- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 April 2020 11:20
- Hits: 4120
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 30-4-2020
กลยุทธ์การลงทุน
วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563
มุมมองเรื่องสถานการณ์ Covid-19 ที่เริ่มดีขึ้นหลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุม ทำให้นักลงทุนมองข้ามผลกระทบในทางเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมา กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุน โดยขายทำกำไรหุ้น EA ที่กำไร 1Q63 อาจโตน้อยกว่าที่คาด และสลับเข้าลงทุนใน PTT ซึ่งน่าจะได้กระแสเชิงบวกจากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับขึ้น หุ้น Top Picks เลือก KBANK (FV@B 120), PTT (FV@B 42) และ STA (FV@B 14)
SET Index 1,282.68
เปลี่ยนแปลง (จุด) 7.69
มูลค่าการซื้อขาย (ล้านบาท) 49,140
ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย …จับสัญญาณวันนี้
วานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ในภาพรวมที่ดีขึ้น โดยจํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 9 รายเท่านั้น ขณะที่มีความคืบหน้าต่อการคลาย Lockdown ทางธุรกิจมากขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นปิดในแดนบวกที่ระดับ 1282.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 4.91 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มที่หนุนตลาดหลักๆ คือ กลุ่มพลังงานได้แก่ PTT(+1.49%) PTTEP(+1.62%) EGCO(+5.45%) TOP(+1.95%) กลุ่มขนส่งเช่น AOT(+0.84%) BEM(+0.53%) AAV(+1.62%) และกลุ่มธ.พ. อาทิ BBL(+0.50%) KKP(+3.09%) TISCO(+2.81%) รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่อย่างเช่น AWC(+3.92%) VGI(+7.24%) และ KTC(+5.34%) เป็นต้น
วันนี้ (30 เม.ย.2563) ฝ่ายวิจัยจะเผยแพร่รายงาน Invest + ฉบับเดือน พฤษภาคม 2563 โดยมุมมองที่นำเสนอชี้ให้เห็นถึงผลกระทบอันเนื่องมาจาก Covid-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจโลกซึ่งถูกสะทัอนผ่าน การปรับตัวลดลงรุนแรงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันที่ความต้องการใช้หดตัวอย่างเฉียบพลัน ตามด้วย กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงเห็นได้จากดัชนี PMI ภาคบริการและภาคการผลิตที่ปรับลดลงทั่วโลก อัตราการว่างงานที่ดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับที่สูงกว่าวิกฤติทุกครั้งในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์แวดล้อมดังกล่าวนำมาซึ่งการปรับลดคาดการณ์ GDP Growth ของโลก โดย IMF คาดว่าจะอยู่ที่ -3% มากกว่าวิกติครั้งไหนๆ สำหรับเศรษฐกิจไทย รูปแบบผลกระทบก็ดูไม่ต่างจากที่กล่าวมาข้างต้นมากนัก เพียงโครงสร้างเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพารายได้จากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวในระดับสูง ทำให้ถูกคาดหมายว่า GDP Growth ปี 2563 จะติดลบรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกเป็นไปได้ที่จะติดลบ 5-6% ซึ่งฝ่ายวิจัยจะได้ทำการปรับปรุงตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้งหลังการประกาศ GDP Growth งวด 1Q63 ออกมา
อย่างไรก็ตามด้วยระดับความรุนแรงของการระบาด Covid-19 ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าหลายประเทศ จึงยังมีความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวกลับมาในช่วง 2H63 สำหรับตลาดหุ้นไทยทิศทางการเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กระแสของพัฒนาการ Covid-19 โดยที่ผ่านมาเห็นการดีดตัวกลับของ SET Index จากจุดต่ำสุดบริเวณ 696 จุด อย่างมีนัยสำคัญ แต่ในช่วงนี้น่าจะเห็นการพักฐานเพื่อรอแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ เฉพาะอย่างยิ่ง Fund Flow อย่างไรก็ตามการพักฐานที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีความรุนแรง โดยแนวรับบริเวณ 1180-1200 จุด น่าจะทำหน้าที่ได้ดี ส่วนกรอบบนน่าจะจำกัดอยู่บริเวณ 1300 จุด สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้แนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุนโดย ขายทำกำไร EA และ สลับเข้าลงทุนใน PTT ด้วยน้ำหนักเท่ากัน สำหรับ Top Picks วันนี้เลือก PTT และ KBANK
Fed คงดอกเบี้ยตามคาด, ตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมาไม่ดี แต่นักลงทุนเริ่มมองข้าม
ต่างประเทศเมื่อวานนี้มี 2 ประเด็น คือ 1.) ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ตามเดิม(ต่ำสุดในประวัติศาสตร์) โดยประโยคสำคัญครั้งนี้ คือ Fed ยังเน้นย้ำคือ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำ และมาตรการ QE แบบไม่จำกัดวงเงินอย่างต่อเนื่องต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว 2.)รายงาน GDP สหรัฐงวด 1Q63 ออกมาหดตัว 4.8%qoq (หรือ 0.3%yoy) ต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะหดตัว 4%qoq อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้ตอบรับปัจจัยลบประเด็น GDP ที่ออกมาติดลบดังกล่าวสะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐ หรือ ดัชนี Dowjones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% สอดคล้องกับจีน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ประกาศ GDP จีนงวด 1Q63 หดตัว 6.8%yoy (ต่ำสุดในประวัติการณ์) และหดตัวมากกว่าตลาดคาด แต่ตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 3% ทำให้เชื่อว่าตลาดได้มองข้ามภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวในงวด 1Q63 ไปแล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐและจีนช่วงที่ประกาศ GDP งวด 1Q63
ที่มา: ASPS รวบรวม
ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด อาจเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นพลังงาน
ราคาน้ำมันดิบโลก WTI ปรับเพิ่มขึ้น 18%DoD ล่าสุด แกว่งบริเวณ 16.12 เหรียญฯ ม ราคาน้ำมัน Brent ปรับเพิ่มขึ้น 10%DoD ล่าสุด แกว่งบริเวณ 24.97 เหรียญฯ โดยตลาดมองข้ามประเด็น EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรล และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันรวม 14 สัปดาห์ โดยปัจจัยหนุนหลักๆมาจาก ฝั่ง Demand ที่ผ่อนคลายหลังจากหลายประเทศทั่วโลก ผ่อนคลายให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้และทยอยเปิดธุรกิจ(Reopen) ดังที่ ASPS นำเสนอใน market talk เมื่อวานนี้ ขณะที่ฝั่ง Supply ตลาดยังให้น้ำหนักการประชุม OPEC+ รอบพิเศษวันที่ 10 พ.ค. มีแนวโน้มตัดลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชย Demand ที่หายไป
โดยรวมราคาน้ำมันดิบโลก ที่ดีดขึ้นมาแรงถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นพลังงาน โดยคำแนะนำการลงทุน PTTEP (FV@B>100) และ PTT (FV@B>42)
COVID-19 ในไทยสัญญาณดีต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญในประเทศตลาดยังให้น้ำหนัก
Timeline การผ่อนคลายในแต่ละธุรกิจ
กลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค.63 (Monthly Invest+)
6 หุ้นเด่นประจำเดือน พ.ค. 2563 (Invest+)
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน, ปัจจัยทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web