- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 May 2020 15:46
- Hits: 4857
บล.เอชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-5-2020
กลยุทธ์การลงทุน
วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
คาด GDP Growth งวด 1Q63 ที่จะประกาศเช้านี้น่าจะติดลบ เพิ่มโอกาสที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์นี้ ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนประกาศออกมาแล้ว 94.6% พบว่าหดตัว 58%YoY ทำให้ต้องปรับลดประมาณการ สถานการณ์แวดล้อมดังกล่าวน่าจะทำให้ SET Index ปรับฐาน แนะนำปรับพอร์ตโดย สลับจากหุ้น KBANK เป็น DIF ส่วน หุ้น Top Picks วันนี้เลือก COM7 (FV@B 23.50), CPN (FV@B 66) และ PTT (FV@B 42)
SET Index 1,280.76 เปลี่ยนแปลง (จุด) 0.36 มูลค่าการซื้อขาย (ล้านบาท) 50,660
ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย …จับสัญญาณวันนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปิดตัวแบบไร้น้ำหนัก หลังจากขาดประเด็นบวกใหม่ อีกทั้งนักลงทุนยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอย่าง การรายงาน GDP Growth ไทยและ การประชุม กนง.ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ย หรือไม่ จึงทำให้ตลาดหุ้นผันผวนและปิดตัวที่ระดับ 1280.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด หรือ +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 5.06 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มที่หนุนตลาดหลักๆ คือ กลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTTEP(+2.14%) SPRC(+9.30%) GPSC(+0.35%) TOP(+4.24%) กลุ่มปิโตรเคมีอย่าง IVL(+0.89%) PTTGC(+3.73%) แต่โดนกดดันจากกลุ่มค้าปลีกเช่น CPALL(-1.07%) CRC(-4.86%) RS(-6.25%) และกลุ่มธ.พ.อาทิ AWC(-2.85%) CPN(-1.57%) LH(-2.27%) รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่อย่างเช่น AOT(-1.26%) SCC(-1.47%) และ SCB(-1.12%) เป็นต้น
เช้านี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP Growth ในงวด 1Q63 ซึ่งถูกคาดหมายว่าด้วยผลกระทบจาก Covid-19 น่าจะทำให้เห็นการหดตัวเฉลี่ยราว 4% YoY ขณะที่คาดว่าจะเห็นทิศทางในงวด 2Q63 อ่อนตัวในอัตราที่แรงกว่าและน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยจะทำการปรับประมาณการ GDP Growht สำหรับปี 2563 ซึ่งเดิมคาดว่าจะหดตัว 1.4% ลงอีกครั้งหนึ่ง หลังพบว่าผลกระทบจาก Covid-19 แรงกว่าที่ประเมินไว้ตอนต้น อีกทั้งน้ำหนักของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่าน พ.ร.ก. 3 ฉบับฯ ก็ยังไม่เห็นผลที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ชัดเจน โดยที่ผ่านมาทำหน้าที่เป็นแรงพยุงเป็นหลัก สำหรับการประชุม กนง. ที่จะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 20 นี้ เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 0.75% มาอยู่ที่ 0.50% ทั้งนี้ความคาดหวังดังกล่าวได้ถูกสะท้อนผ่านตัวเลข Bond Yield 1 ปี ที่ล่าสุดปรับลดลงไปอยู่ที่ 0.567% รอล่วงหน้า ซึ่งบนความคาดหวังดังกล่าวอาจสร้างแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นเหตุผลทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดหุ้น KBANK ออกจากพอร์ต จำลองเช้านี้ โดยให้เข้าไปพักเงินอยู่ใน DIF แทน ส่วนอีกประเด็นที่สำคัญคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งล่าสุดได้ประกาศออกมาแล้ว 94.6% ของ Market Cap. พบว่า ฐานกำไรสุทธิงวด 1Q63 อยู่ที่ระดับต่ำเพียง 1.11 แสนล้านบาท ลดลง 49% QoQ และ ลดลง 58% YoY นับเป็นฐานกำไรที่ต่ำกว่าคาดมาก ทำให้ประมาณการ EPS ของบริษัทจดทะเบียน น่าจะต้องถูกปรับบลดลงจาก 72.6 บาท/หุ้น มาอยู่ที่บริเวณ 66.2 บาท/หุ้น สถานการณ์แวดล้อมดังกล่าว น่าจะสร้างแรงกดดันต่อ SET Index ให้ปรับฐานลงต่อ ส่วนหุ้นที่มีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดฯ ได้น่าจะเป็นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี โดยมีราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเป็นแรงผลักดัน ซึ่งในพอร์ตจำลองของฝ่ายวิจัยได้มีหุ้น PTT รวมถึ่ง SCC ซึ่งมีฐานธุรกิจในปิโตรเคมีเป็นองค์ประกอบหลักอยู่แล้ว สำหรับ Top Pick วันนี้เลือก CPN, COM7 และ PTT
ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นต่อ หลังตัวเศรษฐกิจจีนดี เปิดเมืองในหลายประเทศ PTT, PTTEP เด่น
ราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงต่อ (ราคาน้ำมัน Brent เพิ่มขึ้น 4.4% และ Dubai 2.5%) ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากฝั่ง Demand 1.)หลายประเทศเริ่มทยอยกลับมาดำเนินธุรกิจมากขึ้น (Reopen) หนุนความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัว สะท้อนจากปลายสัปดาห์ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. 2563 พลิกกลับมาขยายตัว 3.9%yoy พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรงในรอบ 2 เดือน หลังจากที่หดตัวแรงในเดือ ก.พ.-มี.ค. 3.แหล่งข่าวจาก Bloomberg รายงานว่าการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เดือน เม.ย. คือ 11.81 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. 10.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน เช่นเดียวกับฝั่ง Supply น้ำมันในสหรัฐ สัปดาห์ล่าสุด ปรับลดลงราว 36 แท่นลงมาอยู่ที่ 258 แท่น ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยรวม ASPS เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบโลกมีโอกาสปรับขึ้นต่อจากปัจจัยหนุนดังกล่าวบวกต่อหุ้นพลังงาน โดยแนะนำลงทุน PTTEP (FV@B>100) และ PTT (FV@B>42)
ส่วนกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ASPS คาด Spread โตรเคมีน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือน เม.ย. โดยคาด 1Q63 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 จากนี้ไปน่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ในทิศทางขาขึ้นช่วงที่เหลือของปี ยังคงเลือก IVL (FV@B>37)
เช้านี้รอดูตัวเลข GDP งวด 1Q63 ว่าจะหดตัวแรงพอที่จะทำให้ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading indicator ไทย
1)ฟื้นฟูกิจการ โดยไม่นำเข้าสู่กระบวนการทางศาล
2)ฟื้นฟูกิจการ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลาง และ
กลยุทธ์ลงทุนเน้นหุ้นได้ Sentiment เปิดเมือง ชอบ CPN, COM7 และ PTT
แต่ปัจจัยแวดล้อมที่หนุนตลาด และช่วยกำหนดกลยุทธ์ในยามที่ Valuation ตลาดเริ่มตึงๆ มีดังนี้
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน, ปัจจัยทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506
SET vs Sector Return 2019 SET vs Sector Return 2020ytd
ที่มา : ฝ่ายวิจัย ASPS ที่มา : ฝ่ายวิจัย ASPS
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web