- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 May 2020 11:18
- Hits: 1999
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-5-2020
กลยุทธ์วันนี้ >> Short-Term Trading//Wait to Accumulate and DCA on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าที่เราและตลาดคาดปิดบวกถึง 21.28 จุด ณ สิ้นวัน โดยหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นดียกแผงทั้งกลุ่มค้าปลีก โรงไฟฟ้า ปิโตรฯ เป็นต้น สถาบันในประเทศซื้อสุทธิเร่งตัวขึ้นเป็นกว่า 4 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1.4 พันลบ. (และ Long Index Futures เล็กน้อย 600 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะตัว Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,275-1,295 จุดหลังจากดีดตัวขึ้นแรงวานนี้ ตลาดเริ่มไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนหลังจากเก็งและคาดหวังต่อการ Reopen Economy ของหลายประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตามเริ่มมีความกังวลเรื่องการระบาดระลอกที่ 2 มากขึ้นหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้และจีนเริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากคลาย Lockdown เช่นเดียวกับไทยที่อยู่ระหว่างพิจารณาผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 (มีโอกาสให้เปิดห้างสรรพสินค้าได้) นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนซึ่งกลับมาเป็นประเด็นมากขึ้น เรายังประเมิน Upside ของดัชนีจำกัดโดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER 17.4 เท่าสูงเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาค จึงยังแนะนำให้รอการพักฐานในเดือนนี้เพื่อสะสมหุ้นรอบใหม่ ส่วนระยะสั้นแนะนำ Trading ตามการแกว่งตัวของดัชนี
กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นตามการแกว่งตัวของตลาด//ทยอยสะสมและทำ DCA ในช่วงตลาดปรับฐาน
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BCH, CPF, INTUCH, KCE, OSP
หุ้นเด่นวันนี้: BEM
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท
- เดือน เม.ย. ถูกกระทบเต็มที่จาก COVID-19 ปรากฎว่าปริมาณรถบนทางด่วน -38% M-M, -50% Y-Y เหลือ 5.9 แสนเที่ยว/วัน จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า -67% M-M, -74% Y-Y เหลือ 7.8 หมื่นเที่ยวคน/วัน
- ปริมาณรถและผู้โดยสารผ่านจุดต่ำสุดแล้วในเดือน เม.ย. และฟื้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ พ.ค. หลังจากหลายบริษัทเริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานตามปกติ
- คาดกำไร 1Q20 -17% Q-Q, -49% Y-Y เป็น 435 ลบ. และ 2Q20 ไม่ดีนักแต่เป็นการสะดุดชั่วคราว ยังมีลุ้นประมูลรถไฟฟ้าสีส้มและอื่นๆในอนาคต
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$205ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้และไทย US$228ล้านและ US$42ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลเข้าไต้หวัน US$118ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังไหลออกในปริมาณที่เบาบางสลับไหลเข้าเป็นระยะ โดยนักลงทุนยังคาดหวังต่อเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวจากการทยอย Reopen Economy ของประเทศต่างๆทั่วโลก และติดตามว่าจะเกิด 2nd Wave ของการระบาดหรือไม่
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ศบค.ระบุกิจกรรมปลดล็อคเฟส 2 ว่าจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่กลุ่ม 1. ด้านการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า (ยกเว้นโรงหนัง ฟิตเนส ศูนย์ประชุม) กลุ่ม 2. สถานเสริมความงาม สนามกีฬา พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด (จำกัดจำนวนการเข้า) นวดเท้า กลุ่ม 3. กองถ่าย การประชุมภายใน-นอกองค์กร ทั้งนี้ ต้องรอที่ประชุมใหญ่ 15 พ.ค. ขณะที่ต่างประเทศทยอยคลาย lockdown พร้อมๆกับกังวลการเกิด second wave ส่วนในอู่ฮั่นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 6 รายจนเจ้าหน้าที่ถูกสั่งปลด จากก่อนหน้านี้ที่มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 20 ราย
(+) DRT กำไรดีกว่าเราและตลาดคาด 16-18% อยู่ที่ 168 ลบ. +73% Q-Q, -21% Y-Y ถ้าหักกำไรจากการขายที่ดินใน 1Q19 ออก กำไรปกติ 1Q20 +2% Y-Y จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดทั้งต้นทุนค่าก๊าซและวัตถุดิบลดลง กำไร 1Q20 คิดเป็น 34% ของกำไรทั้งปีที่คาด 492 ลบ. -6% Y-Y แนวโน้ม 2Q20 ชะลอแต่จะมีกำไรขายที่ดินมาช่วย เรายังคงเป้า 6.20 บาท แนะนำซื้อ จุดเด่นอยู่ที่ปันผล คาด Dividend yield 6-7% ต่อปี ทั้งนี้ DRT จะซื้อหุ้นคืนที่ราคา 5.50 บ/หุ้น ระหว่าง 7-26 พ.ค. นี้
(+) SISB แนวโน้มกำไร 1Q20 ดีกว่าที่เราเคยคาดที่ 53 ลบ. เพราะนักเรียนในช่วงสิ้น มี.ค. เพิ่มเข้ามา 20-30 คน (เราคาดว่าไม่มีเพิ่ม) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็ก เราคาดกำไรขยับขึ้นเป็น 58 ลบ. -12% Q-Q, +37% Y-Y กำไรที่ลด Q-Q เพราะรายได้ค่าอาหารกลางวันและค่ากิจกรรมหลังเลิกเรียนลดลง และผลของ TFRS16 ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 2-3 ลบ. แนวโน้ม 2Q20 จะลดลงแรงเพราะเรียน on line เต็มรูปแบบและปรับลดค่าเทอม แต่รายจ่ายส่วนใหญ่คงที่ รายได้น่าจะกลับมาฟื้นอีกทีใน 4Q20 กำไรที่เราคาดทั้งปี 165 ลบ. -25% Y-Y น่าจะยังใช้ได้ คงเป้า 9.80 บาท แนะนำซื้อ
(+) CPALL ประกาศงบวันนี้ น่าจะออกมาที่ 5.6 พันลบ. -10% Q-Q, -4% Y-Y แม้จะได้กำไรที่ดีของ MAKRO มาช่วย ซึ่งทำกำไรได้ 1.68 พันลบ. -18% Q-Q, +11% Y-Y SSSG บวกมากขึ้นเป็น +7% Y-Y จาก +6% Y-Y ใน 4Q19 แต่ CPALL ถูกผลกระทบจาก TFRS16 ทั้งนี้ ประเด็นการลงทุนใน CPALL ไม่ใช่ผลประกอบการแต่เป็นสิทธิ์ในการเปิดสาขาในกัมพูชา 30 ปีซึ่งในระยะแรกจะยังไม่มีนัยยะต่อกำไรของ CPALL ขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนข่าวบวกไปมาก ยังคงราคาเป้าหมาย 78 บาท แนะซื้ออ่อนตัว
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 109.33 จุด ปิดที่ 24,221.99 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแพร่ระบาดรอบที่ 2 ของไวรัสโควิด-19 หลังมีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจีน เกาหลีใต้ และเยอรมนีได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเท
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ขณะที่นักลงทุนติดตามจีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.ในเช้าวันนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 60 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 24.14 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี มีปัจจัยบวกจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้สั่งการให้ซาอุดี อารามโค บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักลงทุนติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 15.9 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ระดับ 1,698 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1081.07 / -0.58
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 พ.ค. - MSCI Semi-annual Index Review ตลาดคาด AWC, TOA, KTC ได้คำนวณในดัชนี และ BANPU ออกจากดัชนี
15 พ.ค. - จีน: Industrial Production (เม.ย.)
- ฮ่องกง: 1Q20 GDP
- ยูโรโซน: 1Q20 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (เม.ย.)
18 พ.ค. - ไทย: 1Q20 GDP
- ญี่ปุ่น: 1Q20 GDP
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web