- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 May 2020 15:12
- Hits: 2016
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 11 พ.ค.63 ปิด +21.28 จุด อยู่ที่ 1,287.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,801 ลบ.ต่างชาติขาย 1,360 ลบ. สถาบันซื้อ 4,055 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 369 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,198 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTTGC,CPF,BTS,BBL,BGRIM และมียอดขายหุ้น PTT,CPALL,INTUCH,TOP,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 785 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTTGC,CPALL,GPSC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 592 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 117,125 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,344 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -0.45 %, S&P500 +0.01 % ,Nasdaq +0.78 % ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและพลังงาน ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ เทคโนโลยีปรับเพิ่มขึ้น นักลงทุนยังกังวลต่อความเสี่ยงการระบาดรอบ 2 หลังเริ่มเปิดระบบเศรษฐกิจ ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน เรือสำราญ กาสิโน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.73 % หุ้นกลุ่มธนาคาร เหมืองแร่ กลุ่มการเดินทางปรับลดลง จากความกังวลการระบาดรอบที่ 2 หลังหลายประเทศในยุโรปเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์
Market View
- • ภาวการณ์การลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป วานนี้ชะลอตัว จากความกังวลการระบาดรอบ 2 หลังจีน อู่ฮั่นมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 6 ราย , เกาหลีใต้และเยอรมันก็มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น โดยวานนี้ ฝรั่งเศส สเปน เริ่มคลายล็อกดาวน์ และอังกฤษ นายก ฯ บอริส จอห์นสัน ได้เสนอแผนคลายล็อกดาวน์เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ปิด -2.4 % จากความกังวลอุปสงค์ความต้องการใช้ชะลอตัว แม้ว่าซาอุ อารามโคจะประกาศลดกำลังการผลิตใน มิ.ย. เพิ่มอีก 1 ล.บาร์เรล/วัน จากข้อตกลงโอเปกพลัส ส่งผลให้กำลังการผลิตของซาอุ ฯ จะลดลงสู่ระดับ 7.492 ล.บาร์เรล/วัน ส่วนประเด็นข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีน เฟส 1 นั้นยังต้องติดตามท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังที่ปรึกษาการค้าสหรัฐ ปีเตอร์ นาร์วาโร พยายามกล่าวหาจีนเป็นแหล่งแพร่กระจายไวรัส สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +1.68 % ได้แรงซื้อจากสถาบันซื้อ 4 พัน ลบ. หลังรัฐบาลเตรียมแผนคลายล็อกเฟส 2 ใน 15 กิจกรรม ในการประชุม ศบค. วันศุกร์นี้ ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาคนว่างงาน ขณะที่ PTT รายงานขาดทุนใน Q1/63 ที่ 1.5 พัน ลบ. โดยยังได้กำไรจากเฮดจิ้ง 8.47 พัน ลบ. ช่วยหนุน วันนี้ติดตาม CPALL จะรายกำไร Q1/63 คาดที่ 5.7 พัน ลบ. -1 % YoY, -8 % QoQ
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,270 – 1,277 แนวต้าน 1,290 – 1.300 โดย Upside ยังจำกัดจาก Valuation ของดัชนีที่สูง ( Forward P/E 17.9 X) และอยู่ระหว่างรอรายงานผลประกอบการ บจ. Q1/63 แนะนำขายทำกำไรหากไม่ผ่านแนวต้าน 1,300 จุด
- • ACE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.36 บาท) แนวโน้มผลประกอบการปี 63 จะดีขึ้นต่อเนื่องจากการนำเงิน IPO ไปชำระคืนหุ้นกู้เดิมวงเงิน 1.45 พันล้านบาท ช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 100 ล้านบาท/ปี และเจรจากับธนาคารอีก 2 แห่ง ที่ปล่อย Project Loan ในการลด Funding Cost ขณะที่มองข้ามไปข้างหน้าฐานกำไรจะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้งในปี 64-65 จากการ COD โครงการใน Pipeline 19 โครงการ ทำให้กำลังผลิตรวมโตเท่าตัวเป็น 421 MW ส่วนในระยะสั้นมี Upside จากการเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมถึงมีปัจจัยบวกจากการลุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET100
- • TFG* (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.76 บาท) เป็นหุ้นในกลุ่มผู้ผลิต/จำหน่ายสัตว์ปีกและสุกรอีกหนึ่งบริษัทที่ตลาดประเมินกำไรไตรมาส 1 ขยายตัวโดดเด่นโดย Consensus ประเมินกำไรสุทธิของ TFG ที่ 419 ลบ. ขยายตัว +105%YoY +229%QoQ ปัจจัยหนุนผลประกอบการไตรมาส 1 มาจากราคาขายหมู/ไก่ที่ยังทรงตัวในระดับสูงจากภาวะอุปทานที่ยังไม่ฟื้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำตามราคาวัตถุดิบอย่างถั่วเหลืองและข้าวโพดที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นทิศทางค่าเงินบาทในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันก็อ่อนค่า ในส่วนของการประเมินกำไรสุทธิปี 2563-2564 ตลาดประเมินกำไรของ TFG ไว้ที่ระดับ 1.76 พัน ลบ. และ 1.95 พัน ลบ. ขยายตัว +22.7%YoY ในปี 2563 และ +10.8%YoY ในปี 2564
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures มิ.ย.ปิด -0.60 ดอลลาร์ อยู่ที่ 24.14 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด -1.34 ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.63 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลการระบาดรอบ 2 ในจีน เกาหลีใต้ กระทบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน แม้ว่าซาอุ อารามโค จะประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 mb/d ใน มิ.ย. นี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตของซาอุลดลงอยู่ที่ระดับ 7.492 mb/d
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย.ปิด -15.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,698 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนหันไปถือครองดอลลาร์เพิ่มขึ้น จากความกังวลการระบาดไวรัสรอบ 2 ส่งผลให้ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.51% อยู่ที่ 100.2466
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -77.5 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -42.2 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -18 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -17.2 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.199 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -40 จุด อยู่ที่ 474
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.713 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.179 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่า อยู่ที่ 7.1102/USD
(-) Chesapeake Energy Corp. บริษัท Shale Oil สหรัฐเข้าสู่กระบวนล้มละลาย
(0) Fetco เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 42 % อยู่ที่ 80.40 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว กลุ่มที่น่าสนใจ คือ อาหารเครื่องดื่ม ส่วนกลุ่มที่ไม่น่าสนใจ คือ ท่องเที่ยวและสันทนาการ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
11 พ.ค. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและประเมินภาวะเศรษฐกิจและทิศทางลงทุนไตรมาส 2/63
12 พ.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
14 พ.ค. กระทรวงการคลัง เปิดพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น"เราไม่ทิ้งกัน"5 หมื่นล้านบาท อายุ 5 ปี, อายุ 10 ปี
15 พ.ค. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เริ่มโอนเงินเยียวยาให้เกษตรกรกลุ่มแรก
15 พ.ค. กระทรวงการคลัง ปิดรับเรื่องร้องทุกข์มาตรการเยียวยา 5,000 บาท
ต่างประเทศ
12 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เม.ย.)
CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (เม.ย.)
13 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)
15 พ.ค. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web