- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 October 2014 16:23
- Hits: 1615
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ ทรงทรง ”
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากความคาดหวังของนักลงทุนเอเชียต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และได้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยวจากครม.เป็นแรงหนุน แต่ยังถูกราคาน้ำมันที่ซบเซากดดันกลุ่มพลังงาน ดัชนี SET ปิดที่ 1,547.41 จุด (0.63 จุด) vol 3.9 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) รองนายกรัฐมนตรีเผย ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Digital Economy เสร็จแล้วและจะมีการตั้งขณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา
(+) จีนรายงาน CPI เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.6% YoY ซึ่งแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค.53 ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
(-) ตลาดหุ้นในเอชีย (ญี่ปุ่น,ออสเตเลีย,เกาหลีใต้) เปิดในแดนลบด้วยโมเมนตัมลบจากตลาดฝั่งสหรัฐที่ปรับตัวลงแรงระหว่างวันวานนี้
(-) แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเยอรมนีเผยอัตราเงินเฟ้อก.ย.ขยายตัว 0.8% ตามที่ตลาดคาด แต่มีความกังวลในกรีซมากขึ้นจาก Bond yield ปรับขึ้นสูงและมีการปรับลดเครดิตเรทติ้งในกลุ่มธนาคาร
(-) สหรัฐ แถลงยืนยัน ผู้ป่วยเชื้ออีโบล่าจากการติดเชื้อภายในประเทศ รายที่ 2 และผู้ติดเชื้อได้เดินทางจากคลีฟแลนด์มาเท็กซัสด้วยเครื่องบินพาณิชย์
(-) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกเดือน ก.ย.ปรับตัวลดลง 0.3% อ่อนแอกว่าตลาดคาดที่ 0.2% แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
(-) การชุมนุมในฮ่องกงเริ่มคุกรุ่น หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุม ส่งผลให้คนออกมาเข้าร่วมมากขึ้นและมีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ
(-) Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมามี Net Sell วันก่อน ราว 1,200 ล้านบาท
(-) สศค. เตรียมหั่นเป้า GDP จากเดิมคาดไว้ที่ 1.5-2% จากส่งออกฟื้นตัวช้า
(+/-) ราคาน้ำมันปิดลดลง 6 เซนต์ ราคาน้ำมันเริ่มทรงตัวหลังเข้าใกล้ 80$/BBl
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การรายงาน Fed Beige Book และความเห็นต่อนโยบายการเงินของ FED ในการแถลงการณ์ระหว่างสัปดาห์
* การทยอยรายงานงบไตรมาส 3 ของหุ้นกลุ่มธนาคารของไทย และ Earning Season ของสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน “ลบตามต่างประเทศ”
คาดหมายดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ด้วยโมเมนตัมลบจากการปรับตัวลงในตลาดต่างประเทศวานนี้ ด้วยความกังวลในเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่สดใสทั้งในยุโรป และจีน ประกอบกับความกังวลต่ออีโบล่าในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีผู้ป่วยรายที่ 2 ด้านปัจจัยสนับสนุนภายในประเทศยังไม่มีนโยบายเด่นที่จะดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ เราจึงคาดหมายเม็ดเงินต่างชาติจะมีทิศทางไหลออก แนะนำเลือกทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Digital Economy เมื่อดัชนีอ่อนตัวซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการที่แข็งแรงในปี 58
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SAMART ราคาปิด 33.25 บาท ราคาเหมาะสม 36 บาท
* คาดกำไรไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ จากผลของ Seasonal และรายได้เพิ่มจากการขาย Set top box
* คาดกำไรปี 57 ที่ 1,734 ล้านบาท โต 21%YoY
* ปี 58 เติบโตเด่นจากนโยบาย Digital Economy คาดกำไรปี 58 ที่ระดับ 2,009 ล้านบาท (EPS 2 บาท)
THCOM ราคาปิด 39.00 บาท ราคาเหมาะสม 45 บาท
* คาดผลประกอบการงวด 3Q57 ทรงตัว QoQ
* 2H57 เติบโต HoH หนุนจากดาวเทียมไทยคม 6 เข้าสู่จุดคุ้มทุน และยอดขาย IPSTAR USER Terminal เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
* มีแผนการยิงดาวเทียมใหม่ หนุนอัตราการเติบโต 32% CAGR
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ
