- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 May 2020 11:02
- Hits: 3043
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-5-2020
กลยุทธ์วันนี้ >> Momentum Trading and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวบวกได้กว่า 10 จุดระหว่างวันจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสก่อนที่จะมีแรงขายและทำให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบเล็กน้อย 1.11 จุด ณ สิ้นวัน โดยกลุ่มหลักที่ถ่วงตลาดคาดกลุ่มค้าปลีกและขนส่ง สถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 3.35 พันลบ. (และ Short Index Futures 896 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,310-1,330 จุด แม้ตลาดจะยังให้น้ำหนักเชิงบวกกับการ Reopen Economy แต่ระยะสั้นถูกกดดันหลังวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมาย Holding Foreign Companies Accountable Act ซึ่งอาจทำให้บริษัทจีนต้องถูก Delist จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนตึงเครียดมากขึ้นในระยะหลัง ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูง 2.44 ล้านคนในสัปดาห์ทีผ่านมา ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ในฝั่งบ้านเราคือตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. ระยะสั้นเรายังแนะนำกลยุทธ์ Trading ตามโมเมนตัมของดัชนีและเน้น Laggard Play เช่นกลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ อสังหาฯ รับเหมาฯ เป็นต้น ส่วนระยะกลาง-ยาวยังคงมองว่า Valuation ปัจจุบันยังสูงเกินไปโดยมี PER2020-2021 ที่กว่า 19 เท่า และ 15.7 เท่า ตามลำดับ จึงยังรอจังหวะพักฐานก่อนพิจารณาเข้าสะสมอีกครั้ง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นตามโมเมนตัมของตลาด//ทยอยสะสมและทำ DCA ในช่วงตลาดปรับฐาน
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BCH, CPF, INTUCH, KCE, OSP
หุ้นเด่นวันนี้: CHG
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.70 บาทมีโอกาสปรับขึ้น
- แนวโน้มกำไร 2Q20 คาดลดลง Q-Q เป็น bottom ของปีเพราะการ lockdown เดือน เม.ย. (รายได้ผู้ป่วยเงินสด -20% Y-Y) แต่กำไรยังโต Y-Y เพราะฐานปีก่อนต่ำ
- เดือน พ.ค. เริ่มดีขึ้นหลังคลายล็อคดาวน์ ผู้ป่วยกลับมาใช้บริการมากขึ้น รายได้จากประกันสังคม (32% ของรายได้รวม) แข็งแกร่งจากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นคน (+3% Y-Y) และการปรับเพิ่มค่าหัว 6-7% ตั้งแต่ต้นปี
- ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเป็นเลขสองหลัก ตั้งเป้าจุฬารัตน์ 304 และ RPC คุ้มทุนปีนี้ aggressive กว่าสมมติฐานของเรา เราขอดูตัวเลข พ.ค.-มิ.ย. ก่อนปรับขึ้น
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคเล็กน้อย US$18ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้และไต้หวัน US$87ล้านและ US$6ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลออกจากไทยสูงสุด US$105ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะไหลออกสลับไหลเข้าบางๆ โดยนักลงทุนเริ่มกลับมากังวลต่อสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่เริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังวุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมาย Holding Foreign Companies Accountable Act
