195 รายการ แต่สินค้าที่มีราคาลดลงจำนวน 151 รายการ สาเหตุสำคัญที่เงินเฟ้อยังหดตัวมากจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานยังหดตัว -27.4%yoy (ราคาน้ำมับดิบดูไบหดตัว 54%yoy ในเดือน พ.ค. 2563), ผักและผลไม้หดตัว 8.8%, กลุ่มเคหสถานหดตัว -5.6% จากการปรับลดค่าไฟฟ้า และน้ำประปา ตามนโยบายรัฐ

โดยรวมทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไทยกว้างขึ้นจากเดือนก่อนหน้า อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน 0.5% หักลบด้วยเงินเฟ้อ) ล่าสุดอยู่ราว 3.94% ทำให้ยังเปิดช่องให้ใช้ ธปท. ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อในอนาคต สอดคล้องกับถ้อยแถลงการประชุม กนง. เดือน พ.ค. 2563 ยังส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติมได้อีกหากจำเป็น

RESEARCH DIVISION

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม

นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132

ภราดร เตียรณปราโมทย์

นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365

ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์

นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636

วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร

นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506

ภวัต ภัทราพงศ์

ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!