- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 October 2014 19:12
- Hits: 2005
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ SMA 75วัน 1,537
Technical : แนวรับ : 1,537 / 1,521 แนวต้าน : 1,555 / 1.560
หุ้นแนะนำพิเศษ : LH แนวรับ 9.70-9.90 แนวต้าน 10.20/11.00
หุ้นเด่นรายวัน : NOBLE TTCL
วันอังคารตลาดหุ้นไทยดีดตัวปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,546.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด(+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 36,278.05 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 250.11 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,537-1,555 ตลาดขาดปัจจัยบวกกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อต่อเนื่อง การปรับตัวลงเป็นการตอบรับความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและดัชนีตลาดต่างประเทศ มีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นทางเทคนิค(คาดจะไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่ารอบที่ผ่านมา) ในขณะที่ SET50 ทดสอบยืนแนวรับหลักSMA200วัน 1,030 และต่อจากนี้ไม่สร้างจุดต่ำกว่าลงมาแนวโน้มมีโอกาสทดสอบผ่านแนวต้าน แนวต้าน 1,043 / 1,050 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,760-19,110 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,830-19,180
กลยุทธ์ คาดการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ยังอยู่ในกรอบจำกัด กลุ่มธนาคารจะประกาศผลประกอบการภายในวันจันทร์หน้าคาดจะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ แนะนำ SCB KTB KBANK กลุ่มสื่อสารมีความน่าสนใจสำหรับ TRUE DTAC ADVANC กลุ่มท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและวานนี้ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ แนะนำ AOT MINT ERW หุ้นรายหลักทรัพย์ BKD E TRC ระยะกลาง ปรับลงแรงซื้อเพิ่มเล็กน้อย
หุ้นแนะนำพิเศษ
LH(ราคาปิด 9.95 ซื้อ เป้าหมาย 13.20) ปัจจัยพื้นฐานดีจากผลการประกอบการที่ยังมีศักยภาพเติบโตประกอบกับบริษัทมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำที่ช่วยลดความผันผวนของรายได้จากการขาย และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ยอดขาย 3Q57 ทำสถิตินิวไฮทะลุหมื่นล้านบาท เชื่อทั้งปีเกินเป้า 3.2 หมื่นล้านบาท รวม 9 เดือน ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรปี 57 ราว 7,240 ล้านบาท ซึ่งจะมี upside ได้อีกจากการจัดตั้งกอง REIT มูลค่าประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท สินทรัพย์ที่จะโอนเข้ากองทุนได้แก่พื้นที่ให้เช่าของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบจ. แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่ง LHถือหุ้น 60% คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งราว 3Q57 และคาดว่าจะสามารถตั้งกอง REIT ได้ภายในปีนี้ คาดกำไรจากการขายสินทรัพย์ราว 1.2 – 1.8 พันล้านบาทบนสมมติฐานของอัตรากำไรราว 20 – 30%
หุ้นเด่นรายวัน
NOBLE (ราคาปิด 10.20 ซื้อเก็งกำไร ) ผุดแบรนด์ใหม่ปักฐานชานเมืองเปิดตัวโครงการแรกที่แจ้งวัฒนะเป็นแห่งแรก ภายใต้แบรนด์ "real by noble"คอนเฟิร์มปี 2557 ยอดขายเข้าเป้า 6 พันล้านบาท หลังไตรมาส 3/2557 ทำได้แล้ว 4.44 พัน ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
TTCL (ปิด 29 บาท ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดผลประกอบการไตรมาส 3/57 จะออกมาดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาสนี้จะมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหนุนรายได้เติบโตโดดเด่น ส่วนงานในมือ(Backlog)ปัจจุบันมี Backlog ประมาณ 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และในช่วงปลายปีลุ้นได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ประเทศพม่า ขนาดกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาในหลักการกับรัฐบาลพม่า และหาพันธมิตรร่วมทุน (ที่มา:ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 5.88 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 5.88 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากสำนักงานพลังงานสากล( IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนอีก 250,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตามดัชนีลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของภาคธนาคารในสหรัฐอาทิ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐรายงานผลประกอบการพลิกทำกำไร 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากที่ขาดทุน 0.4 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน และ เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ คอมพานี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานผลกำไรต่อหุ้นที่ 1.02 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 99 เซนต์ในปีที่แล้ว ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลงเพียง 5.88 จุด หรือ -0.04% ปิดที่ 16,315.19 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 13.51 จุด หรือ +0.32% ปิดที่ 4,227.17 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือ +0.16%ปิดที่ 1,877.70 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 3.90ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากสำนักงานพลังงานสากล( IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ลงจากเดิมอีก 250,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากคาดการณ์ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.84 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