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) CK เราปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 40% เหลือ 689 ลบ. -28% Y-Y โดยปรับลดส่วนแบ่งกำไรของบ.ร่วมลง (ส่วนใหญ่มาจาก BEM, CKP) เพราะ BEM ถูกกระทบจากการ lockdown (เดือน เม.ย. ผู้ใช้รถไฟฟ้า -74% Y-Y ปริมาณรถบนทางด่วน -50% Y-Y) ส่วน CKP ถูกกระทบจากภัยแล้งในช่วง 1H20 แนวโน้ม 2Q20 เชื่อว่าจะพลิกเป็นกำไรเพราะจะได้เงินปันผลจาก TTW ราว 232 ลบ. และฟื้นต่อใน 2H20 จากทั้ง BEM ที่และ CKP ดีขึ้น ธุรกิจรับเหมามีรายได้ต่อเนื่องจากโครงการเดิม แต่ Backlog ปัจจุบันต่ำ 3.4 หมื่นลบ. รอเซ็นงานอาคารรพ.จุฬาภรณ์ 4.2 พันลบ. และคาดหวังงานประมูลที่จะเปิดในปีนี้เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม (9 หมื่นลบ. ขาย TOR มิ.ย.) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 1.24 แสนลบ. รถไฟทางคู่ 2 เส้น 6.2 หมื่นลบ. ทางด่วนย่างกุ้ง 1.2 หมื่นลบ. ลดเป้าลงเป็น 22 บาทจาก 24 บาท (SOTP) ราคาหุ้นเทรด PBV เพียง 0.9 เท่าและต่ำกว่า NAV ที่ถือในบ.ลูกที่ 39.50 บาท ยังแนะนำซื้อ
(+) CPN กลับมาเปิดห้างทั้งหมดในไทยตั้งแต่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ร้านค้าทยอยเปิดให้บริการ 80-90% ของพื้นที่ ส่วนที่ยังไม่เปิดคือโรงหนัง ฟิตเนส เป็นต้น ปริมาณคนเดิน (Traffic) คิดเป็น 40-60% ของระดับปกติ และจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ในส่วนของค่าเช่ายังต้องให้ส่วนลดร้านค้าต่อไปตามสถานการณ์จนถึงสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันเน้นลดรายจ่าย ลดงบลงทุนปีนี้ และทบทวนแผนลงทุนระยะ 5 ปีเพื่อรักาษสภาพคล่อง เรายังคงคาดกำไรปีนี้ 7 พันลบ. -33% Y-Y และฟื้นปีหน้า +27% Y-Y แนะนำซื้อจากศักยภาพที่แข็งแกร่งในระยะยาว ราคาเป้าหมาย 65 บาท
(+) SC แนวโน้มยอด Presales ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปลาย มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่ระยะต่อมาการขายฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะเดือนพ.ค. สะท้อนยอด Presales 5MTD ขยายตัว 7% Y-Y ที่ 4.9 พันลบ. หากพิจารณา 2Q20 ยอดขาย QTD ทำได้แล้ว 2.9 พันลบ. ดีกว่า 1Q20 ที่ 2.8 พันลบ. และ +68% Y-Y มาจากโมเมนตัมการขายแนวราบที่โดดเด่น โดยเฉพาะกลุ่ม Mid-to-High End ผู้บริหารมองภาพรวมตลาดแนวราบยังไปได้ดีต่อเนื่องจาก Real demand แต่คอนโดอาจใช้เวลา 2-3 ปีจึงทบทวนการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ เราคงประมาณการกำไรปีนี้ 1.6 พันลบ. -22% Y-Y คงเป้า 2.30 บ. ทยอยสะสม
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 101.78 จุด ปิดที่ 24,474.12 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมาย Holding Foreign Companies Accountable Act ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ถูกกดดันจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 2.44 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 2.40 ล้านราย
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่อัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนจะเป็นไปอย่างช้าๆ
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม จากความกังวลว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 33.92 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ และกลุ่มโอเปกปรับลดการส่งออกน้ำมันลง 6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. รวมถึงความคาดหวังว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันจะฟื้นตัว หลังรัฐบาลของประเทศต่างๆ เริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 30.2 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 1,721.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1112.32 / +-
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 พ.ค. - ไทย: ส่งออก-นำเข้า (เม.ย.)
25 พ.ค. - ไทย: Mfg Production Index, Capacity Utilization(เม.ย.)
- ฮ่องกง: ส่งออก-นำเข้า (เม.ย.)
28 พ.ค. - สหรัฐ: Fed Beige Book, 1Q20 GDP
- ไต้หวัน: 1Q20 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
29 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะศก.เดือน เม.ย.
31 พ.ค. - จีน: Manufacturing & Non-Mfg. PMI (พ.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web