WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 26-5-2020dbs

สหรัฐหยุด-เก็งกำไรคลายล็อคดาวน์-เพื่อนบ้านบวกดี

  • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --

ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับตัวขึ้นดี คาดไทยคลายล็อคดาวน์ระยะ 3 ปิด +17.01 จุด ที่ 1320.98 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 54 พันลบ.ตลาดแกว่งขึ้นคล้ายภูมิภาค บางตลาดหยุด ญี่ปุ่นคลายล็อคดาวน์ นักลงทุนคาดหวังการคลายล็อคดาวน์จะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ไทยติดตามการกระตุ้นเพิ่มเติมจากภาครัฐ ขณะที่ปัจจัยลบสงครามการค้าจีน-สหรัฐยังมีอยู่ ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-รายย่อย ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสูงเป็น 195.6 พันลบ.

# ปัจจัยและกลยุทธ์:

SET มีแนวโน้มจะไปต่อ แม้ตลาดสหรัฐปิดทำการ แต่เก็งกำไรคลายล็อกดาวน์ทั่วโลก ปัจจัยบวกคือ ญี่ปุ่นเตรียมคลายล็อกดาวน์โตเกียว และอีก 4 เมือง ฮ่องกงไม่มีข่าวความรุนแรงเพิ่มขึ้น ด้านยุโรปดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมันดีขึ้น ส่วนอังกฤษจะคลายล็อกดาวน์ระยะ 2 ต้น มิ.ย.นี้ เช้านี้ดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าปรับขึ้นสดใส เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ส่วนไทยคาดการณ์สินเชื่อ เม.ย.โตดี 5.2% ด้านปัจจัยลบเดิมคือ จีนออกกฎหมายควบคุมฮ่องกง แต่สหรัฐแทรกแซง และจีนอาจถูกห้ามอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก มีการประท้วงรุนแรงที่ฮ่องกง รวมทั้งกังวลจีนไม่วางเป้า GDP ปีนี้ กลยุทธ์ระยะสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1340 จุด สัปดาห์นี้ซื้อขายดักหน้า MSCI มีผล 29 พ.ค.63 ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือเศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส IMF คาดว่าปีนี GDP โลก -3% และไทย -6% หนักกว่าวิกฤติการเงินปี 51 จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS และหุ้นที่ฟื้นตัวช้าจะเป็นสายการบิน โรงแรมเพราะยังไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในไทย ล่าสุดถึง มิ.ย.63 มีแต่การบินภายในประเทศ ทำธุรกิจได้ไม่เต็มที่ ต้องเว้นระยะห่าง ติดตามมาตรการคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 3 และการจัดการเรื่องเคอร์ฟิวส์อาจขยับเที่ยงคืน-ตี 4 และไม่ห้ามการชุมนุม สำหรับ MSCI หุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณ ได้แก่AWC, BAM, KTC แนวรับคือ 1250-1230 จุด และ แนวต้าน 1310-1320 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1300 จุด

# Stock Pick Today :

               TKN ธุรกิจต่างประเทศเร่งการเติบโต กำไร 2Q63 จะยิ่งมีการปรับตัวทางธุรกิจได้ดีขึ้นไปอีกจาก 1Q63 บริษัทได้มีแผนการรองรับผลลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไว้อยู่หลายมาตรการ เช่น การประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งปิดสาขาของเถ้าแก่น้อยแลนด์ที่ขาดทุน และจะมีการย้ายผลิตโรงงานใหม่ ที่มีสิทธิประโยชน์บีโอไอ อีกทั้งเริ่มร่วมมือกับพันธมิตรใหม่คือ Pan Orion เน้นไปที่ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะจีน แนะซื้อ ราคาพื้นฐาน 9.80 บาท

การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพกลับเป็นบวก แต่อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ แต่ยังให้น้ำหนักกับการลง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นบวก แต่เป็นแบบที่พร้อมจะมีการลง(สร้างฐาน?)ตามมา {“ปิดบวกเหนือ“SMA10วันต่อ (แต่ติดแนวต้านสำคัญและมีโครงสร้างขาลง ระยะกลางกดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้แกว่งแบบให้น้ำหนักกับการลง แต่ค่าบวก” (มี“SMA10หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1330 (หรือ 13401350) จุด {แนวตัดขาดทุน ต่ำกว่า 1300” (แนวรับย่อย 1250 / 1230, 1200”) จุด}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Inside Story

Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ

Company Guide : SEAFCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 6.61)

Flash Note : CPNRF (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 20.00)

TU (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 12.30)

Stock Focus : ADVANC (คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ ซื้อ)

ERW (คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ -เก็งกำไรตามรอบ/หรือทยอยซื้อสะสม)

Key Drivers TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ

  • สหรัฐ: ตลาดหุ้น น้ำมันและทองคำ ปิดทำการวานนี้

# ตลาดหุ้น น้ำมันและทองคำ ปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันหยุด Memorial Day

+ ญี่ปุ่น:เตรียมยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 4 จังหวัดก่อนกำหนดการ

# รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยจะผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกรุงโตเกียวและอีก 4 จังหวัดก่อนกำหนดการ หลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช้านี้ตลาดหุ้นโตเกียว ปรับตัวเพิ่มขึ้น รับข่าวข้างต้น

-/+ ฮ่องกง: ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 22.10 จุด หรือ +0.10% ปิดวานนี้ที่ 22,952.24 จุด

# ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวานนี้ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้า อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของรัฐบาลจีน

+ ตลาดหุ้นยุโรป: ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค.

# ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดหลายแห่งปิดทำการวันหยุด โดยตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค. และความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

+ อังกฤษไฟเขียวเปิดร้านค้า-ห้างสรรพสินค้าเดือนหน้า ตามแผนคลายล็อกดาวน์เฟสสอง

# นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยการตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆเริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลังจาก GDP ของอังกฤษ หดตัวลง 2% ในไตรมาส 1 ปีนี้ เพราะมีการล็อคดาวน์

- สหรัฐ-จีน : กังวลบ.สัญชาตจีนอาจถูกถอนจากตลาดหุ้นนิวยอร์ค และสหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนหลายแห่ง

# ตลาดเผชิญแรงกดดันอยู่แล้ว หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาให้ผ่านร่างกฎหมาย "HoldingForeign Companies Accountable Act" ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกเพิกถอนออกจากตลาด

# ตลาดยังถูกถ่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันของจีนอีก 33 แห่งเนื่องจากกระทำการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ

- จีน: ระงับกำหนดเป้าหมาย GDP ปีนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจจะแย่จากโควิด-19

# การที่จีนระงับการกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปีนี้ ได้ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์

+/- แนวโน้มสินเชื่อ เม.ย.63 เติบโตดีขึ้น แต่ยังต้องระวังการตั้งสำรองฯเพิ่ม

# ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทยมีสัญญาณเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงต้นไตรมาส 2/2563 โดยเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือนเม.ย. 2563 อาจเติบโต 5.2% YoYเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีแนวโน้มขยายตัวสูงตลอดทั้งไตรมาส 2/2563 ในกรอบประมาณ 5.0-6.0% ขยับขึ้นจากที่ขยายตัว 4.0% ในไตรมาสที่ 1/2563 ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น

# นอกจากนี้ อีกประเด็นเฝ้าระวัง จะอยู่ที่หนี้ที่สถาบันการเงินเข้าช่วยดำเนินการปรับโครงสร้าง ซึ่งจากยอดรวมหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน 6.12 ล้านล้านบาท (ณ วันที่ 15 พ.ค.63) นั้น ประเมินว่าส่วนของธนาคารพาณิชย์อาจคิดเป็นประมาณ 30% ของสินเชื่อรวม

# ผลกระทบ: แนวโน้ม 2Q63F กลุ่มธนาคาร การลดดอกเบี้ยเป็นลบต่อ NIM ใน 2Q63F ส่วนการตั้งสำรองฯ (ECL) ใน2Q63F คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมใกล้เคียงกับ 1Q63 แนะนำ ซื้อKBANK ราคาพื้นฐาน 108.00 บาท และแนะนำ ถือ BBL ราคาพื้นฐาน 104.00 บาท โดยมี TISCO เป็นหุ้น Top pickราคาพื้นฐานเป็น 87 บาท

+ สภาพัฒน์ชี้แจงแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมหลังได้รับผลลบจากโควิด-19

# เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ชี้แจงแนวทางการเสนอโครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)กรอบวงเงิน 400,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้มีการเสนอโครงการเข้ามาภายในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ และจากนั้นจะมีการประชุมหารือ ก่อนส่งให้สศช.พิจารณา และเสนอทางคณะอนุกรรมการฯ และคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาจัดทำความเห็นก่อนนำเสนอ ครม.ภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้ และเริ่มจ่ายเงินไปยังโครงการต่างๆได้ภายในก.ค.นี้ ซึ่งต้องเป็นโครงการที่ดำเนินการได้เสร็จภายในปีงบประมาณ 64

+ ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

# ศบค.เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 2 รายทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสม 3,042 ราย ผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น 7 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วรวม 2,928 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 57 ราย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 57 ราย

+/- MSCI : มีผลปลายสัปดาห์นี้ 29 พ.ค.63 แนะเก็งกำไรก่อนกองทุนต่างประเทศจะเริ่มปฏิบัติการ

# (-) ไทยถูกปรับลดน้ำหนักลงสู่ 2.36% จาก 2.39%

# (+) สำหรับ MSCI Thailand Index หุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณ ได้แก่ AWC, BAM, KTC

# (-) ขณะที่หุ้นที่หลุดจากการคำนวณ คือ BANPU

# (+) หุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ BTS, MTC, RATCH

# (-) ส่วนหุ้นที่ถูกปรับลดน้ำหนัก คือ GULF, CPALL, PTT, EA, SCC

# (-) สำหรับ MSCI Global Small Cap Index หุ้นที่หลุดจากการคำนวณ ได้แก่ ANAN, BEAUTY, BEC, ERW, GGC,ITD, LPN, PLAT, PSL, GLOBAL, SVI, TTA, U, UNIQ, UV, WORK

# (+) แต่ BANPU กลับมาถูกเข้ามาคำนวณใน MSCI Global Small Cap Index แทน

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!