- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 May 2020 11:16
- Hits: 3144
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 7-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 5 พ.ค.63 ปิด -23.03 จุด อยู่ที่ 1,278.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,384 ลบ.ต่างชาติขาย 4,604 ลบ. สถาบันซื้อ 409 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 19 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,852 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CPALL,CPF,BTS,RATCH,HMPRO และมียอดขายหุ้น BBL,PTTEP,AOT,KTB,INTUCH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 614 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTT,PTTEP,ADVANC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,436 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 113,820 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 356 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -0.91 %, S&P500 -0.70 % ,Nasdaq +0.51 % ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน และสาธารณูปโภค หลัง ADP รายงานการจ้างงานภาคเอกชน เม.ย. ลดลง 20.23 ล.ตำแหน่ง โดยภาคบริการลดลง 16 ล.ตำแหน่ง ภาคการผลิตลดลง 4.3 ล.ตำแหน่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้น นำโดย Netflix , Amazon ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx600 ปิด -0.35 % หุ้นกลุ่มพลังงาน , กลุ่มเดินทาง ปรับลดลง หลัง EC คาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้จะหดดตัว -7.7 % ขณะที่เยอรมันเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน มี.ค. ลดลง -15.6 % เป็นระดับต่ำสุด
Market View
- • ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรปชะลอตัวรับรายงานทางเศรษฐกิจที่หดตัว โดยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ เม.ย. ลดลง 20.23 ล.ตำแหน่ง และการจ้างงานนอกภาคเกษตร เม.ย. ที่จะรายงานในวันศุกร์คาดลดลง 21.5 ล.ตำแหน่ง อัตราว่างงานคาดสูงถึง 16 % ขณะที่ GDPยูโรโซนปีนี้คาดหดตัว -7.7 % โดย GDP อิตาลีคาดถูกกระทบแรงสุด -9.5 % ก่อนจะฟื้นตัวในปี 2021 ที่ +6.1 % ส่วนเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปเริ่มไม่ชัดเจน หลังศาล รธน.ของเยอรมันขอให้ทาง ECB ชี้แจงการเข้าซื้อสินทรัพย์วงเงิน 7.5 แสน ล.ยูโร ภายในเวลา 3 เดือน นักลงทุนยังรอประเมินการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดธุรกิจค้าปลีก และนิวยอร์คเตรียมเปิดระบบเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับ อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน สำหรับดัชนีหุ้นไทยวันอังคารปิด -1.77 % ต่างชาติขาย 4.6 พัน ลบ. เป็นการขายทำกำไรลดความเสี่ยง หลังดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวจากจุดต่ำใน มี.ค. กว่า +30 % ขณะที่ ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 32.6 & มี.ค. ที่ 42.6 และดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าลดลงอยู่ที่ 37.8 ใกล้เคียงช่วงวิกฤตปี 51 ภาวะการลงทุนถูกดันจากผลประกอบการ บจ.ในช่วง Q1 – Q2 นี้ มีแนวโน้มลดลง วันนี้ติดตาม ADVANC คาดรายงานกำไร Q1/63 ที่ 7.6 พัน ลบ. +0.53 % YoY , +7.7 % QoQ
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ1,260 – 1,270 จุด แนวต้าน 1,290 จุด ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q1/63 และ Upside เริ่มจำกัด โดยปัจจุบัน Forward P/E อยู่ที่ 17.05 เท่า แนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC, ESSO คาดกำไร Q2 นี้มีโอกาสฟื้นตัว QoQ
- • BPP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 18.30 บาท) แนวโน้มผลประกอบปี 63 มีปัจจัยผลักดันการเติบโต จากการรับรู้รายได้เต็มปีโครงการที่ COD ในปีก่อน ขณะที่ระหว่างปี 63 จะมีโครงการใหม่ทยอย COD อีก 4 แห่ง รวม 451 MWe เช่น โครงการ Soc Trang Phase 1 (Wind), SLG (Coal), Solar ยามางาตะ/ยาบูกิ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้า ณ สิ้นปี เพิ่มขึ้นอีก +20% เป็น 2.7 GWe ปัจจัยบวกในระยะสั้นคาดกำไร 1Q63 ฟื้นตัวจากส่วนแบ่งกำไรของ BLCP และ Hongsa หลังผ่านช่วงหยุดซ่อมบำรุงและเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขณะที่โรงไฟฟ้า CHP ในจีนได้รับผลบวกจากภาคอุตสาหกรรมของจีนทยอยกลับมาดำเนินกิจการ ทำให้ปริมาณความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
- • STA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 14.90 บาท) ตลาดประเมินกำไรไตรมาส 1 ที่ 292 ลบ. พลิกจากขาดทุน YoY และ +294%QoQ ธุรกิจหลักที่เป็นตัวหนุนประกอบการคือธุรกิจขายถุงมือยาง ซึ่งทั้งรายได้จากการขายและทิศทางทางอัตรากำไรขึ้นต้นปรับตัวขึ้นดีกว่าปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ หลังการขยายโรงงาน 2 แห่งที่หาดใหญ่และตรัง (SCOD กุมภาพันธ์ 63) ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งอีกราว 9,228 ล้านชิ้นต่อปี โดยบริษัทมีเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดในปี 2563 ที่ 31,994 ล้านชิ้น/ปี +17.83%QoQ และมีเป้าของ Utilization Rate ที่ 95% ทำให้บริษัทแม่อย่าง STA ในปีนี้ลุ้นการ Turn Around เบื้องต้นตลาดประเมินกำไรสุทธิของ STA ปี 2563-2564 ที่ระดับ 1.38 พัน ลบ. และ 1.44 ลบ. พลิกจากขาดทุนในปี 2562 และ +4.34% ในปี 2564
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures มิ.ย.ปิด -0.57 ดอลลาร์ อยู่ที่ 23.99 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด -1.25 ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.72 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.6 ล.บาร์เรล น้อยกว่าคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 8.6 ล.บาร์เรล แต่นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย. ปิด -22.10 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,688.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร หลังจากหลายรัฐในสหรัฐ ยุโรปเริ่มเปิดระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.40% อยู่ที่ 100.10
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -38.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -19.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -19.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.44 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -41 จุด อยู่ที่ 534 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.681 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.176 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัว อยู่ที่ 7.1273/USD
(-) Fitch Rating ลดมุมมองอันดับเครดิตบราซิลสู่ Negative ระดับ BB- คาด GDP บราซิลปีนี้หดตัว -4 % และขาดดุลงบประมาณ 13 % ต่อ GDP
Economic Calendar
ในประเทศ
5 พ.ค. ธปท. เผยแพร่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
5 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
5 พ.ค. สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย แถลงสถานการณ์การส่งออก
7 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที่ 3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
สัปดาห์ที่ 3 ตลท.แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สัปดาห์ที่ 3 หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ต่างประเทศ
6 พ.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากเอดีพี (เม.ย.)
8 พ.ค. US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (เม.ย.)
US อัตราการว่างงาน (เม.ย.)
12 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เม.ย.)
CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (เม.ย.)
13 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)
15 พ.ค. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, M*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web