- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 May 2020 14:57
- Hits: 2926
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 11-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 8 พ.ค.63 ปิด +8.04 จุด อยู่ที่ 1,266.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,082 ลบ.ต่างชาติขาย 2,284 ลบ. สถาบันซื้อ 1,369 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 277 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 961ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น SCB, PTTGC, IVL, BAM, MINT และมียอดขายหุ้น CPALL, ADVANC, SCC, AOT, GPSC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 740 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK, AOT, CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 8,848 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 116,533 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,022 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +1.91%, S&P500 +1.69%, Nasdaq +1.58% ได้แรงหนุนจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. ลดลง 20.5 ล.ราย น้อยกว่าคาดจะลด 21.5 ล.ราย ขณะที่ความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐ – จีนลดลง หลังรองนายก ฯ จีน หลิว เหอ โทรศัพท์หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐ โรเบริต์ ไลท์ไฮเซอร์ กับ รมว.คลังสหรัฐ ยืนยันดำเนินตามข้อตกลงเฟส 1 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx 600 ปิด +0.91 % ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการ Q1/63 ของ ING Bank ของเนเธอร์แลนด์ ขณะที่หุ้นกลุ่มทรัพยากร, สินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้นรับมาตรการคลายล็อกดาวน์
Market View
- • ภาวการณ์การลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปัจจัยหนุนจากการเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ในบางรัฐของสหรัฐ และยุโรป เช่น อิตาลี สเปน เยอรมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ ต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวรับอุปสงค์ที่คาดจะเพิ่มขึ้น หลังเปิดระบบเศรษฐกิจ และคาดเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ขณะที่ความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐ - จีน ลดลงหลังการหารือของรองนายก ฯ จีนกับผู้แทนการค้าสหรัฐ เน้นดำเนินตามข้อตกเฟส 1 โดยจีนจะนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 แสน ล.ดอลลาร์ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์ที่ผ่านมาฟื้นตัว +25 % รับการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส 9.7 mb/d และสหรัฐลด 2 แสน b/d ปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้ สหรัฐจะรายงานดัชนี CPI , PPI , ยอดค้าปลีก ดัชนีภาคการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เบื้องต้น พ.ค. สำหรับดัชนีหุ้นไทยปรับฐานลดลง หลัง Upside ดัชนีเริ่มน้อย เนื่องจาก Valuation อยู่ระดับสูง ( Forward P/E > 17 X ) ขณะที่รายงานกำไร บจ. Q1/63 ของกลุ่มหลัก เช่น สื่อสาร, พลังงานและปิโตรเคมีชะลอตัวลง วันนี้ PTT จะรายงานกำไร Q1/63 คาดขาดทุนราว 2 -3 พัน ลบ. สัปดาห์นี้ติดตามรัฐบาลเริ่มคลายล็อกในเฟส 2 และวันพุธเช้า MSCI Rebalance Index รอบครึ่งปี
Daily Strategy
- • ดัชนี SET ได้แรงหนุนจากรัฐบาลเตรียมพิจารณาปลดล็อกเฟส 2 และความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ – จีนที่ลดลง ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,250 – 1,260 แนวต้าน 1,280 – 1,290 แนะนำเก็งกำไรกลุ่มปิโตร , โรงกลั่น เช่น PTTGC, TOP
- • BEM* (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 10.70 บาท) ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบต่อยอดผู้ใช้งานในช่วงปลายไตรมาส 1 จนถึงเดือนเมษายนไตรมาส 2 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในส่วนนี้ราคาหุ้นได้สะท้อนไปแล้วจากการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันการคลายการ Lock Down ทำให้ผู้โดยสารกลับมาใช้งานระบบขนส่งมวลชนมากขึ้นและคาดว่าจะกลับมาใกล้เคียงกับช่วงปกติในเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับ BEM เองในช่วงต้นปีได้มีการเปิดทดลองใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเตาปูน-ท่าพระ คาดหลังการระบาดของโควิด-19 คลีคลายลงจำนวนผู้โดยสารก็จะเร่งตัวขึ้น และอีกประเด็นที่เราอาจจะลิมกันไปคือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ที่จะมีการขายซองและประมูลกันในปีนี้ ซึ่งหากกลุ่ม BEM ได้มาก็จะเป็น Upside ของราคาได้อีก ในส่วนของการประเมินกำไรสุทธิปี 2563-2564 เบื้องต้นตลาดกำไร BEM ไว้ที่ระดับ 3.47 พัน ลบ. และ 4.48 พัน ลบ. ชะลอตัวลง –36%YoY ในปี 2563 และ +29% ในปี 2564
- • RS* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 11.80 บาท) ผลการดำเนินงาน 1Q63 ขยายตัว +69%YoY ที่ 186 ล้านบาท หนุนจากรายได้จากธุรกิจ Media ของช่อง 8 ที่ดีขึ้นหลังการปรับ Contents เพื่อดึงเม็ดเงินโฆษณา ธุรกิจ Commerce RS Mall ได้รับประโยชน์จาก Work from home และการขยายช่องทางขายผ่าน Amarin TV ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ธุรกิจ Music & others มีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพลงและละครเก่าให้สื่อออนไลน์และ OTT platform เพิ่มขึ้น ซึ่ง Contents พวกนี้มีต้นทุนที่ต่ำ รวมถึงได้ยังได้ประโยชน์จากการช่วยเหลือของรัฐทำให้ค่าใช้จ่าย Amortization และค่าเช่า MUX ลดลงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมสูงขึ้น อย่างไรก็ตามแนวโน้มอาจจะชะลอตัวลงใน 2Q63 ด้วยผลกระทบจาก COVID-19 มากขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะกับการเล่นเก็งกำไรผลประกอบการที่เป็นบวกในระยะสั้น
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด +1.19 ดอลลาร์ อยู่ที่ 24.74 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด +1.51 ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเบเกอร์ ฮิวส์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 34 แท่น อยู่ที่ 374 แท่น เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 80 ปี ขณะที่ Markit คาดกำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลกจะลดลง 14 mb/d ในช่วง เม.ย - มิ.ย. นี้
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย.ปิด -11.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,713.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายหลังสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร เม.ย.ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.21% อยู่ที่ 99.8882
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาขายสุทธิ -140.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -70.9 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -54.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -15.2 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่า อยู่ที่ 32.21 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(0) ดัชนี BDI ปิดไม่เปลี่ยนแปลงวันหยุด Bank Holiday
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.697 %, 2 ปี อยู่ที่ 0.163 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัว อยู่ที่ 7.093/USD
(0) Moody’s คงอันดับ Rating อิตาลีที่ Baa3
(+) ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสอยู่ระดับต่ำสุด
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
สัปดาห์ที่ 3 ตลท.แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สัปดาห์ที่ 3 หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ต่างประเทศ
12 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เม.ย.)
CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (เม.ย.)
13 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)
15 พ.ค. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: TOP, PTTGC
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web