- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 April 2020 11:16
- Hits: 2395
บล.เออีซี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-4-2020
Market Outlook
- • วันนี้คาด SET Index แกว่งสร้างฐานจากโซนแนวรับ 1,190- 1,200 จุด แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ แต่ชดเชยด้วยปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ประเด็นผู้นำสหรัฐฯ เริ่มเตรียมพร้อมเปิดเศรษฐกิจหลังมาตรการ Lock down รวมถึงประเด็นผลการทดสอบยาต้านไวรัส COVID-19 มีประสิทธิภาพหนุน Sentiment ตลาดวันนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในวันที่ 1,190-1,220 จุด อย่างไรก็ดี ติดตามการรายงานผลประกอบการบริษัทฯ ช่วง 1Q63 ที่เริ่มประกาศสัปดาห์หน้า
- • Market Factor
- • (+) ผลการทดลองยาต้านไวรัส Remdesivir จากบริษัท Gilead sciences ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยชิคาโก พบว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจำนวน 125 รายสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่เสียชีวิต
- • (+) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนเปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ทันภายในวันที่ 1 พ.ค. โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ แต่อย่างไรก็ดีผู้ว่าการรัฐของแต่ละรัฐจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการผ่อนคลายมาตรการลง
- • (-) สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ระดับ 5.245 ล้านรายต่ำกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับ 6.606 ล้านรายแต่ยังคงอยู่ในระดับมากกว่าปกติที่ระดับ 2-3 แสนรายต่อสัปดาห์
- • (watch) ติดตามตัวเลข GDP 1Q63 ของจีน ตลาดคาดอยู่ที่ระดับ -6.5%YoY จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างไรก็ดีจีนได้เริ่มเปิดประเทศไปบ้างแล้วคาดฟื้นตัวได้ในช่วง 2Q63
- • (-) หอการค้าไทย ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปี 63 ลงเป็นหดตัวที่ระดับ 3.4%-4.9% (จากเดิมคาดขยายตัว 1.1%) หลังรวมปัจจัยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะที่ 3 และการออก พรก.ทั้ง 3 ฉบับเพือดูแลปัญหาสภาพคล่องตลาด และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เข้าในสมมติฐานแล้ว (ประชาชาติธุรกิจ)
- • (-) หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน มี.ค.63 อยู่ที่ระดับ 37.5 ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ประเมินปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 กระทบทุกกลุ่มธุรกิจหยุดชะงักทำให้ธุรกิจ เศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมคาดเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่องในช่วง 2Q63-3Q63 (อินโฟเควสท์)
- • รายงาน สธ.ประจำวันที่ 16 เม.ย.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29 ราย ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 2,672 ราย เสียชีวิต 46 ราย
- • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของไทยล่าสุดรุ่น 5 ปี อยู่ที่ 0.95% (+2.2%DoD) และรุ่น 10 ปี อยู่ที่ 1.40(+1.4% DoD) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 0.68% (+2.2% DoD)
- • ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 63 ที่ 101.9 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือ 76.5 บ. หรือลดลง 24.7%YTD
- • Update Flow เมื่อวันที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิ 2,255.19 ลบ.ส่งผล MTD. ขายสุทธิอยู่ที่ 27,073.78 ลบ. ขณะที่ นลท.สถาบันพลิกขายสุทธิ 4,473.14 ลบ.MTD.ซื้อสุทธิรวมอยู่ที่ 6,296.03 ลบ.
Investment Strategy
- • สัปดาห์นี้เราประเมิน SET ยังผันผวนแต่มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังได้ปัจจัยหนุน ดังนี้ 1) สถานการณ์ COVID-19 เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งในสหรัฐฯ ประเทศในยูโรโซนเริ่มเพิ่มในอัตราชะลอตัวลง รวมถึงไทยที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่าระดับ100 รายหลายวันติดต่อกันแล้ว 2) การเดินหน้ามาตรการกระตุ้น และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจากบรรดาธนาคารกลาง และรัฐบาลจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก 3) รัสเซีย และซาอุฯ ตกลงยุติสงครามราคาน้ำมันด้วยข้อสรุปลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาเรลล์ต่อวันในช่วงสองเดือนหน้า 4) ปัจจัยในประเทศ ครม.เตรียมออกมาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบฯ เพิ่มเติมต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีปัจจุบันตลาดปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของปี 267 จุด (+29%) สะท้อนความผ่อนคลายจากปัจจัยข้างต้นพอสมควรแล้ว ประกอบกับมีปัจจัยกดดันจากตัวเลขผลประกอบช่วง 1Q63 ที่จะทยอยประกาศ โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร และตามด้วยบริษัทฯ อื่นที่คาดออกมาอ่อนตัวต่อเนื่องจนถึงช่วง 2Q63 เนื่องมาจากผลกระทบจากมาตรการ Lock down ทำให้อาจเห็นแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างสัปดาห์ เรามองกรอบการเทรดในสัปดาห์นี้ที่ 1,200-1,300 จุด พร้อมแนะนำหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดีในหุ้น 3 กลุ่ม ดังนี้
- • หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ TEAMG: (กำไรสุทธิ 4Q62 ทำได้ 35 ลบ.โต 67% YoY ด้วยความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งมากประสบการณ์ของธุรกิจออกแบบ ควบคุมงานโครงการกว่า 42 ปี บ.มีศักยภาพสูงหนุนเดินหน้าคว้าโปรเจคใหม่ต่อเนื่อง ปี 63 คาด Backlog ทำ New High หนุนรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจากนี้ มอง TEAMG น่าสนใจหลัง ปจบ.เทรดที่ PE ระดับ 15.5X (ขณะที่อุตสาหกรรมเทรดที่ระดับ 50.2X) ล่าสุดประกาศรับงานใหม่ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.เพิ่มทั้งหมด 5 โครงการ เป็นงานจากภาครัฐทั้งหมดโดยแบ่งเป็นงานที่ปรึกษา 2 โครงการ และงานจัดหาติดตั้งเครื่องมือ 3 โครงการโดยมีระยะเวลาดำเนินงานโครงการ 180วัน – 68เดือน รวมมูลค่างานที่ได้รับทั้งสิ้น 1.04 พันลบ.ขณะที่ความเสี่ยงภาระหนี้สินต่ำมาก โดยมีสัดส่วน Interest bearing debt/equity เพียง 0.04X นอกจากนี้ให้ Dividend Yield กว่า 6.5%), SEAFCO (กำไรสุทธิปี 62 อยู่ที่ 409 ลบ.เพิ่มขึ้น11.22%YoY ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 63 ทำ New High ปจบ.มี Backlog กว่า 2.7 พัน ลบ.บวกกับได้อานิสงส์บวกจากร่าง พรบ.งบประมาณฯ ที่ผ่านสภา และยังมี Upsideจากงานประมูลใหม่ จากโครงการลงทุนทั้งจากรัฐและเอกชน), CPALL (กำไรปกติ 4Q62 ที่ 6 พัน ลบ. โต 10%YoY, +8%QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งจาก 7-11 และ MAKRO ตั้งเป้าเปิด 7-11 เพิ่มอีก 700 สาขาในปี 63 และมีสาขาครบ 13,000 สาขาภายในปี 64 (จาก 11,712 สาขา ณ สิ้นปี 62) ประเด็นประกาศเข้าลงทุนซื้อกิจการเทสโก้ในไทยและมาเลเซีย มูลค่าลงทุนราว 1 แสน ลบ. ในสัดส่วนลงทุน 40% ติดตามการจัดหาแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อ โดยบริษัทแจ้งว่าใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดและเงินกู้ โดยยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน ระยะยาวมองเป็นบวกจาก Synergy ที่เกิดขึ้น จะทำให้กลุ่ม CP มีทั้งค้าส่ง ค้าปลีก และสะดวกซื้อครบวงจร
- • กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสมโดยเน้นหุ้นที่กำไรทั้งปี 62 โตดีและปี 63 โตต่อ แนะนำ SABINA: รายงานผลประกอบการปี 62 ออกมาดี โดยกำไร 413.2 ลบ. เติบโต 14.3%YoY จากยอดขายที่โต 6.1%YoY และอัตราการทำกำรที่ดีขึ้น GPM 54.4% NPM 12.5% เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 51.6%,11.7% ตามลำดับสาเหตุจาก 1) ปรับสัดส่วนการจ้างผลิตจากภายนอกเพิ่มขึ้น ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งทั้งปี และ 2) การขายออนไลน์ประสบความสำเร็จดีมากขณะที่ปี 63 คาดเติบโตต่อเนื่องจากการเน้นการขายผ่านช่องทางค้าปลีกแบบไม่มีหน้าร้าน บวกกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 100 SKU และการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม, SSP ช่วง 4Q62 กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 134.2 ลบ. โต 23.1%YoY คาดรายได้และกำไรปี 63 ทำ New high จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนามและมองโกเลีย ขนาดรวม 55 MW ซึ่ง COD ตั้งแต่ มี.ค. 62 และ ก.ค. 62 ตามลำดับ ขณะที่ 2H63 เริ่ม COD โครงการยามากะที่ญี่ปุ่นขนาด 30 MW. หนุนกำลังผลิตรวมทั้งปีกว่า 158 MW. ล่าสุด SSP ประกาศจ่ายปันผล 0.11บ/หุ้น (Yield1.5%)
- • หุ้นกลุ่มปันผลดี กำไรโต Dividend Play : TISCO จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยรอบผลประกอบการปี 2562 ประกาศจ่าย 7.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 9.7% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 เม.ย. 2563 นี้
- • Trading Idea
- • กลุ่มบริโภคภายในประเทศ CPALL, BJC ประเด็นทางการประกาศห้ามออกจากบ้านช่วงเวลา 22.00-04.00 น.และประกาศปิดร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ช่วงเวลา 24.00-05.00 น. “มองเป็นกลาง”เพราะช่วงนี้เป็นช่วงกักตัวอยู่บ้าน และสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนปิดทำการทั้งหมด ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ใช้บริการน้อยอยู่แล้ว การปิดทำการช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนมาชดเชยรายได้ที่เสียไปได้ โดย BJC เป็นหุ้นได้ประโยชน์จากสถานการณ์ COVID-19 จากยอดขายของธุรกิจ Health care ในช่วงต้นปีถึงปัจจุบันเติบโตดี และธุรกิจบรรจุภัณฑ์เริ่มฟื้นตัวจากปีก่อน
- • กลุ่ม MEDIA (ทีวี) : ประเด็น กสทช. มีมติปรับลดอัตราการนำส่งเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO Fee) สำหรับผู้ประกอบกิจการดิจิตอลทีวีและผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงแบบขั้นบันได หากอ้างอิงรายได้ปี2019 ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลที่จดทะเบียนในตลาดฯที่มีรายได้เกิน 1 พัน ลบ.จะได้ลดอัตรานำส่งจากเดิม 2% เหลือเพียง 0.75% เท่านั้น แนะเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางตรง และที่มีคอนเทนต์ดีในมือ WORK, BEC, MCOT
16-Apr-20 Change (pts.) 15-Apr-20
SET Index 1,200.15 -35.95 1,236.10
SET50 Index 801.61 -26.77 828.38
SET100 Index 1,755.73 -59.45 1,815.18
High 1,231.05 Gainers 375
Low 1,200.14 Unchanged 249
Value (Bt m) 59,613.37 Losers 1,004
Volume (*000) 12,268,588
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 15.7 13.1 13.1
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -14.9
EV/EBITDA (x) 10.5 9.5 8.9
FWD PBV (x) 1.3 1.3 1.2
Dividend Yield (%) 3.6 3.9 4.3
ROE 7.5 8.3 8.7
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 16-Apr-20 WTD MTD YTD
Institution (4,473.14) 1,623.51 6,296.02 32,369.43
Proprietary 608.93 171.74 2,800.00 (4,550.02)
Foreign (2,255.19) (8,841.21) (27,073.77) (142,428.69)
Individual 6,119.40 7,045.95 17,977.75 114,609.28
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชัยรัตน์ คงสุนทร
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
Data Support / Secretary
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web