- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 May 2020 12:26
- Hits: 3249
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 13-5-2020
“กังวลติดเชื้อเพิ่มรอบสอง แต่ราคาน้ำมันปรับขึ้นดี”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GFPT (จากถือเป็นซื้อ), SYNTEC (จาก FV เป็นซื้อ), IVL (จากถือเป็น FV)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับขึ้น คาดคลายล็อคดาวน์ออกมาดี ปิด +12.39 จุด ที่ 1299.69 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 59 พันลบ. ตลาดปรับขึ้นสวนกับภูมิภาคที่ปรับลง มีการเก็งกำไรหุ้นบางตัวที่ผลประกอบการ 1Q63 ออกมาดีกว่าคาด เช่น BANPU แต่กลับมีแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงค์ เหมือนกับ SETพยายามจะไปทดสอบระดับ 1300 จุดไปให้ได้ แต่ไม่ผ่าน ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสูงขึ้นอีกเป็น 176 พันลบ.แล้ว
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET ช่วงสั้นระวังแรงขายทำกำไร ยังกังวลติดเชื้อรอบ 2 เพิ่ม แต่ราคาน้ำมันปรับขึ้นดี ปัจจัยบวกคือ จีนมีเงื่อนไขบวกต่อการเจรจาการค้า ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐถึง 79 รายการ เป็นเวลา 1 ปี ราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้นดี หลังซาอุฯลดกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน และไทยยังจัดการโควิด-19 ได้ดี ผู้ติดเชื้อเพิ่มน้อย ด้านปัจจัยลบคือ นายแพทย์ใหญ่สหรัฐเตือนการติดเชื้อรอบ 2 อย่างรุนแรง หากเปิดเมืองแบบไม่เหมาะสม ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ เม.ย.เป็น -0.8% ต่ำสุดตั้งแต่ ธ.ค.51 ส่วนจีนก็มี CPI ต่ำกว่าคาด นักลงทุนกลับเข้าหาทองคำ เช้านี้ไม่สดใส ทั้งตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าปรับลง ส่วน BANPU แนะว่าควรระมัดระวัง เพราะกำไรที่เพิ่มใน 1Q63 มาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่นับยังประสบภาวะขาดทุน กลยุทธ์ระยะสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1285-1310 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q63 ที่ทยอยประกาศจะออกมาไม่สดใส และเม.ย.แย่ที่สุดจาก โควิด-19 จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,STEC,DELTA กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-หุ้นปรับลงมากไป กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS
ระยะนี้เก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI คือ AWC,KTC,TOA ส่วนหุ้นออกเป็นลบคือ BANPU สำหรับหุ้นเข้าSET50- BPP,TTW SET100-SISB, RBF (ข่าวหุ้น) และอาจมีการเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากการเปิดห้าง 17 พ.ค. (ทราบผล 15 พ.ค.) เช่นCPN,CPNREIT,CRC,COM7,HMPRO,DOHOME,GLOBAL แต่หุ้นที่ฟื้นตัวช้าจะเป็นสายการบิน โรงแรม เพราะยังไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในไทย มีแต่การบินในประเทศ แนวรับคือ 1250 หรือ 1230 จุด และ แนวต้าน 1310-1320 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1285 จุด
# Stock Pick Today :
TASCO คาดเห็นภาพฟื้นตัวชัดเจนใน 2Q63 โดยเฉพาะเดือน เม.ย.และพ.ค.63 ที่มีความต้องการสินค้าจากจีนและไทยมาก และมีส่วนต่างกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นจากราคาขายยางมะตอยที่สูงขึ้นดี เราคาดว่าอัตราการเติบโตกำไรตลอดปีนี้อยู่ในเกณฑ์ดีคือ 12% ขณะที่มีวัตถุดิบเพียงพอ, KBC กลับมาดำเนินงานได้อย่างปกติ และได้รับประโยชน์จาก IMO 2020 คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 22.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 63 ที่ระดับ 17.6 เท่า
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพยังเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ แต่ระยะกลางยังเป็นโครงสร้างขาลงกดดัน ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators เป็นบวก แบบพร้อมเปลี่ยนเป็นลบตามมา {“ปิดบวกเหนือ“SMA10วัน”ต่อ (แต่ยังติดแนวต้านสำคัญ และมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แรงหนุนของ“SMA10” / แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1310 – 1320 จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1285” (แนวรับย่อย “1250 / 1230, 1200”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : AP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.00)
BOFFICE (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 14.70)
GFPT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 14.40)
IVL (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 24.00)
TEAMG (ซื้อ – ราคาพื้นฐาน 2.82)
Flash Note : BBL (ถือ -ราคาพื้นฐาน 104.00)
BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 21.00)
CPALL (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 79.00)
FTREIT (ถือ -ราคาพื้นฐาน 15.00)
KCE (ขาย -ราคาพื้นฐาน 10.50)
NOBLE (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 13.83)
OSP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 48.00)
SC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 2.08)
SPALI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 14.60)
SPRC (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 3.80)
SYNTEC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 1.56)
TKN (ถือ -ราคาพื้นฐาน 6.80)
TASCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 22.00)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-สหรัฐ: นายแพทย์ออกมาเตือนการระบาดโควิด-19 รองสอง หากเปิดเศรษฐกิจเร็วไป
# นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว เตือนว่า รัฐต่างๆ ในสหรัฐจะเผชิญกับผลกระทบร้ายแรงตามมา หากมีการเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
-สหรัฐ: ดัชนีราคาผู้บริโภคดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย.ต่ำสุดตั้งแต่ปี 51
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.
