- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 April 2020 11:54
- Hits: 3249
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-4-2020
สถานการณ์ COVID-19 ในหลายประเทศดูผ่อนคลายหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวกลับจากช่วงเดือน มี.ค.63 ได้เร็วซึ่งหากพิจารณาจากดัชนี MSCI ACWI Index พบว่าปรับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเดือน มี.ค.63 27% หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% ของหากวัดจากรอบ จุดสูงสุด-จุดต่ำสุดระหว่างช่วง ก.พ.- มี.ค. 63 ขณะที่บ้านเรามีพัฒนาการเชิงบวกเช่นกันจากจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นวันละ 18 ราย หนุน SET Index ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.63 มากถึง 31.6% หรือคิดเป็นระดับ 50% ของรอบการปรับฐาน ซึ่งระยะถัดไปหากจำนวนผู้ติดเชื้อมีพัฒนาการที่ดีขึ้น Momentum ที่น่าจะหนุน SET Index ปรับขึ้นต่อเป็นไปได้
แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือน Upside จะยังจำกัด เพราะหากเทียบเคียงกับประเทศเกาหลีใต้ ที่ควบคุมจำนวนผู้ติดเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพสะท้อนจากจำนวนผู้ติดเฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นวันละ 10 รายเท่านั้น หนุนดัชนี KOSPI Index ที่ฟื้นตัวได้ในระดับ 61.8% ของรอบและเริ่มเห็นการพักตัวลงมา ขณะที่สิ่งที่ต้องจับตาในระยะถัดไปคือจำนวนผู้ติดเชื้อในบ้านเราว่าจะคุมได้ดีต่อเนื่องหรือไม่หลังจากเตรียมการคลาย Lockdown ธุรกิจ เพราะหากจำนวนกลับมาเพิ่มขึ้น (หรือเกิด Second Wave) มีความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจะกลับมาปรับฐานเหมือนดัชนี Strait Times ของสิงคโปร์ที่หลังจากฟื้นตัวมา 50% ของรอบการฟื้นตัวก็ถูกแรงขายลดความเสี่ยงออกมาทันทีในช่วงกลางเดือน เม.ย.63
ในยามที่ Upside ของตลาดฯ เริ่มแคบลงไปทุกที กลยุทธ์การลงทุนแนะนำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคา Laggard กลุ่มฯ และยังมี Upside สูง แนะนำ EA KBANK
EA(FV @ 49.00) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ยัง Laggard กลุ่มอยู่มาก และยังมี Momentum เดินหน้าต่อจาก ทิศทางกำไรปกติ 1Q63 คาดเติบโตได้ดีทั้ง yoy และ qoq จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่จะผลิตไฟได้มากขึ้น เพราะเข้าสู่ช่วง high season และได้รับผลบวกจากภัยแล้งซึ่งคาดจะทำให้ความเข้มแสงมากกว่าปกติ รวมถึงยังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าลมหนุมาน 260 MWe เต็มปี (เริ่มผลิตเต็มที่ตั้งแต่ช้วง 2Q62 เป็นต้นมา) หนุนภาพทั้งปี 2563 คาดกำไรปกติเติบโต 8.9%yoy มาอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท ทำ New High อีกครั้ง
KBANK(FV@ 120.00) ราคาปรับฐานลงมากว่า 44%ytd (SET Index ลดลง 20%ytd) แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นน่าจะสะท้อนผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีในช่วง 1Q63 มาในระดับหนึ่งแล้ว จนมี Valuation ที่เริ่มกลับมาน่าสนใจ คือ มี PBV ต่ำเพียง 0.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งที่ 0.8 เท่า) และน่าจะลุ้น Rebound ช่วงสั้นได้
หุ้นแนวโน้มกำไรเติบโต สวนทางภาพรวมของตลาด คือ STA
STA(FV @ 14.00) เป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกรอบด้าน หนุนกำไรกลับมา Turnaround ในปีนี้ เริ่มจาก 1) ธุรกิจถุงมือยาง 20% ของรายได้รวม ได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ถุงมือที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลลอดทั้งปี หลังผู้คนเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคต่างๆมากขึ้น 2) ธุรกิจยางพารา (80% ของรายได้รวม) ฟื้นตัวเช่นกัน จากการที่โรงงานแปรรูปยางในไทยหลายแห่งหยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อยางจาก STA เพิ่มขึ้น 3) STA ก็ได้ประโยชน์จากทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง หนุนประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web