- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 October 2014 15:57
- Hits: 1639
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET จะปรับลงตามปัจจัยต่างประเทศ
SET View
แนวโน้มSET จะแกว่งตัวลงมองกรอบการเคลื่อนไหว 1535-1550 จุด จากหลากปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุน(1) มีโอกาสเปิดลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคหลังเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นยุโรปปรับลง 2.8-3.6%และดาวโจนส์ปิดลบ 173 จุด โดยปรับลดลงระหว่างวันถึง 460 จุด(2)ดัชนีความกลัว (VIX Index) ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 29 เดือน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับลงมาที่ 2.0%ต่ำสุดในรอบ 16 เดือนบ่งบอกว่านักลงทุนกลัวการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง (3) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง Brent ลงมาแถว US$82ต่อบาร์เรล ปรับลง 12% จากต้นเดือน คงกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน จากความคาดหวังเชิงลบต่อโอกาสถูกปรับลดประมาณการกำไรลง (4) นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีก 1.2 พันล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิในตลาด TFEX ราว 1.1 หมื่นสัญญา อย่างไรก็ตามการประกาศผลประกอบการ 3Q57 ของกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ต่อเนื่องถึงวันศุกร์หากออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้ SETมีโอกาสรีบาวน์ระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วันเน้นถือครองเงินสดหรือหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับลงแรงเพื่อไปรอขายช่วงรีบาวน์
(1)Top Daily Pick :DELTA (คาดกำไรสุทธิ 3Q57ที่ 1.81 พันล้านบาทเติบโต 22%QoQและ 11%YoYและเป็นระดับสูงสุดของปี จากยอดขายดอลลาร์สหรัฐโต 10%YoYและอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวทั้ง QoQและ YoYจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์และกำไรจากการขายเงินลงทุน 200 ล้านบาท)KAMART (คาดกำไรสุทธิ 3Q57 เติบโตเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกัน ที่ 50 ล้านบาทโต 15%QoQ และ 6%YoYและคาดจะเติบโตต่อเนื่องใน 4Q57 จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม)
(2)Technical Pick :KCE MIDA IFEC BEAUTY BGH
(3)Theme Play : กลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่และกลุ่มอาหาร คาดว่าผลประกอบการ 3Q57 จะออกมาดี และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับเพิ่มประมาณการหลังงบออก(ADVANC DTAC INTUCH THCOM CPF TUF )
ระยะ 1-2 สัปดาห์
Trading HOTPOT M RS SST SVI THCOM WORK
ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth AOT BGH PS SIM WORK
Dividend BBL INTUCH MC MODERN PTTEP PTTGC SRICHA
Quant EGCO GFPT MODERN TOG TUF
Fundamental Talk
แนะนำสะสมหุ้น Defensive ในภาวะตลาดผันผวน
1.หลังจากการปรับฐานของหลายตลาดหุ้นโลกโดยเฉพาะตลาดสหรัฐเราเริ่มเห็นสัญญาณอันตรายชัดเจนมากขึ้น โดยในการพักฐานปกติของตลาดหุ้นสหรัฐดัชนีค่า VIX จะดีดตัวขึ้นสะท้อนความกลัวของนักลงทุนไม่เกินระดับ 17-20 เปอร์เซ็นต์ แต่การพักฐานรอบนี้ค่า VIX ดีดตัวขึ้นมาถึงระดับ 26% สูงสุดในรอบ 29 เดือน สะท้อนความกลัวของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเกินกว่าระดับปกติ บวกกับเห็นอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐปรับลดลงมาแว 2% ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน โดยไหลลงจากกรอบแถว 2.3-2.6% จึงเป็นการยืนยันกับดัชนี VIX ว่าตลาดกำลังมีกลัวการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอยู่มาก
2.เราไม่คาดหมายจะเห็นการรีบาวด์ของตลาดหุ้นในสหรัฐและภูมิภาคกลับขึ้นมาเร็วเหมือนรอบที่ผ่านมาเพราะรอบนี้สิ่งที่ตลาดกลัวเกิดจากข่าวตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด เริ่มจากการปรับประมาณการ GDP ของประเทศตลาดเกิดใหม่จาก IMF บวกกับฝั่งยุโรปที่เยอรมันซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจปรับลดคาดการณ์ GDP ลงจาก 1.8% มาอยู่ที่ 1.2% ต่อด้วยตัวเลขค้าปลีกสหรัฐที่พึ่งประกาศออกมา -0.3%MoMต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะโต 0.6%MoMนอกจากนี้การปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบจากภาวะ over supply แม้เริ่มเข้าสู่ high season แล้วก็สะท้อนภาพการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจโลกด้วย
3.ในไทยเองก็เช่นกัน ตัวเลขดุลการค้ารอบล่าสุดเรายังเห็นการส่งออกที่อ่อนแอและการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่หดตัวลง เราจึงมองเห็นความเสี่ยงกับเศรษฐกิจของไทยที่จะต้องปรับลดคาดการณ์ GDP ตาม ด้วยลักษณะประเทศไทยที่เศรษฐกิจพึ่งพิงกับภาคการส่งออก และจะเป็น sentiment ที่ไม่ดีภาคธุรกิจและการลงทุน ขณะที่ SET ณ ระดับปัจจุบันก็ซื้อขายถึง 16.5xP/E’57สูงกว่าค่ากลางในปี 56 ที่ 16x ทั้งที่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการกำไรลงหลังประกาศผลประกอบการ 3Q57 (เราคาดการณ์กำไรของ SET เติบโต 5% และ 13% ในปี 57 และ 58 ขณะที่ช่วง 1H57 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมกันเติบโตเพียง 2%)
การพักฐานของตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นผลจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไปเร็วกว่าปัจจัยพื้นฐานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจริง และจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะจนกว่าจะสะท้อนมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน และเรามองเห็นความเสี่ยงต่อการปรับตัวลงสะท้อนปัจจัยพื้นฐานในระยะข้างหน้า ด้านกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำคงแนะนำทยอยสะสม(1) หุ้น Defensive ที่มีความสามารถในการทำกำไรแข็งแกร่ง มีแนวโน้มเติบโตดี และมีvaluation ไม่แพงมาก ได้แก่กลุ่ม สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ส่งออกอาหาร (CPF TUF GFPT) และ โรงไฟฟ้า (RATCH) (2) กลุ่มหุ้นที่เราให้คำแนะนำ “ซื้อ”ผลประกอบการ 2H57 มีแนวโน้มเติบโตดีHoHรวมถึงโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 58 และมี upside จากมูลค่าเหมาะสมเกินกว่า 25%(GRAMMY, SIM SST MFEC THCOM INTUCH MC AH SRICHA)
Smart Port Note
SST วานนี้ปรับตัวลง 3.25% เรามองหุ้นมีแนวโน้มติด Cash Balance ที่จะประกาศวันศุกร์นี้สูงมาก เนื่องจากงบการเงิน 4 ไตรมาสย้อนหลังยังมีผลขาดทุน ในขณะที่หุ้นมีมูลค่าการซื้อขายที่สูงกว่าเกณฑ์ที่จะเข้าเงื่อนไข Turnover list แล้ว
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.34
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.92
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.87
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.40