+ จีน: ก.คลังจีนเปิดเผยรายชื่อสินค้าของสหรัฐจำนวน 79 รายการที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า
# กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยรายชื่อสินค้าของสหรัฐจำนวน 79 รายการที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งสินค้าเหล่านี้รวมถึงแร่หายาก คาดว่าจะเป็นเพราะคือหนึ่งในมาตการที่จีนทำกับสหรัฐไว้ ตอนเจรจาการค้า
-/+ จีน: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เม.ย.63 ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวลดลง
# สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7% เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวลดลง ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 457.21 จุด หลังแพทย์ใหญ่ทำเนียบขาวเตือนโควิด-19 ระบาดรอบสอง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากนายแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานของทำเนียบขาวเตือนว่า ไวรัสโควิด-19 อาจแพร่ระบาดเป็นรอบที่สองในสหรัฐ หากมีการเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ
+ น้ำมัน : WTI ปิดบวก 1.64 ดอลล์ ขานรับซาอุฯลดกำลังการผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า การเริ่มเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศจะช่วยให้ความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวขึ้นด้วย
- • ทองคำ: ปิดบวก $8.8 จากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย,ดอลล์อ่อนหนุนตลาด
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลที่ว่าไวรัสโควิด-19 อาจจะแพร่ระบาดรอบสอง
- • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index)เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+/- ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม แต่เกาหลีใต้กลับมาระบาดรอบ 2 หลังคลายล็อก
# ศบค. เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 2 รายทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 3,017 ราย ขณะที่มีผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำให้มีจำนวนผู้รักษาหายแล้วรวมทั้งสิ้น 2,798 ราย โดยวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 56 ราย
+ ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายและปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย
# ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย จำนวน 88,452.5979 ล้านบาท เพื่อไปตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา 3 วาระรวดในวันที่ 28พ.ค.63 ต่อจากนั้นจะเสนอที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณา และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายซึ่งคาดว่าจะประกาศบังคับใช้ได้ภายในกลางเดือน มิ.ย.63
# ครม.เห็นชอบปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จำนวน 40,325.6 ล้านบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19
-ผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้ประชากรในประเทศมีรายได้ลดลง
# ทีดีอาร์ไอ ระบุสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชากรในประเทศมีรายได้ลดลง ทำให้การบริโภคต่ำลงไปด้วย โดยการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจราวเดือนละ 65,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.4% ต่อเดือน ดังนั้นจึงควรค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้
-BANPU: ระวังการเก็งกำไร ธุรกิจหลักยังขาดทุน
# แม้ประกาศกำไรสุทธิ 1Q63 เป็น 1.7 พันล้านบาท ดีขึ้นมากเทียบกับ y-o-y ที่มีกำไรสุทธิ 905 ล้านบาท หรือ +89% แต่กลับมีรายการพิเศษเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากเป็น +3.3 พันล้านบาท เทียบ y-o-y เป็น -0.5 พันล้านบาท เกิดจากบาทอ่อนค่ามากระหว่างไตรมาส หากไม่นับ 1Q63 เป็นขาดทุนดำเนินงาน -1.6 พันล้านบาท เทียบ y-o-y ที่ +1.4พันล้านบาท ธุรกิจหลักคือ ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติยังอ่อนลง ตามราคาขาย แต่มีธุรกิจไฟฟ้ามาช่วยชดเชยได้บ้าง
# คำแนะนำ ระมัดระวังการเก็งกำไร ปัจจัยลบคือ ค่าเงินบาทใน 2Q63 กลับแข็งค่าราว 2% ในขณะนี้ แต่ธุรกิจหลักยังอ่อนTrailing P/E หาค่าไม่ได้ เดิมเป็นขาดทุน แต่ผ่ายวิจัยฯ ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated) สำหรับ BANPU
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web