บล.ทิสโก้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 7-5-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Thursday, 07 May 2020 10:48; Hits: 3373

บล.ทิสโก้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 7-5-2020

สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -23.03 จุด ทรัมป์เล็งเก็บภาษีจีน ต้นเหตุ COVID-19

SET เปิดกระโดดลงและแกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1278-89 วิตกปธน.ทรัมป์ขู่เก็บภาษีจีนรอบใหม่ เหตุเป็นต้นตอการระบาด COVID-19 ด้านมูลค่าซื้อขายลดลงจาก 7.9 หมื่นลบ.วันก่อนหน้า เหลือ 5.1 หมื่นลบ. เนื่องจากคาบเกี่ยววันหยุดยาว ต่างชาติขายสุทธิ 4.6 พันลบ. 3 วันติด และ Short S50 Futures 3,436 สัญญา 3 วันติด 

ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลง ขาดปัจจัยบวกใหม่, ตัวเลขศก.โลกแย่ลงต่อเนื่อง

หุ้นโลกเมื่อวาน (6 พ.ค.) ส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ และตัวเลขศก.โลกที่แย่ลง โดยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดลง 20.2 ล้านคนในเดือนที่แล้ว ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตและภาคบริการทั่วโลกอยู่ในภาวะหดตัวมากขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI -57 เซนต์ หรือ -2.3% ปิดที่ 23.99 $/บาร์เรล ยุติขึ้น 5 วันติด จากแรงขายทำกำไร วิตกภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังแนวโน้มศก.หดตัวรุนแรง มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซึมลง บรรยากาศการลงทุนเป็นลบตามตัวเลขศก.ที่แย่ลงทั่วโลก และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ คาดจะกดดันตลาดหุ้น EM และกระแสเงินทุนตปท.ไหลออกอยู่

ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นวันนี้จะกลับมาเปิดทำการหลังหยุด 3 วันติด ด้าน Bond Yield ปรับตัวขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯ เตรียมออกประมูลพันธบัตรวงเงินสูงถึง 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในไตรมาสนี้ กดดันต่อระดับประเมินมูลค่าหุ้น วันนี้แนะนำติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการของภาคเอกชนจีน (คาดดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.1 จุดใน เม.ย. จาก 43.0 จุดในเดือนก่อนหน้า) และตัวเลขการส่งออกจีน (คาด -11% YoY ใน เม.ย. vs -6.6% เดือนก่อนหน้า), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ (คาด 3 ล้านคน vs 3.8 ล้านคนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้) และการประชุม BOE (คาดคงดบ.ที่ 0.1% แต่อาจมีการปรับแผนการทำ QE ให้ผ่อนคลายมากขึ้น) แนวรับ 1270-75, 1260+/- แนวต้าน 1290, 1300+/- 

กลยุทธ์การลงทุน : ยังไม่รีบร้อนกลับเข้าไปเทรดดิ้ง รอดูอาการแถว 1280 ก่อน

SET วันก่อนปิดต่ำกว่า 1280 ในช่วง Call Market แนะรอดูอาการก่อน ยังไม่รีบร้อนเข้าเทรดดิ้งระยะสั้น, มอง SET จะกลับมาดูดีขึ้น ต้องยืนเหนือระดับ 1280 ให้ได้ก่อน และยังแนะนำ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1260+/-

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CPN – คาดผลประกอบการ 2Q20F เป็นจุดต่ำและจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง ก่อนที่จะเติบโตแข็งแกร่งในปีหน้า จากแนวโน้มการเริ่มกลับมาเปิดห้างฯ นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป, เราปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าลง 32% และ 17% ตามลำดับ จากผลกระทบการปิดห้างฯ ในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐานใหม่ 66 บ. จากแผนการขยายสาขาและการลงทุนในตปท.ที่ยังหนุนการเติบโตในระยะยาว / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. ชอบ CPALL, BJC, HMPRO, CPN, BTS, BEM / หุ้นคาดงบจะออกมาดี – BCH, CPF, EA, MEGA, PRM, PYLON, RBF, SMPC, STA, TVO, VNT / หุ้นที่มีโอกาสเข้า MSCI รอบนี้ (ประกาศ 12 พ.ค.) – AWC, KTC, TOA ออก BANPU / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นบลูชิพที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF พิเศษ เด่น AOT, BAM, BDMS, BTS, CPALL, KBANK, PTT, SCC, VGI / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC 